คุยถึงเรื่องมูเตลูและวงการ T-POP ในมุมมองของสามสาว PiXXiE

“มูเตลู” คำนี้ตอนนี้คงเป็นอะไรไม่ได้นอกจากจะหนีไม่พ้นชื่อเพลง T-Pop ฮิตแห่งปีของสามสาว PiXXiE เพราะไม่ว่าจะเข้าไปในโซเชียลแพลตไหนก็ต้องได้ยินเพลงนี้แน่นอน ล่าสุดเพลงนี้มียอดวิวในยูทูปทะลุ 5 ล้านวิวไปเรียบร้อยแล้ว

PiXXiE เป็นเกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่ในวงการ T-POP ที่เพิ่งเปิดตัวมาได้เพียง 9 เดือนและยังไม่เคยได้เจอแฟนคลับในแบบที่จะได้ถอดแมสก์ทักทายกันเลย แต่ 3 สาว พิมมา–พิมพ์มาดา ใจสักเสริญ, มาเบล–สุชาดา สอนพันธ์, และ อิงโกะ–อินท์ปาลี โชติหิรัญธนนนท์ ก็มีแฟนคลับที่คอยติดตามให้กำลังใจกันมาโดยตลอด ทั้งผ่านโซเชียลและตามงานที่สามารถไปเจอหน้า (แบบสวมแมสก์) กันได้บ้าง

วันนี้ NYLON ก็เลยจะพาทุกคนมาคุยกับ PiXXiE ถึงมูเตลูและวงการ T-POP ในฐานะที่เป็นเด็กใหม่ในวงการกัน

ตอนนี้เวลาเข้าไปเสิร์ชคำว่า “มูเตลู” มันจะขึ้นมาเป็น PiXXiE สลับกับข่าวสายมู รู้สึกอย่างไรบ้างเวลาที่กดเข้าไปแล้วเจอเพลงของเรา

อิงโกะ: ก็รู้สึกดีใจนะคะ เพราะว่าเราทำเพลงออกมาแล้วก็อยากให้คนจำพวกเราได้ อย่างน้อยเขาก็แบบว่าจำเราในภาพที่แบบว่า อุ๊ย นี่ไง นักร้อง 3 คนนี้ที่ร้องเพลงมูเตลู

คิดว่าอะไรที่ทำให้คนชอบเพลงของเรา

พิมมา: น่าจะเป็นเพราะว่าคำว่า “มูเตลู” มันเข้าถึงได้ง่ายในยุคสมัยนี้ หลายๆ คนก็น่าจะรู้จักคำว่ามูเตลูอยู่แล้ว หรือว่าก็ต้องมีประสบการณ์เกี่ยวกับการมูเตลูอยู่แล้ว เลยรู้สึกว่า เนี่ย ชื่อเพลงมันค่อนข้างที่จะเป็นเอกลักษณ์แล้วก็ดึงดูดให้คนแบบ อุ๊ย คือเพลงจะเล่าเกี่ยวกับอะไรกันแน่ ทำไมถึงต้องหยิบคำว่ามูเตลูมา ก็เลยน่าจะทำให้เป็นที่สนใจของหลายๆ คนค่ะ

มาเบล: รวมไปถึงการเล่นคำซ้ำด้วยค่ะ เป็นการใช้คำที่สามารถทำให้คนจำได้

ใช้เวลากันนานแค่ไหนกว่าจะเต้นได้ จำได้เป๊ะแบบนี้

พิมมา: จริงๆ ลงท่าประมาณ 3-4 ครั้ง 

มาเบล: ใช่ แต่ว่าระยะเวลาในการซ้อมค่อนข้างนานค่ะ เพราะว่าเกิดปัญหาโควิดด้วยค่ะ ที่มาระลอกแบบหนักมากๆ แล้วเราก็ต้องเลื่อนถ่ายไปเรื่อยๆ ซึ่งก็เลยมีเวลาในการซ้อมมากขึ้น

การเป็นเกิร์ลกรุ๊ปต้องมีวินัยในการซ้อมกันมากแค่ไหน 

อิงโกะ: จริงๆ ช่วงเทรนนิ่งก็ถือว่าค่อนข้างหนัก 

พิมมา: มันเหมือนเป็นการทุ่มเทในการเทรนด์เพื่อเป็นศิลปินจริงๆ

มาเบล: มีการเรียนร้องเพลง การเรียนเต้น แล้วก็อย่างพิมมาก็จะได้เรียนแร็ปด้วยค่ะ

พิมมา: ถ้ารวมไปถึงเรื่องการเต้นเราจะมีช่วงที่พี่ๆ เขาก็จะให้เรา 3 คนไปซ้อมกันเอง แล้วก็ส่งคลิปมาให้ดูทุกครั้ง แล้วพี่ๆ เขาก็จะบอกว่า หยุดวินาทีที่เท่าไหร่ ท่านี้ มือ ตรงนี้ไม่เหมือนกันนะ มาเบลเป็นอย่างนี้นะ คือเขาจะรายละเอียดค่อนข้างเยอะค่ะ ทำให้เรารู้จุดด้อยของตัวเอง แล้วก็ซ้อมครั้งต่อไปก็คือแก้จุดนั้น

