Final Girl, รวมสาวแกร่งในหนังโหด!

เมื่อพูดถึงหน้าที่ของตัวละครหญิงในภาพยนตร์สยองขวัญที่หลายคนคุ้นเคย คงจะหนีไม่พ้นการตะโกนกรีดร้องขอความช่วยเหลือและรอความตายอย่างน่าเวทนาโดยไม่สามารถลุกขึ้นสู้เพื่อปกป้องตัวเองได้ แต่ที่จริงแล้วยังมีตัวละครหญิงสุดแกร่งจากภาพยนตร์สยองขวัญมากมายซึ่งพร้อมทำลายภาพจำดังกล่าวให้สิ้นซาก

คำว่า “Final Girl” หรือหญิงสาวผู้รอดชีวิตเป็นคนสุดท้าย เป็นศัพท์เฉพาะที่ใช้เรียกผู้รอดชีวิตในภาพยนตร์แนวไล่เชือด (slasher film) ศัพท์คำนี้ถูกคิดค้นขึ้นโดยแครอล เจ โคลเวอร์ ผู้เขียนหนังสือทฤษฎีภาพยนตร์สายสตรีนิยมเรื่อง Men, Women, and Chainsaws: Gender in the Modern Horror Film ในปี 1992 ซึ่งได้กล่าวถึงลักษณะของ Final Girl ไว้ว่า หญิงสาวผู้รอดชีวิตมีทางเลือกอยู่สองทาง ได้แก่ รักษาชีวิตของเธอไว้ให้นานพอจนกว่าความช่วยเหลือจะมาถึง หรือออกไปจัดการกับปัญหาที่อยู่ตรงหน้าด้วยตัวเองและพาตัวเองออกไปจากฝันร้ายนี้ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นคนร้าย ฆาตรกรโรคจิต ไปจนถึงสัตว์ประหลาดจากนอกโลก

Halloween (1978) – ลอรี่ สโตรด

หญิงสาวผู้รอดชีวิตรุ่นบุกเบิกจากหนังสยองขวัญทุนต่ำเรื่องแรกๆ ลอรี่ ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงเด็กในค่ำคืนวันฮาโลวีน โดยที่ไม่รู้ตัวมาก่อนว่าจะต้องต่อกรกับฆาตรกรโรคจิตนาม ไมเคิล ไมเออร์ส ที่หลบหนีออกมาจากโรงพยาบาลจิตเวช (หลังจากก่อคดีฆาตกรรมพี่สาวของตัวเองเมื่อ 15 ปีที่แล้วในคืนวันฮาโลวีน) กลับมาเริ่มต้นการไล่ล่าอีกครั้ง ลอรี่ต้องใช้ไหวพริบทั้งหมดที่เธอมีรักษาชีวิตของตนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของคมมีดของไมเคิลเป็นรายต่อไป ซึ่งเธอกำลังจะกลับมาจัดการกับฆาตกรโรคจิตคู่ปรับอีกครั้งในภาพยนตร์ภาคต่อที่จะเข้าฉายในเดือนตุลาคมนี้

 

Alien (1979) – เอลเลน ริปลี่ย์

เมื่อยานนอสโตรโมได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือจากดาวดวง LV-426 จึงต้องลงจอดเพื่อสำรวจที่มาของสัญญาณ ทว่าสิ่งที่รออยู่เบื้องหน้าคือความตาย และอาจเป็นจุดสิ้นสุดของมนุษยชาติ ตัวละครนี้ถือเป็นหมุดหมายที่สำคัญของผู้หญิงในภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์ ริปลี่ย์ไม่เพียงแต่ต้องต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตนอกโลกอย่างซีโนมอร์ฟ หรือเอเลี่ยนแต่เพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องรักษาพื้นที่ของตัวเองท่ามกลางสังคมปิตาธิปไตยที่มีชายเป็นใหญ่บนยาน ซึ่งเธอเป็นหนึ่งในลูกเรือหญิงเพียงสองคนบนยานดังกล่าว

จากกระแสความนิยมของตัวละครริปลี่ย์ส่งผลให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีภาคต่อตามมาอีกถึง 3 ภาค ได้แก่ Aliens (1986), Alien 3 (1992) และ Alien: Resurrection (1997) นอกจากนี้ยังเป็นภาพยนตร์แจ้งเกิดให้แก่ซีกอร์นีย์ วีเวอร์ ผู้รับบทริปลี่ย์อีกด้วย

 

