Peppermint: นางฟ้าห่ากระสุน

ห่างหายจากบทแอคชั่นไปนานถึง 12 ปี เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์ กลับมาในภาพยนตร์สุดระห่ำแห่งปี PEPPERMINT นางฟ้าห่ากระสุน ที่ได้ผู้กำกับขวัญใจสายบู๊อย่าง ปิแอร์ โมเรล ผู้ให้กำเนิดตำนานทวงแค้นสุดเดือดอย่าง TAKEN ครั้งนี้เขาจะกลับมาสร้างตำนานล้างแค้นเพื่อครอบครัวฉบับหญิงแกร่งกันบ้าง

PEPPERMINT เรื่องราวของ ไรลี่ย์ นอร์ท สาวแบงค์ที่สามีและลูกสาวถูกแก๊งค้ายาเสพติดฆ่าตายต่อหน้าต่อตา เธอเข้าใจว่าการรู้ตัวฆาตกรนั้นจะสามารถทวงคืนความยุติธรรมให้แก่ครอบครัวของเธอได้ แต่เรื่องราวกลับตาลปัตรเมื่อศาลไม่สามารถเอาผิดคนร้าย ความโศกเศร้าและความผิดหวังจึงแปรเปลี่ยนเป็นความเคียดแค้น บ่มเพาะด้วยระยะเวลากว่า 5 ปี ที่เธอฝึกฝนทักษะการฆ่าและเอาชีวิตรอดเพื่อกลับมาทวงคืนความยุติธรรมจากทรชนด้วยตัวเอง

PEPPERMINT ชื่อที่แค่ได้ยินก็รู้สึกสดชื่นนี้อาจทำให้หลายคนถูกหลอกได้ เพราะมันคือหนังที่ชมแล้วรู้สึกกดดัน ลุ้นระทึก และเลือดสาดเท่าที่หนังล้างแค้นเรื่องหนึ่งจะทำได้ ถ้าจะให้พูดว่า PEPPERMINT คือ TAKEN ฉบับผู้หญิงแสดงก็คงไม่ผิดนัก ด้วยเรื่องราวที่สมาชิกในครอบครัวอันเป็นที่รักต้องถูกพรากไป และไม่มีใครสามารถช่วยเหลือได้นอกจากตัวของเธอเอง การตามล่าล้างบางจึงเกิดขึ้น แต่ต่างกันตรงที่ผู้ที่มาล้างแค้นคราวนี้ไม่ใช่อดีตหน่วยรบพิเศษที่เชี่ยวชาญด้านอาวุธ หรือศิลปะการต่อสู้แต่อย่างใด เธอเป็นเพียงพนักงานธนาคารธรรมดาๆ คนหนึ่งที่สูญเสียลูกสาวและสามีต่อหน้าต่อตา

การที่ ปิแอร์ โมเรล เลือก เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์ มารับบทหญิงสาวผู้สูญเสียครอบครัวอันเป็นที่รักในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะเธอเคยรับบทในหนังแอ็คชั่นมาบ้างแล้ว เช่น Daredevil (2003), Elektra (2005), หรือแม้แต่ซีรี่ส์ยาวอย่าง Alias แต่ผมคิดว่าเรื่องสำคัญที่ขาดไม่ได้อีกอย่างก็คือการที่เธอนั้นเป็นคุณแม่ลูกสาม ทำให้เธอเข้าถึงบทบาทและทำให้เราเชื่อหมดใจว่าเธอเป็นแม่ที่สูญเสียลูกไปจริงๆ 

เจนนิเฟอร์กับบท Elektra และฉากที่หลายคนยังลืมไม่ลงใน Daredevil (2003)

แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว PEPPERMINT ก็จะเล่นประเด็นแม่กับลูกอย่างเดียวแม้เธอจะสูญเสียสามีไปด้วยก็ตาม (บางทีก็ทำให้เราแทบลืมไปเลยว่า สามีของเธอก็ตายด้วยนะเฮ้ย) ในเมื่อบทบาทความเป็นแม่มาเต็มแล้ว บทบู๊แอ็คชั่นยิ่งต้องไม่เป็นรองโดยเจนนิเฟอร์แสดงเองทุกฉากแบบไม่ต้องพึ่งนักแสดงแทน

แต่บางครั้งการดำเนินเรื่องโดยการเล่าอดีตผ่านข้อสันนิษฐานของตัวละครอื่นก็ทำให้ความน่าเชื่อถือในความสามารถนางเอกน้อยลงไปบ้าง ในเรื่องการต่อสู้เองก็พอจะเชื่อได้จากการเล่าเรื่องผ่านภาพและตัวละครบ้าง แต่เรื่องการใช้อาวุธหลายประเภทได้อย่างชำนาญราวกับหน่วยรบพิเศษอันนี้ก็ขอติงว่าดูเก่งเกินไปนิด อีกหนึ่งจุดที่ทำให้หนังผิดคาดไปพอสมควรคงเป็นฝ่ายตรงข้ามที่แลดูอ่อนเกิน ทั้งๆ ที่เรื่องตอนแรกปูไว้ซะโหด 

แม้โดยรวมของหนังจะเป็นฉากแอ็คชั่นสุดมัน แต่ยังมีมุมตลกๆให้เราได้พักหายใจหายคออยู่บ้าง (ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้ความโหดลดลงแต่อย่างใด) อีกทั้งการเล่นกับประเด็นที่ทันสมัยทำให้เราเข้าถึงหนังได้ง่ายขึ้นราวกับว่ามันเกิดขึ้นในชีวิตประจำวันเราจริงๆ ซึ่งเป็นอีกเสน่ห์ที่แปลกตาไปจากหนังบู๊ทั่วไป

PEPPERMINT จึงถือได้ว่าเป็นหนังล้างแค้นเรื่องหนึ่งที่ผสานกลิ่นอาย TAKEN บู๊ดิบๆ แบบไม่เน้นเอฟเฟกต์ตระการตา เน้นความสมจริงของการต่อสู้ และยังเก็บรายละเอียดมุขตลกเล็กๆน้อยๆ ไว้ได้ ทำให้เห็นว่าแม้ไรลี่ย์จะเก่งแค่ไหน แต่เธอก็ยังเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่มีมุมที่อ่อนแออยู่บ้าง และทำให้เราเข้าถึงเธอได้อย่างสมบูรณ์

Written by Panyawat Leawpaibool

0 replies

Leave a Reply

Want to join the discussion?
Feel free to contribute!

Leave a Reply