มาดูกันว่า Naomi Scott ผ่านบทบาทอะไรมาบ้าง กว่าจะมาเป็น Princess Jasmine

ถ้าวันหนึ่งตัวการ์ตูนกลายเป็นคนมีชีวิตเหมือนเราขึ้นมาจริงๆ แล้วภาพจำที่เรามีในวัยเด็กจะเปลี่ยนไปมั้ย?

ช่วงที่ผ่านมาบรรดาการ์ตูนดิสนีย์ ทั้งที่มีคาแรกเตอร์เป็นคน สิงสาราสัตว์ หรือแม้กระทั่งข้าวของเครื่องใช้ที่ไม่มีชีวิต ทยอยถูกเปลี่ยนภาพให้กลายเป็นคนหรือภาพเสมือนจริงมาเรื่อยๆ ไล่มาตั้งแต่ Cinderella, Maleficent, Beauty and The Beast, The Junkle Book, Dumbo และล่าสุดก็ถึงคิวของ Aladdin เป็นที่เรียบร้อย

หนึ่งในนักแสดงหลักที่ได้รับการพูดถึงก็คือ คนที่ได้สวมบทบาทเป็นหนึ่งใน Disney Princess อย่าง Naomi Scott แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า สาวชาวอังกฤษคนนี้ นอกจากจะมีบทบาทเป็นนักแสดงแล้ว เธอยังเป็นนักร้องและนักแต่งเพลงอีกด้วย NYLON จะพามาดูว่า กว่าที่จะกลายมาเป็น Princess Jasmine ในวันนี้ เธอเคยผ่านอะไรมาแล้วบ้าง

via : imdb

จุดเริ่มต้นของวงการบันเทิงของ Naomi น่าจะมาจากการร้องเพลงในโบสถ์ เพราะหลังจากนั้น เธอก็เลือกเรียนต่อด้านดนตรีโดยเฉพาะ จนกระทั่งปี 2009 เธอมาปรากฏตัวอยู่ใน Disney Channel UK ในบท Megan จากซีรีส์เรื่อง Life Bites ที่ดัดแปลงมาจากเรื่อง Life Bites – Pillole di vita. ทาง Disney Channel Italy

via : Disney wiki

หลังจากนั้นก็ได้แสดงหนังที่ฉายทางโทรทัศน์เรื่อง Lemonade Mouth ในบทของ Mohini Banjaree ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทาง ที่ทำให้เธอได้แสดงความสามารถด้านการร้องเพลงให้ทุกคนได้เห็น

via : imdb

ในปี 2011 Naomi ได้รับบท Maddy Shannon เด็กสาววัย 16 ปี ในซีรีส์วิทยาศาสตร์จากฝั่งอเมริกันเรื่อง Terra Nova ทางช่อง Fox แต่ว่าผลตอบรับไม่ค่อยเป็นที่น่าพอใจเท่าไรนัก จึงมีเพียงแค่ซีซั่นเดียว

via : imdb

ต่อมา Naomi ได้เล่น Music Video ในเพลง Hurricane ของ Bridgit Mendler นักแสดงที่ร่วมเล่น Lemonade Mouth กับเธอตอนปี 2013 และในปีเดียวกันนั้น เธอก็ได้แสดงหนังสั้นเรื่อง Modern/Love และ Our Lady of Lourdes ด้วย

Modern/Love

Our Lady of Lourdes

ในปี 2014 Naomi เริ่มต้นการเป็นศิลปินจริงจัง ด้วยการปล่อยอัลบั้มแรกออกมาในชื่อ Invisible Division มีด้วยกันทั้งหมด 4 เพลงคือ Hear the Bells, Motions, Say Nothing และ Running

