STAY YOUNG AND WATCH ANIME : ปลุกความเป็นเด็กในตัวคุณ ! ไปกับอันดับหนังอนิเมชั่นทำเงินสูงสุดตลอดกาล

 หลายคนแม้วัยจะล่วงเลยคำว่าเด็กมานานแล้ว แต่ความหลงใหลในภาพยนตร์อนิเมชั่นหรือการ์ตูนยังมีอยู่เต็มเปี่ยม วันนี้เราขอลิสท์รายชื่อภาพยนตร์อนิเมชั่นที่คุณไม่ควรพลาด พร้อมการันตีด้วยรายได้ถล่มทลายติดอันดับมาฝากกัน

1. Frozen

Let it go กันไปทั่วบ้านทั่วเมืองกับภาพยนตร์แอนิเมชั่นรายได้อันดับ 1 ของโลก กับเรื่องราวของ เอลซ่า ราชินีหิมะและ อันนา น้องสาว เรื่องราวเริ่มขึ้นอย่างสวยงามกับมิตรภาพของพี่น้องคู่นี้ แต่แล้วพลังพิเศษของเอลซ่าก็ได้เผลอไปทำร้ายอันนาอย่างไม่ตั้งใจ จนทำให้ทั้งคู่ต้องห่างเหินกัน เสน่ห์ของอนิเมชั่นเรื่องนี้เรายกให้ตัวละครที่มิติ ให้ความรู้สึกถึงอารมณ์ในหลายด้านฉีกจากแพทเทิร์นเจ้าหญิงดิสนีย์เดิมๆ พ่วงด้วยเพลงประกอบที่ดูเหมือนว่าจะดังกว่าตัวภาพยนตร์เสียอีก ทำให้ฉากที่เอลซ่าเดินลุยหิมะและร้องเพลงนี้กลายเป็นอีกหนึ่งฉากในตำนานที่ของภาพยนตร์อนิเมชั่นเลยทีเดียว อวยกันมาขนาดนี้แล้วไม่แปลกใจเลยใช่ไหมที่ Frozen ได้ตำแหน่งภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ทำรายได้อันดับหนึ่งไปครอง

2. มินเนี่ยน

ปรากฏโฉมให้เราดูกันครั้งแรกจากเรื่อง Despicable me กับบทบาทลูกระจ๊อกจอมป่วน ทำเอาหลายคนติดอกติดใจขอสมัครเป็นแฟนคลับกองทัพตัวเหลืองนี้กันเป็นแถว ก่อนที่ความดังของเจ้ามินเนี่ยนนี้จะถูกนำมาสร้างต่อเป็นภาพยนตร์ของตัวเอง คราวนี้พวกมันกับมาพร้อมภารกิจตามหาหัวหน้าวายร้ายคนใหม่ ก่อนจะต้องไปพัวพันกับภารกิจชิงมงกุฏ ยอมรับเลยว่าก่อนเข้าโรงเราคาดหวังกับมินเนี่ยนไว้มากกว่านี้ แต่โดยรวมแล้วมินเนี่ยนยังคงรักษามาตราฐานพิกซ่าไว้ได้ดี ยิงมุกตลกให้เราได้ยิ้มกันตลอดเรื่อง เพียงแต่รู้สึกมินเนี่ยนยังไม่ทรงพลังมากพอที่จะพาหนังทั้งเรื่องไปได้ ต่างจากตอนที่ดู Despicble me ที่เจ้าตัวเหลืองนี้เป็นกิมมิคและสร้างสีสันให้กับหนังไว้ได้ดีทีเดียว แต่จะดีไม่ดีอย่างไร เดฟและผองเพื่อนตัวเหลืองก็พากันมากวาดรายได้ไปมากกว่า.. คว้าอันดับที่สองไปครอง

3.TOY STORY

เป็นอีกหนี่งอนิเมชั่นที่เด็กยุค 80 ไปจนถึง 90  ต้องอินแบบสุดๆ เราขอใช้คำว่าโตมาด้วยกันกับภาพยนตร์เรื่องนี้ โดย TOY STORY ภาคแรกออกฉายในปี 1995 ภาคที่สอง ในปี 1999 ก่อนจะกระโดดข้ามไป 11 ปีกับภาคสุดท้ายในปี 2010 โดยเรื่องราวในภาคนี้ ‘แอนดี้’ เจ้าของกองทัพของเล่นมีชีวิตได้เติบโตเป็นวัยรุ่นและหมดวัยที่จะสนใจของเล่นพวกนี้อีกต่อไป เขาจึงเก็บวู๊ดดี้และผองเพื่อนไว้ที่ในกล่อง แต่ด้วยความเข้าใจผิดทำให้เหล่าของเล่นถูกส่งไปบริจาคยังสถานรับเลี้ยงเด็กและเรื่องราววุ่นวายก็เริ่มขึ้น.. สิ่งที่เราประทับใจในทอย สตอรี่ มาตลอดทุกภาคคือเรื่องราวของมิตรภาพทั้งในหมู่ของเล่น และที่วู้ดดี้และผองเพื่อนมีต่อแอนดี้ เรายังจำความรู้ตื่นเต้นในวัยเด็กกับการดู ทอย สตอรี่ ภาคแรกได้ขึ้นใจ จนกระทั่งมาถึงภาคที่สามในวันที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว หนังเรื่องนี้ก็ยังทำให้เราหวนคิดถึงไปอดีตในวัยเด็กกับกองทัพของเล่นกองโต สำหรับความประทับใจในภาคที่สามนี้คิดเป็นเงิน ขึ้นแท่นที่หนังอนิเมชั่นทำเงินอันดับสามไปครอง

