จาก Billy Elliot สู่ Navillera: 21 ปีผ่านไป ทำไมบัลเลต์ยังคงเป็นของแปลกสำหรับความเป็นชาย?

ถ้าหากพูดถึงนักแสดงชายหน้าใหม่มากความสามารถของวงการซีรีส์เกาหลีก็ต้องหนีไม่พ้น ซงคัง ที่เราได้ติดตามผลงาานของเขาทั้งจาก Sweet Home และ Love Alarm ทั้ง 2 ซีซัน ที่เป็นเรื่องติดอันดับ Top 10 บน Netflix อยู่หลายสัปดาห์เลยทีเดียว ระหว่างนี้ก็มีข่าวงานแสดงเรื่องใหม่ของเขาออกมาอยู่เรื่อยๆ ซึ่งเราเชื่อเลยว่าถ้าติดใจการแสดงของซงคังแล้วต้องตั้งตารอชมผลงานของเขากันอยู่แน่ๆ แต่ระหว่างนี้ก็ไม่ต้องรอนาน เพราะมีอีกหนึ่งเรื่องเพิ่งจบกับ Navillera ที่ไม่ใช่แค่การแสดงของซงคังเองที่น่าสนใจ แต่เนื้อเรื่องที่ถูกดัดแปลงมาจาก Webtoon ก็ทำให้น่าติดตามด้วยเหมือนกัน

Navillera เล่าถึงชีวิตและความฝันของคนในสองช่วงวัยผ่านอาชีพไม่เราไม่คุ้นตาจากซีรีส์ฝั่งเอเชียนักอย่าง “บัลเลต์” คนหนึ่งคือ อีแช-รก (ซงคัง) ชายหนุ่มอายุ 23 ปี กำลังสานฝันในการเป็นนักบัลเลต์อาชีพพร้อมๆ กับการทำงานหาเลี้ยงตัวเองไปด้วย อีกคนคือ ชิมด็อกชุล (พัคอินฮวาน) คุณตาวัยเกษียณผู้ตัดสินใจมุ่งมั่นจะทำตามฝันวัยเด็กในการเป็นนักบัลเลต์ให้ได้ แม้จะอยู่ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากครอบครัวอย่างหนักหน่วงก็ตาม

แม้ Navillera จะเปิดการทำตามความฝันเป็นเรื่องหลัก แต่การเลือกวางให้ “บัลเลต์” เป็นความฝันของผู้ชายสองคนนั้น เป็นเรื่องน่าสนใจของซีรีส์จากฝั่งเอเชียไม่น้อย และถึงแม้ครูสอนเต้น หรือเหล่าเพื่อนนักเรียนในคลาสจะเป็นเพศชาย แต่หนทางของผู้ชายสองคนที่ต้องเดินผ่านความสงสัยและการเปิดใจยอมรับ “ผู้ชายที่เต้นบัลเลต์” จากคนอื่น ก็คงยังสะท้อนถึงการเปิดกว้างทางอาชีพของเพศต่างๆ อยู่

ตั้งแต่คำพูดของคุณพ่อของชิมด็อกซุลในอดีตที่ว่า “เกิดเป็นลูกผู้ชาย อยากทาแป้งแล้วเต้นหรอ” จนถึงครอบครัวของชิมด็อกซุล ที่เมื่อรู้ว่าคุณตาไปเรียนบัลเลต์ก็คัดค้านกันอย่างเต็มเสียง แถมยังบอกว่าเป็นการกระทำให้ที่บ้านต้องอับอายอีกด้วย

‘ควรแก่อย่างสง่างามสิ – ชเวแฮนัม’

ย้อนกลับไปเมื่อ 21 ปีที่แล้ว ก็มีภาพยนตร์ที่คล้ายๆ กันกับ Navillera อยู่เรื่องหนึ่งที่อยากจะแนะนำให้ทุกคนได้ดูอย่าง Billy Elliot (2000) เป็นเรื่องราวการเดินตามความฝันของเด็กชายนาม Billy Elliot ผู้มีพรสวรรค์ในด้านการเต้น ท่ามกลางการต่อต้านของพ่อและพี่ชายมองว่าบัลเลต์เป็นการเรียนของเด็กผู้หญิงและอยากให้เขาเรียนชกมวยที่ดู “แมน” กว่า เราไม่สปอยล์ตอนจบ แต่บอกได้ว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ส่งให้นักแสดงนำ Jamie Bell ซึ่งเพิ่งได้รับโอกาสแสดงหนังเป็นครั้งแรก ได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเวที BAFTA ในปีนั้น และ Jamie ก็กลายเป็นอีกหนึ่งนักแสดงคุณภาพของอังกฤษจนถึงปัจจุบัน

บิลลี่กับมวย และ แช-รก กับฟุตบอล ว่ายน้ำ และบาสบอลคือภาพที่ทั้ง Billy Elliot และ Navillera เสนอให้เห็นว่าตัวละครหลักนั้นได้ลองเล่นกีฬาที่เป็นภาพจำว่าเหมาะกับเด็กผู้ชายมาแล้วทั้งนั้น ก่อนจะแสดงให้เห็นว่าสุดท้ายทั้งลองชอบบัลเลต์มากกว่า ในขณะที่ทั้งคู่ก็ยังใช้ชีวิตแบบผู้ชายปกติได้

