the next chapter

ไม่ว่าจะมองในฐานะทายาทของครอบครัวศิลปิน หรือสาวสวยมาดมั่นผู้เคยศึกษาด้านภาพยนตร์ คุณหญิงแมงมุม-ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล กำลังพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในการเป็นผู้จัดละครป้ายแดง

 

 
ในช่วงเช้าของวันพฤหัสฯ เรามีนัดกับคุณหญิงแมงมุม-ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล ที่บริเวณสระว่ายน้ำในร่มบนชั้น 23 ของโรงแรมเรอเนสซองส์ กรุงเทพ เพียงไม่กี่วันก่อนหน้าที่ภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่อง ผู้ชนะสิบทิศ โปรเจ็กต์ใหญ่ชิ้นแรกของบริษัท ศรีคำรุ้ง โปรดักชั่น จำกัด จะออกอากาศตอนแรกทางช่อง 8 ผู้จัดป้ายแดงพร้อมให้สัมภาษณ์อยู่ในชุดสวยของ Asava และเอ่ยถึงผลงานเรื่องแรกว่า “แฮปปี้มาก มันออกมาสมกับที่ทีมงานและนักแสดงทุกคนตั้งใจทำจริงๆ” เธอตอบอย่างมั่นใจและฉีกยิ้มกว้าง

 

 
‘ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น’ คงเป็นสำนวนที่เหมาะสมในการอธิบายถึงการสืบทอดดีเอ็นเอจากครอบครัวนักสร้างหนังของคุณหญิงแมงมุมที่มีท่านพ่อ-หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล เป็นผู้กำกับแถวหน้าของเมืองไทย และท่านแม่-หม่อมกมลา ยุคล ณ อยุธยา เป็นผู้อำนวยการสร้าง รวมถึงน้องชาย-หม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล ที่เพิ่งชิมลางการเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ไปก่อนหน้านี้ไม่นาน “ตอนยังเด็ก เราไม่รู้หรอกว่าเราชอบเพราะได้ซึมซับมาตั้งแต่เล็ก หรือเราชอบเพราะเราชอบจริงๆ” เธอเล่าย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้นที่เกิดความรักในการทำหนัง “แต่พอเราได้ไปเรียนและได้ทำโปรเจ็กต์แรก เราก็รู้เลยว่า ‘เอ๊ะ เราชอบนี่!’ ถือว่าเรามาถูกทางแล้ว”

 

 
น้อยคนนักจะรู้ว่าเมื่อสมัยเรียนปริญญาตรีด้านภาพยนตร์และโทรทัศน์ที่มหาวิทยาลัยบอนด์ ประเทศออสเตรเลีย คุณหญิงแมงมุมทำหนังสั้นเรื่องแรกชื่อ My Bear นำเสนอภาพเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ลากตุ๊กตาหมีแขนขาดเดินข้ามสะพานและเมื่อไปถึงกลางสะพานตุ๊กตาหมีก็พลันหายไป แต่เด็กคนนั้นก็ยังเดินต่อ “เหมือนสะท้อนให้เห็นว่าตุ๊กตาหมีคือความฝันของเขา” เธอวาดภาพให้เราจินตนาการตาม “ตอนเด็กเราเติบโตมากับความฝันต่างๆ ว่าอยากเป็นหมอ อยากเป็นอาจารย์ แต่เมื่อโตขึ้น สภาวะหลายอย่างรอบตัวบีบให้เราต้องละทิ้งความฝันบางอย่างเพื่อก้าวไปข้างหน้า แต่เส้นทางข้างหน้าก็ไม่ได้แปลว่าไม่ดี มันอาจจะมีสิ่งที่ดีกว่ารอเราอยู่ก็ได้” คุณหญิงแมงมุมยอมรับว่าเคยคิดทอดสะพานไปสู่การเปิดบริษัทสร้างหนังหรือละครไว้นานแล้ว แต่ยังไม่พร้อมเท่าในวันนี้ “การทำหนังหรือละครต้องทำงานกับคนหมู่มาก ต้องบริหารคนเยอะ ต้องออกกอง ต้องเตรียมตัวเองให้เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นเพื่อทำงานร่วมกับคนเยอะๆ ได้”

 

