Radar

beauty stranger

 

เขาไม่ได้เป็นซูเปอร์สตาร์ ดารา ไฮโซ หรือคนหล่อขั้นเทพ เขาเป็นเจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ ‘แม่บ้านมีหนวด’ ที่มีแฟนเพจ กว่า 255,000 คนภายในเวลา ไม่กี่เดือน ทั้งที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า แท้จริงแล้วเขาเป็นใคร

 

หนุ่มชาวสตูลวัย 23 ปีที่มีชื่อเล่นว่า บิว กลายเป็น เจ้าของแฟนเพจที่คนไทยรู้จักเป็นอันดับต้นๆ ภายในเวลา อันรวดเร็ว ทั้งที่เมื่อวันเริ่มต้นสร้างเพจ เขาไม่ได้หวังอะไร มากไปกว่าความสนุก “ก่อนหน้านั้นบิวถ่ายภาพแบบนี้ มานานแล้ว แต่พอถ่ายเสร็จก็อัพขึ้นเฟซบุ๊กแล้วแท็กเพื่อน จนเพื่อนเริ่มบอกว่าหน้าวอลล์ฉันมีแต่รูปแกนะ บิวก็เลยเปิดเพจขึ้นมา มันจะได้เป็นที่เก็บผลงานเราด้วย” บิวเล่าย้อนให้ฟัง “ชื่อเพจ ‘แม่บ้านมีหนวด’ ก็ไม่ได้ผ่านกระบวนความคิดอะไรมากเลย ก็นึกถึงคำว่าแม่บ้านก่อน แม่บ้านอะไรดีนะ แม่บ้านมีหนวดละกัน เพราะเรามีหนวด” 15 กรกฎาคม 2555 คือวันที่เพจชื่อ ‘แม่บ้านมีหนวด’ ถูกสร้างขึ้น พร้อมโพสต์ภาพแรกเป็นผู้ชายร่างอวบสวมแว่นกันแดด ยืนโพสท่าอยู่ในชุดราตรียาวแบบโอต์กูตูร์ ขัดกับแบ็กกราวน์ที่เป็นกำแพงอิฐเก่าๆ ในพื้นที่รกร้าง
มีคำบรรยายว่า ‘รอสามีกลับบ้าน’

 

จากภาพแรกที่มีจำนวนคลิกไลค์ไม่กี่พันคน การแนะนำแบบปากต่อปาก บวกกับการแชร์ภาพแบบ ต่อๆ กันทำให้เพจ ‘แม่บ้านมีหนวด’ ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วมีแฟนเพจทะลุแสนคนในเวลาไม่กี่เดือน จนถึงวันนี้ ที่นอกจากแฟนเพจจำนวนกว่า 2.5 แสนคนแล้ว ทุกภาพ ที่ถูกโพสต์ขึ้นได้รับการกดไลค์ไม่ตกว่า 2 หมื่นคน ด้วยดีกรี ปริญญาตรีสาขานิเทศศิลป์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง และกำลังศึกษาต่อปริญญาโท ด้านบริหารการบันเทิง มหาวิทยาลัยกรุงเทพ พร้อมกับรับงานอิสระในด้านโฆษณาและบันเทิง จึงไม่แปลกใจว่าทุกภาพที่ออกมาแม้จะเน้นอารมณ์ขบขัน แต่กลับมีองค์ประกอบศิลป์และการปรับแต่งภาพในระดับเทียบเคียงกับมืออาชีพ “ทุกวันนี้หลายคนคิดว่าบิวไม่มีการศึกษานะ” สิ่งที่บิวพูดทำให้เราหลุดหัวเราะ “จริงๆ (เน้นเสียงจริงจัง) เขาคิดว่าเป็นตุ๊ดหัวโปกต่างจังหวัด แต่เราก็ไม่จำเป็นต้อง ไปบอกเขาว่าเราเป็นใคร แค่คิดว่าเขาเข้ามาดูเพจของเราก็พอแล้ว”

 