4. Zootopia

อนิเมชั่นน้องใหม่มาแรงประจำปีนี้  ที่เบียดขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 4 ของอนิเมชั่นทำเงินสูงสุดตลอดกาล Zootopia คือเรื่องราวของกระต่ายตัวน้อยที่ฝันอยากเป็นตำรวจและได้เข้าไปอยู่ในมหานครซูโทเปีย ก่อนที่เธอจะพบว่าความเท่าเทียมที่ฝันหานั้นอาจไม่มีจริง หากมองผ่านๆแล้ว ซูโทเปียอาจเหมือนดูเป็นสูตรสำเร็จของหนังอนิเมชั่นทั่วไป มีการหักมุมแบบที่เราคาดเดาได้ไม่ยาก และเรื่องราวจบลงแบบแฮปปี้เอนดิ้ง แต่หากมองให้ลึกลงไปแล้วซูโทเปียมีสัญญะแฝงมากมายเกินกว่าที่อนิเมชั่นเบาสมองเรื่องนึงพึงมี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเท่าเทียม การเหยียดเพศ ไปจนถึงระบบการเมือง ซึ่งการได้ขบคิดและมองให้ลึกลงไปอาจเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้สาวกอนิเมะติดใจภาพยนตร์เรื่องนี้จนสร้างรายได้ถล่มทลายก็เป็นได้

5. Lion king

แม้จะผ่านมาถึง 22 ปีแล้ว แต่ภาพยนตร์อนิเมชั่นสุดคลาสสิคอย่าง เดอะ ไลอ้อนคิง จนคงความแรงติดอันดับที่ 5 ไว้อย่างเหนียวแน่น กับเรื่องราวของฝูงสิงโตที่มีการแย่งชิงอำนาจกัน แม้ความทรงจำถึงไลอ้อน คิง จะไม่ชัดมากและเก็บทุกรายละเอียดไม่ได้ แต่เรายังจำความรู้สึกประทับใจเหล่านั้นได้ ความตลกของพุมบ้า หรือฉากชูซิมบ้าขึ้นที่หน้าผา และอีกหลายโมเม้นท์ที่ทำให้ไลอ้อน คิง กลายเป็นภาพยนตร์ในตำนานที่เราหยิบขึ้นมาดูบ่อยๆ ปังไม่ปังแค่ไหนเราลองนึกดูว่าภาพยนตร์เมื่อ 22 ปีที่แล้วสามารถทำรายได้ไปมากถึงเกือบพันล้านเหรียญ ว่าแล้วเราขอกลับไปหาไลอ้อน คิงมาดูอีกสักรอบดีกว่า

6. Despicable Me 2

ภาพยนตร์เรื่องนี้มีตัวร้ายเป็นพระเอก ! ใช่แล้วค่ะ นี่คือเรื่องราวของมิสเตอร์กรูจอมวายร้่ายที่วางแผนจะยึดครองดวงจันทร์แต่ต้องมาพานพบกับเด็กน้อยสามคนจากบ้านเด็กกำพร้า ปฏิบัติการณ์ป่วนๆ เลยเกิดขึ้น ภาพยนตร์อารมณ์ดีเรื่องนี้คือส่งตรงมาจากค่าย Universal และนับเป็นเรื่องที่สองจากค่ายนี้ที่ทำเงินได้ติด Top อันดับต้นๆ สิ่งที่ทำให้ Despicable Me 2  คือมุกตลกสุดแสบกับกองทัพมินเนี่ยนทีออกมาขโมยซีนได้อย่างน่ารัก เป็นส่วนผสมที่ลงตัวจนฟันรายได้เกือบพันล้านเลยทีเดียว

7. Finding Nemo

ไม่พูดถึงเรื่องนี้คงไม่ได้ กับเจ้าปลาเล็กหัวใจโต๊โต ขวัญใจลูกเล็กเด็กแดงทุกบ้าน กับการผจญภัยเพื่อหาทางกลับบ้านของปลาน้อยนีโม่ และหลังจากการหายไปนานถึง 13 ปี ตอนนี้พวกเขากำลังกลับมากับภาคต่อ Finding Dory ปลาสีน้ำเงินความจำสั้นเพื่อนคู่ใจของนีโม่ที่คราวนี้เธอจะมาหาตามพ่อแม่ที่หายไป งานนี้จะมาโกยรายได้ไปเท่าไหร่ต้องติดตามนะ

8. เชร็ค 2

ยักษ์ใหญ่ใจดีอย่างพี่เชร็คก็ไต่อันดับขึ้นมาได้เป็นที่น่าพอใจ เรื่องราวความรักของยักษ์เขียวที่อาศัยอยู่กลางป่า แต่มีเหตุได้เป็นฮีโร่ช่วยเจ้าหญิงฟิโอน่าผู้เลอโฉม ความน่ารักของเรื่องนี้ไม่ได้มีแค่ตัวเอก แต่ผองเพื่อนดองกี้ หรือแมวน้อย พุท อิน บู๊ท ที่มาสร้างความตลกไม่รู้จบ เรื่องราวของเชร็คมีด้วยกันถึงสามภาค เราขอแนะนำให้ไปตามเก็บให้ครบ แล้วคุณจะไม่ผิดหวัง