ด้วยความที่นักบัลเลต์หญิงคือภาพจำของคำว่าบัลเลต์สำหรับคนทั่วไป อาชีพนี้เลยดูจะเป็นกิจกรรมสำหรับผู้หญิงเสียมากกว่า ส่งผลให้ผู้ชายหลายคนอาจจะไม่กล้าที่จะลองเรียนรู้ศิลปะการเต้นชนิดนี้

แล้วผู้ชายที่เต้นบัลเลต์เป็นผู้ชายจริงๆ หรือเปล่า? ไม่ว่าจะผ่านไปอีกกี่สิบปี คำถามนี้ก็ยังคงเป็นข้อสงสัยอันดับต้นๆ สำหรับการเต้นบัลเลต์และผู้ชายแน่นอน ซึ่งก็มีนักบัลเลต์มืออาชีพที่ชื่อ Tristan Simpson ได้เล่าประสบการณ์ต่างๆ ในการเป็นนักบัลเลต์ชายมืออาชีพไว้ทางแชนแนลของเขาเอง แน่นอนว่าก็ต้องพูดถึงคำถามยอดฮิตคำถามนี้ด้วย

Tristan เองก็ได้เล่าว่าการแสดงบัลเลต์นั้นก็เหมือนกับการแสดงละครทั่วไปที่ต้องมีทั้งตัวละครหญิงและตัวละครชาย เพียงแต่ว่าการเต้นของนักบัลเลต์หญิงและชายนั้นมีความแตกต่างกัน บัลเลต์ในภาพที่เราคุ้นเคยอย่างการกระโดดและหมุนตัวให้เข้ากับเพลงที่บรรเลงอย่างช้าๆ นั้นจะเป็นการเต้นแบบผู้หญิงมากกว่า ส่วนนักเต้นผู้ชายจะเน้นไปที่การหมุนและกระโดดลอยตัวสูงในท่วงท่าที่เข้มแข็งเสียมากกว่า

แล้วภาพจำที่ว่านี้เปลี่ยนไปบ้างหรือยัง? มีตัวอย่างหนึ่งในปี 2019 ตอนที่ Lara Spencer ผู้ประกาศของรายการ Good Morning America รายงานข่าวเรื่องวิชาเรียนของเจ้าชาย George แห่งราชวงศ์อักฤษ และมีท่าทีตลกขบขันเมื่อพูดมาถึงวิชาบัลเลต์ ทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจเป็นวงกว้าง และเกิดแคมเปญ #BoysDanceToo บนโลกโซเชียลเพื่อเรียกร้องสิทธิ์ความชอบของเจ้าชาย เรื่องนี้ยังทำให้นักเต้นบัลเลต์กว่า 300 คนทั้งหญิงและชายต่างก็ออกมารวมตัวแสดงพลังกันที่ Times Square เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ชายทุกคนภูมิใจในการเต้นบัลเลต์ของตัวเอง

ความจริงแล้วบัลเลต์ที่นับว่าเป็นศิลปะแขนงหนึ่งนั้นถือว่าเป็นกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาบุคลิกภาพได้ในอีกรูปแบบหนึ่ง ทั้งในด้านการจัดองค์ประกอบร่างกาย การยืน การเดินให้ดูสง่างาม และบัลเลต์ยังสามารถเป็นพื้นฐานที่จะต่อยอดไปสู่การเต้นในรูปแบบอื่นๆ ด้วย ยิ่งถ้าได้เริ่มเข้าสู่วงการบัลเลต์ตั้งแต่ยังเด็กก็ถือว่าได้เปรียบในข้อนี้อีกด้วย เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็เต้นบัลเลต์ได้ทั้งนั้น

แน่นอนว่าการเต้นบัลเลต์ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ได้ยากเกินกว่าจะฝึกฝน ซึ่งซงคังเองได้บอกเอาไว้ในงานแถลงข่าวเปิดตัวซีรีส์ Navillera ว่า การที่ต้องมารับบทเป็นนักบัลเล่ต์นั้นทำให้เขาต้องฝึกฝนทักษะอย่างจริงจังก่อนถ่ายทำนาน 5-6 เดือนเพราะว่าการเคลื่อนไหวในรูปแบบนี้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย รวมไปถึงระหว่างการแสดงเขาก็ยังต้องจดจ่อทั้งการเคลื่อนไหวของร่างกายและการแสดงออกทางอารมณ์ของตัวละครไปพร้อมๆ กันด้วย

ทั้งซีรีส์และภาพยนตร์บอกพวกเราว่าทุกคนต่างก็มีความฝันของตัวเองทั้งนั้น ไม่ว่าจะนานแค่ไหน ถ้าหากว่ายังมีโอกาสและมีแรงสู้ต่อไปก็อย่าเพิ่งท้อใจทิ้งความฝันที่มีไป เชื่อว่าสายหนังอบอุ่นหัวใจต้องมีทั้ง 2 เรื่องนี้ในหนังเรื่องโปรดแน่ๆ ส่วนแฟนคลับซงคังคนไหนที่ยังไม่ได้ดู Navillera ก็ใช้ช่วงเวลาสุดสัปดาห์นี้ติดตามทั้ง 8 ตอนนี้กัน รับรองว่าได้เห็นมุมเท่ๆ จากการทุ่มเทฝึกซ้อมการเต้นบัลเลต์ของซงคังแถมยังซึ้งอบอุ่นหัวใจแน่นอน

 

 

Reference:

Ballet And Modern Dance: Using Ballet as the Basis for Other Dance Techniques