SONGS ON SCENE เปิดทุกเพลย์ลิสต์จากภาพยนตร์เพลงรัก

หนังสักเรื่องกับเพลงประกอบเพราะๆ ก็เหมือนเป็นของคู่กัน แต่หากมีหนังที่ได้นำดนตรีมาเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินเรื่องราวด้วย คงจะช่วยเติมเต็มอารมณ์ของเราให้อินเข้าไปอีก เราจึงรวบรวมหนังเกี่ยวกับดนตรี พร้อมกับเพลย์ลิสต์ที่คุณต้องไปฟังมาฝากกัน แล้วคุณจะรู้ว่าหนังกับดนตรีเมื่อมารวมกันแล้วมันช่างดึงดูดใจอะไรแบบนี้…

Once

   หนังรักเรียลๆ ที่เน้นอารมณ์รักถ่ายทอดผ่านทางบทเพลงกับเรื่องราวสุดประทับใจของคนสองคนที่บังเอิญมาเจอกัน ในระยะเวลาอันสั้น แต่ด้วยความรักในดนตรีเหมือนกัน จึงทำให้เขาทั้งคู่สนิทกันอย่างรวดเร็ว จนอาจตามหัวใจตัวเองไม่ทัน  Once ถือเป็นผลงานเรื่องแรกๆ ของจอห์น คาร์นีย์ (John Carney) แถมยังประสบความสำเร็จในเวทีออสการ์ด้วยการคว้ารางวัลเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปครองอย่าง Falling Slowly เพลงรักจังหวะช้าๆ ที่ฟังแล้วคงถูกใจหลายคน และยังมีเพลย์-   ลิสอื่นที่ไม่ควรพลาดอีกก็คือ Lies และ If you want me

Begin Again

  เมื่อพูดถึง Once ก็ต้องนึกถึง Begin Again…หนังพูดถึงพลังของดนตรีที่เปลี่ยนชีวิตของคนสองคนที่กำลังหลงทาง อย่างแดน โปรดิวเซอร์ตกอับทั้งเรื่องงานและ ครอบครัวกับเกรต้าสาวช้ำรักจากแฟนที่กลายเป็นนักร้องดังทิ้ง แต่เมื่อทั้งคู่มาพบกัน และตัดสินใจทำเพลงด้วยกันนั้น จึงก่อให้เกิดมิตรภาพและเรื่องราวต่างๆ มากมายที่จะเปลี่ยนชีวิตของพวกเขา ซึ่งหนังเรื่องนี้ยังเป็นผลงานของผู้กำกับคนเดียวกับเรื่อง Once ยิ่งไปกว่านั้นยังได้นักร้องหนุ่มสุดฮอตแห่งวง Maroon 5 อดัม เลอวีน (Adam Levine) มาร่วมแสดงด้วย อีกทั้งหนังเต็มไปด้วยเพลงรักซึ้งๆ ที่ไม่ได้สื่อแค่ความรักของชายหญิงแบบเดียวเท่านั้น แต่เป็นความรักในความฝันของตัวเองด้วย โดยมีเพลงเพราะๆ อย่าง Lost Stars เพลงที่ได้ 2 นักแสดงอย่างอดัม เลอวีน และนางเอกของเรื่อง เคียร่า ไนท์ลีย์ (Keira Knightley) มาร้อง หรือจะเป็นเพลงรักอกหัก Like A Fool ก็เพราะไม่ใช่เล่นเหมือนกัน

Music and Lyrics

 ถือว่าเป็นหนึ่งในหนัง Rom-Com ในดวงใจที่สนุกแถมเพลงยังเพราะอีกเรื่องหนึ่ง… Music and Lyrics ว่าด้วยเรื่องราวของอดีตนักร้องบอยแบนด์ที่อยากกลับสู่วงการอีกครั้ง ด้วยการแต่งเพลงให้นักร้องดัง แต่ติดที่ว่าเขาไม่สามารถคิดเนื้อร้องได้ ซึ่งปัญหาของเขาก็หมดไป เมื่อได้มาเจอกับสาวที่รดน้ำต้นไม้ในห้องเขา เรื่องนี้เปรียบเหมือนการเติมเต็มของสิ่งที่พวกเขาได้ขาดไป ซึ่งเพลงประกอบหนังเรื่องนี้ เรียกได้ว่าดังจนบางทีคนรู้จักเพลงก่อนหนังซะอีก!  คือเพลง Way back in to love นั้นเอง ที่ได้พระเอก-นางเอกมาร้องด้วยนะ