via : itune

ในปีเดียวกันนั้น เธอได้แสดงหนังสั้นเรื่อง Hello, Again ในบทของ Muara

จนกระทั่งปี 2015 Naomi เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากภาพยนตร์เรื่อง The 33 ที่ดัดแปลงมาจากเรื่องจริงของภารกิจการช่วยชีวิตคนงานเหมืองแร่ ที่ติดอยู่ใต้ซากเหมืองถล่มในประเทศชิลี โดย Naomi รับบทเป็น Escarlette Sepúlveda Valdivia ลูกสาวของ Mario Sepúlveda ผู้เป็นหัวหน้าทีมของคนงานที่ติดอยู่ใต้ดินจากเหตุเหมืองถล่ม

via : imdb

บทบาทที่ทำชื่อเสียงให้กับเธอมากที่สุดก็คือ Kimberly Hart หรือ Pink Ranger ใน Power Rangers ที่เข้าฉายเมื่อปี 2017 แถมยังเป็นผลงานที่ทำให้เธอได้เข้าชิง Teen Choice Awards สาขา Choice Movie Actress: Sci-Fi เป็นครั้งแรกอีกด้วย

via : imdb

จนกระทั่งปี 2019 นี้ Naomi Scott ก็ได้รับเลือกให้เป็น Jasmine หนึ่งใน Disney Princess ที่หลายคนแอบฝันอยากเป็นตอนเด็ก เผื่อจะได้ลองนั่งพรมวิเศษดูสักครั้ง ซึ่งผู้กำกับที่ได้รับเลือกก็คือ ผู้กำกับชื่อดังอย่าง Guy Richie อดีตสามีของนักร้องสาว Madonna ผู้เคยกำกับหนังดังหลายเรื่องอย่าง Snatch, Sherlock Holmes, The Man from U.N.C.L.E.

หลังจากประกาศรายชื่อนักแสดงออกไป Naomi ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตอย่างมาก บนความเห็นที่ว่า ตัวละครหลักอย่าง Jasmine ควรจะเป็นสาวจากตะวันออกกลาง ไม่ใช่สาวอังกฤษแบบนี้  ซึ่งทาง Disney ก็ออกมาตอบกลับว่า ถึงแม้ Naomi จะไม่ได้ถือสัญชาติใดๆ จากประเทศในตะวันออกกลาง แต่เธอก็เป็นชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดียนะจ๊ะ

via : imdb

via : imdb

 

แต่พอตัวอย่างภาพยนตร์ปล่อยออกมา กระแสตอบรับกลับเป็นไปในทางที่ดี ผิดคาดจากที่หลายคนเคยปรามาสนักแสดงสาวเอาไว้ เพราะด้วยฝีมือการแสดงของเธอ รวมกับความสามารถในการร้องเพลงแล้ว ทำให้ Princess Jasmine เวอร์ชั่นนี้ ไม่ได้ทำลายจินตนาการตอนเด็กของสาวกดิสนีย์แต่อย่างใด กระแสยิ่งดูเป็นไปในทางที่ดีมากยิ่งขึ้นด้วยซ้ำ เรียกได้ว่าภาพยนตร์เรื่อง Aladdin น่าจะทำให้ Naomi ดังเป็นพลุแตกขึ้นมาได้เลยทีเดียว

ถ้าใครที่ดูแล้วและติดใจการแสดงของ Princess Jasmine คนนี้ ก็เตรียมรอชมผลงานเรื่องต่อไปของเธอได้เลยกับภาพยนตร์ที่เคยประสบความสำเร็จอย่างมากในอดีตอย่าง Charlie’s Angels ที่กำลังจะนำมารีเมคและมีกำหนดเข้าฉายช่วงปลายปีนี้ แต่ถ้าใครที่ยังไม่ได้ดู ตอนนี้ก็ยังไม่สาย ถ้าจะแวะไปดูฝีมือการแสดงและร้องเพลงของนางเอกสาวคนนี้ดูสักครั้ง

 

reference :

https://www.thefamouspeople.com/profiles/naomi-scott-42746.php

0 replies

Leave a Reply

Want to join the discussion?
Feel free to contribute!

Leave a Reply