AVP: Alien vs. Predator (2004) – อเล็กซ่า วู้ดส์

ทีมนักโบราณคดีและนักวิทยาศาสตร์เข้าไปทำการสำรวจโบราณสถานเก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยมีการค้นพบในแถบแอนตาร์กติกา แต่แท้จริงแล้วสถานที่ดังกล่าวกลับเป็นสมรภูมิรบระหว่างสัตว์ประหลาดสองเผ่าพันธุ์ ที่ไม่ว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ชนะ มนุษย์ก็ไม่มีทางรอด มีแต่เพียงอเล็กซ่า นักสำรวจสาวที่แข็งแกร่งจนสามารถร่วมมือกันต่อสู้กับนักล่าแห่งห้วงอวกาศอย่างย้วดจา หรือพรีเดเตอร์ เพื่อสังหารเอเลี่ยนนางพญาได้สำเร็จ นอกจากนี้เธอยังเป็น Final Girl ผิวสีที่มีให้เห็นน้อยมากในภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด

 

You’re next (2011) – อีริน ฮาร์สัน

การเข้าร่วมงานเลี้ยงครบรอบวันแต่งงานในบ้านกลางป่าของครอบครัวเดวิสันเป็นไปอย่างราบรื่น จนกระทั่งมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญใส่หน้ากากสารพัดสัตว์เข้ามาร่วมสังหารสมาชิกในครอบครัวไปทีละคน แต่อีรินไม่ใช่ลูกแกะเชื่องๆ ที่รอให้หมาป่ามาขย้ำได้อย่างง่ายดายแบบเหยื่อคนอื่น ความฉลาดเป็นกรดของเธอสามารถตลบหลังแผนการ และเป็นผู้คุมเกมการไล่ล่าในครั้งนี้ด้วยการรังสรรค์กับดักเพื่อจัดการกับผู้ไม่หวังดีทั้งหลาย เพื่อปกป้องชีวิตของตัวเอง

 

Hush (2016) – แมดดี้ ยัง

แมดดี้ นักเขียนสาวที่มีความบกพร่องทางการได้ยินและการพูดอาศัยอยู่ในบ้านเพียงคนเดียว คืนหนึ่งมีชายลึกลับใส่หน้ากากปรากฏตัวขึ้นที่หน้าต่าง และส่งข้อความชวนเธอมาเล่นเกมแมวไล่จับหนู สิ่งที่จะทำให้แมดดี้รอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราช  ซึ่งเป็นฆาตกรโรคจิตที่มีข้อหามากมายติดตัว คือการใช้จินตนาการจากอาชีพนักเขียนของเธอจำลองสถานการณ์และประเมินความเป็นไปได้ต่างๆ ที่จะพาเธอออกจากค่ำคืนหฤโหดไปได้

 

Peppermint (2018) – ไรลี่ย์ นอร์ท

ไรลี่ย์ พนักงานธนาคารสาวผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากฝันร้ายที่บงการโดยแก๊งค้ายาเสพติด ซึ่งเปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล ความสูญเสียจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นเป็นแรงผลักดันชั้นดีให้เธอที่เคยตกอยู่ในฐานะเหยื่อผู้ถูกล่ากลายเป็นผู้ออกล่าอย่างเต็มตัว ไรลี่ย์ฝึกฝนตัวเองอย่างหนักเป็นเวลาห้าปี เพื่อกลับมาตอบโต้คนชั่วร้ายเหล่านั้นให้สาสมด้วยน้ำมือของเธอเอง (เราเคยรีวิวเรื่องนี้กันด้วยนะ)

ถึงแม้ว่าในชีวิตจริง คนทั่วไปไม่จำเป็นต้องไปต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตชั่วร้ายในนิยายวิทยาศาสตร์ก็ตาม แต่การที่ภาพยนตร์เลือกนำเสนอภาพลักษณ์ของผู้หญิงที่เด็ดเดี่ยวก็ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงมีพลังออกไปต่อสู้กับสิ่งต่างๆ รอบตัวในสังคมที่เธอต้องเผชิญในแต่ละวันได้อย่างกล้าหาญ ซึ่งไม่ต่างกับ Final Girl ที่ยกตัวอย่างมาแต่อย่างใด

Sources
– Barry Keith Grant, The Dread of Difference: Gender and the Horror Film, (University of Texas Press, 1996)

The Final Girl: Gender in Horror

Written by Dusida Worrachaddejchai

 

0 replies

Leave a Reply

Want to join the discussion?
Feel free to contribute!

Leave a Reply