ชุดราตรียาวอลังการทุกชุดที่ปรากฏในภาพบน เพจแม่บ้านมีหนวดมาจากหนึ่งสมองและสองมือของ บิวล้วนๆ จากที่แค่พอเย็บเสื้อผ้าได้แบบสอยด้นธรรมดา ทุกวันนี้เขาเดินจักรเย็บผ้าและสอยผ้าได้อย่างชำนาญ “คือตอนหลังๆ มีคนจ้างเราไปออกงานบ้าง ชุดที่ใส่มันก็ ต้องเนี้ยบขึ้นกว่าเดิม ไม่ใช่ชุดลวกๆ ที่ใส่ไปถ่ายภาพ ลงเฟซบุ๊ก เราเลยต้องหัดเย็บให้เป็น นี่กำลังจะเปิด ห้องเสื้อของตัวเองด้วย แต่จะดูแลเรื่องการออกแบบ อย่างเดียว ไม่ได้ลงไปตัดเย็บเอง เพราะคงตัดไม่ทัน” ด้วยเหตุที่ใช้ชุดไม่เคยซกันเลย ทำให้ตอนนี้ห้องของ บิวอัดแน่นไปด้วยชุดราตรีฟูฟ่อง “แม่รู้ว่าเป็นก็ตอนเห็น ชุดเต็มห้องนี่แหละ” บิวพูดแบบขำๆ “แต่สุดท้ายเขา ก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็ตลกๆ ไป เขารู้ว่ามันเป็นงาน เราไม่ได้ แต่งแบบนี้ไปไหนมาไหน แต่พอเขาดูเพจ เขาบอกว่า เปลี่ยนชุดไม่ได้เหรอ” หนุ่มร่างอวบ ผิวเข้ม และมีหนวด เหนือริมฝีปากหัวเราะเบาๆ หากผู้ชายคนนี้เดินผ่าน หน้าคุณไปแบบไม่ทันสังเกต คุณคงไม่รู้เลยว่าเขาคือ เจ้าของฉายาแม่บ้านมีหนวด

 

สัญลักษณ์สำคัญที่ปรากฏในแทบทุกภาพบน เพจแม่บ้านมีหนวดคือ ชุดราตรีสุดอลังการแบบโอต์กูตูร์ ที่ชายกระโปรงโบกสะบัดพลิ้วไหว ขณะที่ใบหน้าของ ชายหนุ่มที่สวมใส่ถูกบดบังด้วยแว่นกันแดด “ไม่เคย มีรูปไหนที่บิวถอดแว่นเลยนะ ที่ใส่ก็ไม่ได้ต้องการจะ ปกปิดใบหน้า แต่บิวแค่รู้สึกว่าเวลาไปถ่าย เราสามารถ มองคนอื่นเห็นได้ จะได้รู้ว่าเขาคิดอะไรกับเรา แต่เขา ไม่รู้ว่าเรากำลังมองอยู่” บิวถอดแว่นกันแดดวางไว้ขณะ นั่งคุยกับเรา “เวลาไปถ่ายจะมีสองอย่าง อย่างแรกคือ บิวคิดทุกอย่างไว้ในหัวหมดแล้ว คอนเซ็ปต์เป็นยังไง เขียนแคปชั่นยังไง แล้วค่อยไปหาสถานที่ถ่ายกัน อีกอย่างคือเวลาไปทำงานที่ไหน เราก็พกชุดใส่กระเป๋าไว้ เจออะไรก็ถ่าย แล้วค่อยมานั่งคิดแคปชั่นทีหลัง”

 