Pitch Perfect

  อะแคปเปลล่า (Acapella) หรือการร้องเพลงประสานเสียงโดยไม่ใช้เครื่องดนตรีประกอบ ว่าง่ายๆ เลยก็เสียงเราเองเนี่ยหละ….เป็นทั้งเสียงร้องและเสียงดนตรีไปเลย ซึ่งในหนังจะเล่าเรื่องราวของชมรมอแคปเปลล่าหญิงล้วนในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งนอกจากการร้องอแคปเปลล่าของพวกเธอแล้ว ยังมีเรื่องราวความรัก และมิตรภาพภายในชมรมอีกด้วย นอกจากนี้เรื่องนี้ยังประสบความสำเร็จจนมีภาค 2 ออกมาให้เราได้ติดตามกันด้วย และเพลงส่วนใหญ่ในเรื่องจะเป็นเพลงจากศิลปินดังๆ ที่นำมาโคฟเวอร์ใหม่ในเวอร์ชั่นอแคปเปลล่า เช่น เพลง Flashlight ของนักร้องสาว Jessie J ในภาค 2 ที่ถูกนำมาร้องในเวอร์ชั่นอแคปเปลล่า บอกเลยว่าเราฟังแล้วยังแอบขนลุกเล็กๆ เลย

The Runaways

 Hello, daddy. Hello, mom. I’m your ch-ch-ch-cherry bomb!… เนื้อเพลง Cherry Bomb ลอยมาทันที เมื่อพูดถึงวงร็อคหญิงล้วนในตำนานช่วงยุค 70s อย่าง The Runaways ที่ได้ถูกนำมาถ่ายทอดในรูปแบบของหนังให้เราได้ชมกันด้วยในเรื่องได้สาวมากความสามารถ ดาโกต้า แฟนนิ่ง (Dakota Fanning) มารับบทนักร้องนำวง เชอร์รี่ เคอร์รี่ (Cherry currie) และยังได้คริสเตน สจ๊วต (Kristen Stewart) มาร่วมแสดงอีกด้วย แน่นอน! เพลงจากเรื่องนี้ก็เด็ดดวงไม่แพ้กัน ทั้งเพลง Cherry Bomb ที่ได้พูดถึงไปแล้ว ยังมีเพลง Calofornia Paradise ยังมีจังหวะมันส์ไม่แพ้กัน ที่สำคัญเรื่องนี้ไม่ได้ มีดีแค่เพลงนะ ยังขนเอาแฟชั่นในยุค 70s เริ่ดๆ มาให้ได้ดูด้วย

Chicago

 บางคนอาจจะไม่อินกับเหล่าหนังที่ดัดแปลงจากละครบรอดเวย์อย่าง Chicago แต่เฮ้ย! คือเรื่องนี้มันดีนะ ทั้งนักแสดง เสื้อผ้า ท่าเต้น และเพลงที่พอมาอยู่รวมกันแล้วปังมาก ทำให้เรื่องนี้ประสบความสำเร็จทั้งรายได้และคำวิจารณ์ รวมทั้งรางวัลออสการ์ถึง 6 สาขาในปี 2003 ได้แก่ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม, ออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม, ลำดับภาพยอดเยี่ยม, บันทึกภาพยอดเยี่ยม และกำกับศิลป์ยอดเยี่ยม … โดย Chicago เป็นเรื่องราวของ ร็อกซี่ ฮาร์ท เธอถูกจับข้อหาฆ่าชู้รักของเธอตาย ซึ่งการติดคุกครั้งนี้เกิดเรื่องราวมากมาย จนทำให้ร็อกซี่กลายเป็นคนมีชื่อเสียงทั้งๆ ที่ยังติดคุก! และเริ่มหลงตัวเอง กระทั่งชื่อเสียงของร็อกซี่บดบังรุ่นพี่อย่างเวลม่าที่รู้สึกอิจฉาร็อกซี่และต้องการให้ตัวเธอกลับมาโด่งดังอีกครั้ง ส่วนเพลงที่ดังๆ และอยากให้ไปตามดูมากๆ ก็คือเพลง Cell Block Tango แค่เสียงดนตรีขึ้นมาก็โอ้โหแล้ว แถมลีลาการร้องเต้นของพวกเธอที่ไม่ธรรมดาอีกต่างหาก หรือจะเป็นเพลงสไตล์แจ๊สอย่าง All about jazz ก็ดีเหมือนกัน

Season Change

ข้ามมาฝั่งบ้านเรากันบ้าง กับหนังรักที่มีดนตรีเป็นฉากหลังของเรื่อง ซึ่งเล่าเรื่องราวความรักของวัยรุ่น 3 คน ทีเกิดขึ้นในระยะเวลา 1 ปี ผ่านฤดูกาลต่างๆ ที่ได้หมุนเวียนเปลี่ยนแปลงไป พร้อมกับความสัมพันธ์ของพวกเขา ซึ่งมีฉากหลังเป็นวิทยาลัยดุริยางค์ศิลป์ และเมื่อเป็นหนังที่มีดนตรีมาเกี่ยวข้องก็ต้องมีเพลงเพราะให้เราได้ฟังไปด้วย อย่างเพลง  ฤดูรัก ที่ได้นักแสดงในเรื่อง ต่าย-ชุติมา ทีปะนา มาร้องเพลงนี้ หรือจะเป็นเพลงดังที่ให้นักแสดงมาร่วมโคฟเวอร์กันในเพลงวัดใจ – Silly Fools และอีกเพลงคือฤดูที่แตกต่าง ร้องโดยนภ พรชำนิ แต่เป็นเวอร์ชั่นแจ๊สที่ฟังเพลงสบายๆไปอีกแบบ