 
ผู้ชนะสิบทิศ สร้างจากนิยายชื่อดังของยาขอบ เล่าเรื่องราวความรักระหว่างรบของจะเด็ดหรือบุเรงนอง แม่ทัพหนุ่มแห่งตองอู และตะละแม่กุสุมา พระราชธิดาของพระเจ้าแปร ซึ่งคุณหญิงแมงมุมมองว่า “ผู้ชนะสิบทิศ เป็นบทประพันธ์ที่พูดถึงความรักชาติและมีความสนุกครบรส ทั้งรบ รัก ดราม่า และมีความตลกด้วย ซึ่งเหมาะสำหรับทำละครมาก” แม้จะเป็นโปรเจ็กต์แรกของบริษัท ศรีคำรุ้ง โปรดักชั่น จำกัด แต่ภาพยนตร์โทรทัศน์แนวพีเรียดความยาว 40 ตอนเรื่องนี้ทุ่มงบประมาณในการสร้างสูงถึง 80 ล้านบาท โดยมีนักแสดงนำอย่าง ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์, ปั้นจั่น-ปรมะ อิ่มอโนทัย, มด-ณปภัช วัฒนากมลวุฒิ และขนมจีน-กุลมาศ ลิมปวุฒิวรานนท์ รวมทั้งนักแสดงรุ่นใหญ่อีกหลายท่าน “จริงๆ หนังกับละครมีความแตกต่างกันเยอะ แต่ระบบการทำละครของทางบริษัทจะมีโปรดักชั่นที่คล้ายหนัง มีฉากที่อลังการ มีการจัดแสงเหมือนหนัง เพราะเราใช้ทีมงานที่คุ้นเคยจากการทำหนัง” คุณหญิงแมงมุมยังกล่าวเสริมถึงละครเรื่องนี้ว่า “เราอยากให้คนไทยได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ได้รู้ต้นกำเนิดของตัวเอง เราต้องสู้รบมาขนาดไหนถึงได้เป็นประเทศไทยอย่างในทุกวันนี้”

 

 
คุณหญิงแมงมุมเปรียบตำแหน่งโปรดิวเซอร์ละครเป็นเหมือน “พี่เลี้ยงของทุกคน” เธอกล่าวพลางหัวเราะ “เราต้องดูแลความเรียบร้อยทุกอย่างให้การทำงานของทุกคนเป็นไปด้วยดี ตั้งแต่ดูตารางการถ่าย ตามคิวดารา ดูแลการเงิน อาหารการกิน ที่พัก บางทีขาดตัวประกอบก็ยังต้องช่วยหา” แม้ต้องทำงานกลางแจ้งในอากาศที่ร้อน แต่เธอก็ชอบการออกกองถ่าย เพราะได้พบปะกับทีมงานที่ส่วนใหญ่มีความสนิทสนมกันมานาน “เหมือนเราได้ไปเจอญาติพี่น้อง เจอเพื่อน ได้พูดคุยกัน มันสนุกดี” แต่ในทางตรงกันข้าม ความน่าเบื่อของงานนี้คือ “งานเอกสาร” คุณหญิงแมงมุมพูดแบบติดตลก “การทำงานออฟฟิศ งบประมาณ การเงิน เป็นสิ่งที่ไม่สนุกเลย คนเรียนด้านอาร์ตมาจะไม่ชอบอะไรพวกนี้ แต่มันเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และเราต้องทำให้ได้ดีทั้งสองอย่าง”

 

 
สาวสวยคนดังผู้เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและสดใสอยู่ตลอดเวลายอมรับว่าการก้าวมานั่งเก้าอี้ผู้จัดละคร “กินเวลามากพอสมควร” ทำให้เธอต้องหยุดการออกแบบคอลเลกชั่นใหม่สำหรับกระเป๋าแบรนด์ Mangmoom ไว้ชั่วคราว แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ยอมให้การทำงานมาฉกฉวยชั่วโมงพักผ่อนของเธอไป “แมงมุมมีวิธีจัดระบบชีวิตด้วยการแพลนล่วงหน้าหนึ่งอาทิตย์ว่ามีงานอะไรบ้าง แล้วดูว่าเราจะแทรกเวลาส่วนตัวไปตรงไหนได้บ้าง” หากมีวันว่างคุณหญิงแมงมุมชอบเดินทางไปชาร์จแบตที่ชายหาดสักแห่งในเมืองไทย ไม่ก็ออกกำลังกายหรือไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ แต่ก็ไม่ลืมแบ่งเวลาส่วนหนึ่งให้นายพลดอลล่าร์-พล.ต.พัชร รัตตกุล สามีสุดที่รัก

 

 
“แมงมุมโตมากับความกดดันโดยตลอด” ราชนิกูลสุดเปรี้ยวตอบอย่างฉะฉานเมื่อถูกถามถึงการถูกคาดหวังในการเป็นผู้จัดละครมือใหม่ “ตอนไปเรียนหนังสือที่สวิตเซอร์แลนด์ แมงมุมก็เป็นคนไทยคนเดียว เราเลยต้องตั้งใจเรียนกว่าคนอื่น พอกลับมาเมืองไทย คนก็จับตามองว่าเป็นลูกพ่อ ตอนเข้าวงการแฟชั่น ก็ไม่ได้เรียนแฟชั่นมาด้วยซ้ำ แล้วตอนนี้ก็มาทำละคร” คุณหญิงแมงมุมกล่าวอย่างอารมณ์ดี ดวงตาคมของเธอแฝงไว้ด้วยการมองโลกในแง่บวก “แต่แมงมุมเรียนรู้ที่จะใช้ความกดดันเป็นแรงผลักดัน เราต้องทำได้ดีเกินกว่าที่เขาคาดหวังไว้”

 

 

 

เรื่อง: ณัฐวุฒิ แสงชูวงษ์

ภาพ: สุทธิพนธ์ การงาน

สถานที่: renaissance bangkok hotel โทร. 0-2125-5000

0 replies

Leave a Reply

Want to join the discussion?
Feel free to contribute!

Leave a Reply