โลเกชั่นที่ปรากฏในภาพมักขัดกับชุดแฟชั่นสวย หลุดโลกที่เขาใส่ ไม่ว่าจะเป็นริมฟุตบาท ไซต์ก่อสร้าง สวนสาธารณะ ตลาดสด รถปูน รถไฟ รถมอเตอร์ไซต์ และกองขยะ เธอถ่ายมาหมดแล้ว แม้แต่อนุสาวรีย์ เทพีเสรีภาพในนิวยอร์กก็เคยถูกแม่บ้านมีหนวดท้าชน “เวลาไปถ่าย ส่วนมากก็ไปกันแค่สองคน เพราะเรา ไม่ใช่กองใหญ่อะไร” บิวพูดถึงการถ่ายภาพแต่ละครั้ง “แต่ถ้าที่ไหนต้องขออนุญาต เราก็ขออนุญาตก่อนนะ เพราะไม่งั้นเราจะโดนยามไล่อย่างที่เคยเห็นในภาพ (หัวเราะ) มันอารมณ์จริงล้วนๆ เลย” ภาพที่บิวหมายถึงคือภาพสุดฮือฮา เมื่อแม่บ้านมีหนวดกำลังโดน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยืนเอ็ดอยู่ที่ห้างสรรพ- สินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง “วันนั้นบิวไปกับพี่นง (นงพะงา เลาหอารีดิลก เจ้าแม่ถ่ายภาพเลียนแบบดาราแห่ง อินสตาแกรม) คือสนิทกับพี่นงอยู่แล้ว และเราติดต่อ ฝ่ายพีอาร์ไว้แล้วนะ แต่ไปๆ มาๆ มันไม่เคลียร์ ยืนถ่าย กันอยู่หน้าห้าง ยามก็มาไล่ให้ไป บอกว่าต้องขึ้นไป เคลียร์ที่ออฟฟิศชั้นบน และวันนั้นเราก็ไปกันแค่สองคน บิวใส่ชุดราตรียาวสีแดง พี่นงใส่ชุดเจ้าสาว เรามอง หน้ากันแล้วก็คิดว่า จะให้ใส่ชุดนี้ขึ้นไปเคลียร์เนี่ยนะ แค่ฉันยืนอยู่หน้าห้าง คนก็มารุมถ่ายรูปกันอย่างกะ อนุสาวรีย์แล้ว” บิวเล่าจบก็หัวเราะ

จากเพจที่เกิดขึ้นจากความคิดสนุกๆ ส่งให้บิวใน ร่างแม่บ้านมีหนวด เริ่มกลายเป็นคนดังในโลกโซเชียล มีเดีย เธอได้รับเชิญไปออกรายการโทรทัศน์และอีเวนต์ ต่างๆ รวมทั้งมีสินค้าหลายอย่างติดต่อขอพ่วงโฆษณา ผ่านภาพบนเพจของเธอ ทว่าบิวก็ไม่ได้รับไว้ทั้งหมด และรับอย่างมีขอบเขต เพราะไม่ต้องการทำเพจเพื่อ การค้า “ทุกวันนี้หลายคนรู้จักเรา เวลาเจอเราก็จะขอ ถ่ายรูปด้วย แต่คนที่ว่าว่าเราเพี้ยนก็มีบ้าง แต่ก็เป็น คนอีกกลุ่มที่ไม่ได้เล่นเฟซบุ๊ก ไม่รู้ว่าเราคือใคร แต่เรา ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเขาเข้าใจในสิ่งที่เขาเห็น เราก็ ไม่จำเป็นต้องไปอธิบายให้ฟัง” นอกจากเฟซบุ๊กแล้ว เมื่อไม่นานนี้แม่บ้านมีหนวดยังมีอินสตาแกรมของตัวเอง (maebanmeenuad) โดยมีคำอธิบายใต้ตัวเลขผู้ติดตาม 27,000 คนว่า ‘I do what I love and everything are needed of me’ “บิวไม่อยากตั้งความหวังอะไรกับ พวกนี้มาก เพราะถ้าผิดหวัง เรานั่นแหละจะรู้สึกแย่ ตอนแรกๆ ที่มีแฟนเพจเกินหมื่น เราเริ่มแบบว่า เฮ้ย คนชอบงานเราแน่เลย แล้วพอมีแฟนเพจเพิ่มเป็น สามสี่หมื่น บางทีเรามานั่งคิดว่า อ้าว ทำไมรูปนี้คน ไม่ค่อยไลค์เลย จนกลายเป็นว่าเราต้องมานั่งเครียด เราเลยนึกย้อนกลับไปถึงจุดที่เราเริ่มต้นว่า เราทำไป ด้วยความสุขล้วนๆ ไม่เห็นต้องไปแคร์อะไร เราไม่ใช่ เพจมองโลกสวย แบบว่าตื่นเช้ามาอากาศสดใส นั่งจิบ นชา มันไม่ใช่ เราทำให้คุณยิ้มได้ แค่นั้นก็พอแล้ว” บิวนิ่งไปสักพักก่อนจะจบบทสนทนาว่า “แม่บิวคอย สอนตลอดเวลาว่า วันนี้ต้องมีความสุข พรุ่งนี้จะเป็น ยังไงก็ช่างมัน”

เรื่อง: ณัฐวุฒิ แสงชูวงษ์
ภาพ: สุดเขต จิ้วพานิช

0 replies

Leave a Reply

Want to join the discussion?
Feel free to contribute!

Leave a Reply