LESS BITTER, MORE GLITTER !!!!

ใช่แล้ว! มาเติมสีสันให้กับวันธรรมดากับเครื่องประดับดีไซน์สวย ความหมายดีๆ (ที่ไม่ได้ทำมาจากของราคาแพงเท่านั้น) จากงานเครื่องประดับที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย งาน Bangkok gems & jewelry fair ถ้าพูดถึงคำว่างาน บางกอกเจมส์ หรืองานอัญมณี คงไม่แปลกที่ภาพในหัวของใครหลายคนคือ ภาพเพชรยิ่งใหญ่อลังการ แบบเชยๆ ที่เหมือนหลุดออกมาจากนางในวรรคดีอะไรแบบนั้น หรือว่าคงเหมาะสำหรับหญิงคุณนาย คนธรรมดาและวัยรุ่นอย่างเราเข้าไม่ถึง แต่จริงๆแล้วงานนี้มีเรื่องราวหลายอย่างที่น่าสนใจ เกี่ยวกับเครื่องประดับ และงานดีไซน์ ที่อยากให้หลายคนได้รู้ และสนุกไปด้วยกันกับงานนี้

เถียงไม่ได้ว่าประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการผลิตเครื่องประดับมาตั้งแต่สมัยโบราณ งานช่างทองที่ประณีตบรรจง รวมไปถึงแหล่งค้าพลอยต่างๆที่มีอยู่ในประเทศไทย ตัวอย่างเช่น เมืองกาญจนบุรีขึ้นชื่อเรื่องไพลิน ส่วนพลอยหลากหลายต้องไปจันทบุรี คนรักเครื่องเงินต้องขึ้นเหนือไปเชียงใหม่ ส่วนคนกรุงเทพมหานครอย่างเราก็หนีไม่พ้นเยาวราช ซึ่งเป็นหัวใจของการค้าทอง ส่งผลให้งานเครื่องประดับเมืองไทยเป็นที่รู้จักและ ได้รับการยอมรับจากสากล แต่นอกจากจะโดดเด่นในเรื่องวัตถุดิบและงานช่างแล้ว เรื่องงานดีไซน์ก็โดดเด่นไม่แพ้ใคร! ปัจจุบันมีดีไซน์เนอร์ที่สร้างสรรค์ผลงานออกแบบเครื่องประดับที่น่าสนใจ เป็นที่รู้จักจากต่างประเทศ และบอกเล่าเรื่องราวต่างๆได้มากมาย แบรนด์ต่างๆนี้ได้ถูกรวบรวมไว้ในงาน Bangkok gems & jewelry fair ครั้งที่ 62

งานนี้จัดขึ้นโดย Thailand’s Department of International Trade Promotion กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หรือเรียกย่อๆว่า DITP จะจัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง คือเดือนกุมภาพันธ์ และเดือนกันยายน ซึ่งปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘’Heritage and Craftsmanship’’ หัตถศิลป์มรดกทางวัฒนธรรมและความพิถีพิถันสร้างสรรค์ผลงานของช่างฝีมือไทยที่ได้รับการ ยอมรับในระดับสากล ซึ่งเป็นการนำเสนอ งานฝีมือของช่างที่ได้รับเป็นมรดกตกทอดที่มีค่ามากของคนไทย ซึ่งบอกเลยว่าสุดยอดจริงๆ พูดแล้วไม่เห็นภาพ เราไปดูภาพบรรยากาศงานกันเลย

เข้ามาในงานก็จะพบพาวิลเลี่ยน THE NICHE สีทองเหลืองอร่ามโดดเด่นอยู่ ซึ่งอย่างที่บอกไปว่าเป็นไฮไลท์ของงานนี้เลยในนี้จะมีผลงานโชว์ของนักออกแบบไทยที่มีความสามารถและมีความพิถีพิถันในการสร้างสรรค์ผลงานแบบช่างฝีมือไทย

โดยในงานจะมีการโชว์สกิลช่างทองให้ดูกันสดๆด้วยเราสามารถเดินเข้าไปชมและสอบถามกันได้ใกล้ๆแบบนี้

โบรชัวร์ของงาน สนใจอยากจะดูงานไหนเพิ่มเติม เราเพียงแค่สแกน QR โค้ด

เดินต่อถัดมา ก็มีโซน Closer ให้เข้าไปเล่นได้ โดยเอาเครื่องประดับของเราไปวาง กด In position แล้วเครื่องนี้จะสแกนเครื่องประดับของเราแบบ 360 องศา และขึ้นโชว์ในจอมอนิเตอร์ แบบรอบทิศทาง

ต่อมาโซนที่เราอยากจะนำเสนอคือ โซน Thai’s designers เราตื่นเต้นมากๆกับโซนนี้

ได้เห็นงานออกแบบจากดีไซน์เนอร์ไทย ทำงานกับวัสดุที่หลากหลาย เจ๋งมากจริงๆนะ อยากได้เพื่อนๆได้มาลองเดินดูกัน จะเปลี่ยนความคิดที่มีต่องานแฟร์บางกอกเจมส์ไปเลย และ รับรองว่าต้องได้จิวเวลรี่สักชิ้นติดไม้ติดมือไปแน่นอน! ตัวอย่างเล็กๆน้อยๆที่เราเก็บมาฝาก มีอะไรบ้าง ไปดูกัน

“EVERY JEWELRY IS VALUABLE NO MATTER IF IT IS MADE FROM FOGOTTEN MATERAL,

AS LONG AS WE SEE IT RESPECTFULLY”

ชอบประโยคนี้มากๆ และงานของพี่ตี๋แบรนด์ BASIC TEEORY ทำให้ประโยคนี้โดดเด่นได้จริงๆ เพราะชิ้นงานทุกชิ้นทำจาก เศษกระดาษเหลือใช้!!! ถ้าไม่ถามบอกเลยว่าไม่มีทางรู้ BASIC TEEORY สามารถทำให้ของที่ไม่มีค่าแล้ว กลับมาเป็นสมบัติชิ้นที่น่าเก็บรักษาจริงๆ (บอกแล้วว่างานนี้ไม่ได้มีแต่เพชรพลอย ทองและเงิน)

ดีเทลน่ารักมากก ทำให้อดไม่ได้ที่จะซื้อมาใส่เอง

ยังมีอีกแบรนด์ NYMP HEART ทำงานกับเศษวัสดุเหลือใช้เหมือนกัน เครื่องประดับที่ทำจากเศษไม้มีค่าเหลือใช้ Eco รักโลกสุดๆ แต่ละชิ้นคืองานแฮนด์คราฟล้วนๆ

เมื่อทึ่งกับงานออกแบบที่เลือกใช้วัสดุเหลือใช้มาทำให้เป็นเครื่องประดับที่มีค่า มีเรื่องราวแล้ว เราก็มาต่อกับงาน ที่เน้นดีไซน์และแรงบันดาลใจแบบต่างๆกัน

เราจะเขียนชื่อแบรนด์ไว้ ถ้าเพื่อนๆสนใจอันไหน ไปตามกันได้เลย !

งานดีเทลล้วน ตัวเรือนเงินแท้ พลอยทับทิม จากแบรนด์ CARLETTA & CARLES แบรนด์ที่มีแรงบันดาลใจหลักจากยุคสมัยต่างๆในประวัติศาสคร์ ใส่แล้วให้ความรู้สึกเป็น แดเนริส ทาร์แกเรียน แม่มังกรจาก ซีรีส์ Game of thrones อะไรแบบนั้น

Close up look : เครดิต CARLETTA & CARLES FACEBOOK

มาถึงเครื่องประดับ EVERYDAY WEARABLE ART PIECE จากแบรนด์ ITTI-BITTI กันบ้าง แรงบันดาลใจหลักของแบรนด์นี้คือรูปทรงเรขาคณิต เน้นพลอยที่มีสีสันแปลกตา งานที่สวมใส่ติดมือได้ในทุกๆวัน พาไปได้ในทุกๆที่ แต่ยังมีดีเทลและกิมมิกเล็กๆ เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจที่แตกต่างกันไปในทุกๆคอลเลคชั่น

แบรนด์ PYM กับเครื่องประดับคอลเลคชั่นหมู่ดาว 12 ราศี

เข้าสู่โหมดผู้ชายใส่ได้กันต่อ กับงานไทยแบบ Contemporary จากแบรนด์ THAMMADA STUDIO ที่บอกเลยว่าไม่ธรรมดา เพราะงานออกแบบอย่างแหวนมาลัย ได้รับรางวัล D MARK AWARD มาแล้ว

เดินต่อมาก็จะเจอแบรนด์ PAHKIN งานดีไซน์เครื่องประดับสำหรับผู้ชาย ที่ได้รับแรงบันดาลใจ จากประวัติศาสตร์โลก

งานไม้แกะสลัก แบรนด์ GLEAMWOOD

เดินจนจบงานดีไซน์แล้ว เราก็มาเดินกันต่อเพื่อมองหาวัตถุดิบเจ๋งๆกัน แน่นอนว่ามีให้เลือกเยอะมากกกก อยากหาอะไรเกี่ยวกับเครื่องประดับมีหมด สร้อยเงิน สร้อยทอง เพชรจริง เพชรปลอม พลอยและมุกต่างๆ เดินกันไม่หมดภายในวันเดียว เราจริงตรงดิ่งไปที่ๆเราชอบนั่นคือ หินและพลอยนั่นเอง! มีให้เลือกระรานตา แถมคนขายทุกร้านก็ใจดี ถามอะไรตอบได้หมด ไม่ซื้อไม่ว่ากัน

น้อง Watermelon น่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆ

ส่วนร้านนี้ขายแต่พลอยสีเขียวอย่างเดียว คนที่รักสีเขียวต้องเข้ามีทุกเฉดสีเขียวที่นึกออก

กรี๊ดกร๊าดกับพลอยและหินแล้ว เราก็เดินเล่นต่อ คราวนี้มาหยุดอยู่ที่บูธของนักศึกษามหาวิทยาศิลปากรกัน Concept ปีนี้คือการจับมือกับ Swarovski Gemstone Thailand เพื่อสร้างสรรค์ผลงานเครื่องประดับ

นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของงานนี้ อยากชวนเพื่อนๆมาเสพงานดีไซน์ในรูปแบบของงานแฟร์แบบนี้กันบ้าง และแน่นอนว่ากลับบ้านไปจะได้แรงบันดาลใจอะไรติดไปไม่มากก็น้อย

Written by Kritrin Thunglaohavichien

0 replies

Leave a Reply

Want to join the discussion?
Feel free to contribute!

Leave a Reply