แปลว่าเราแยกกันซ้อมหมดเลย

มาเบล: ใช่ๆ

พิมมา: มันจะมีครั้งที่ลงท่าแล้วก็แยกกันไปซ้อมเนื่องจากสถานการณ์โควิดด้วย แล้วก็ไม่สามารถไปเจอกันได้เนอะ แล้วเราก็ต้องอัดคลิปส่งให้พี่เขาดูว่าใครต้องแก้ตรงไหนอะไรบ้าง แล้วก็หาวันที่ว่าง รอสถานการณ์คลี่คลายแล้วก็หาวันมาเจอกัน

อิงโกะ: แล้วก็จะมีบางทีพอเราใกล้ๆ จะถ่ายพวก Dance Practice พี่ๆ เขาก็จะมานั่งดูในห้องซ้อมจริงๆ เพื่อที่จะมาดูว่ามีตรงไหนบ้างที่ยังไม่เป๊ะ หรือว่าต้องไปแก้ตรงไหนเพิ่มเติม เรื่องฟีลลิ่ง เรื่องระเบียบร่างกาย อะไรต่างๆ พี่เขาก็จะคอยบอกหมดเลยค่ะ

ถ้าพูดถึง “มูเตลู” นึกถึงอะไรกันบ้าง

มาเบล: สิ่งศักดิ์สิทธิ์ค่ะ

อิงโกะ: เครื่องรางของขลังค่ะ

พิมมา: นึกถึงเครื่องรางของขลังเหมือนกันค่ะ

แล้วใครเป็น “สายมู” บ้างไหม

PiXXiE: ทุกคนค่ะพี่ (หัวเราะ)

มูแบบไหนกัน

มาเบล: หนูมูด้วยการบนศักดิ์สิทธิ์ บนไหว้

พิมมา: ไปไหว้

มาเบล: ส่วนมากจะชอบไหว้พระกับแม่อยู่แล้วค่ะ ตอนเด็กๆ มีปิดทอง 9 วัด แม่ก็พาไปต่างจังหวัด ไปเรื่อยเลย แล้วก็มีบนค่ะ ล่าสุดก็ที่บน 5 เดือน 5 ล้านก็ใกล้แล้วค่ะ จะได้ไปแก้บน

พิมมา: เดือนเดียวจะ 5 ล้านแล้วนะคะ

อิงโกะ: ใช่ค่ะ วันที่สัมภาษณ์กับ NYLON นี่คือ 1 เดือนเต็มๆ ค่ะ

พิมมา: ครบรอบ 1 เดือนเลยค่ะ

พูดถึงเรื่องกระแส T-POP กันบ้าง ว่าในมุมของน้องๆ เป็นศิลปินในวงการด้วย แล้วก็เป็นเด็กรุ่นใหม่ด้วย เรามองว่ากระแส T-POP ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง

มาเบล: ครึกครื้นมากๆ ค่ะ เพราะว่าหันไปไหนก็เจอแต่วงใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ จะเป็นบอยแบนด์ก็ค่อนข้างเริ่มกลับมาแล้ว

พิมมา: ใช่ค่ะ ก็รู้สึกว่าน่าสนใจแล้วก็มีความหลากหลายมากเลยช่วงนี้ ทั้งวงใหม่ๆ ที่มาเบลพูด แล้วก็ศิลปินเก่าๆ ที่กลับมาทำ หรือว่าปล่อยผลงานของตัวเองออกมาเพิ่มแล้วเราก็รู้สึกว่าตอนนี้ T-POP มันค่อนข้างจะเฟื่องฟูมากๆ รู้สึกดีใจที่คนไทยเริ่มหันมาให้ความสำคัญ หรือว่าเริ่มมาสนใจวงการ T-POP เพิ่มมากขึ้นค่ะ

มาเบล: เป็นการฟังในหลากหลายแนวด้วย T-POP ค่อนข้างที่ไม่ใช่ T-POP ที่อยู่แค่แนวเดียว แต่มันสามารถหลากหลายแนว

อิงโกะ: กระจายแบบแผ่ แผ่ออกไปได้หลากหลาย

คิดว่าอะไรที่ทำให้ T-POP กลับมาเฟื่องฟู กลับมาบูมมากๆ ในช่วงนี้

พิมมา: น่าจะเป็นการมีรายการด้วยค่ะ รู้สึกว่ารายการอย่าง T-POP Stage ก็เปิดโอกาสให้กับวัยรุ่น หรือว่าเกิร์ลกรุ๊ป บอยแบนด์ยุคใหม่ที่อยากจะโชว์ผลงานของตัวเอง เหมือนเป็นพื้นที่ให้พวกเราได้แสดงความสามารถด้วย เหมือนเป็นการขับเคลื่อนวงการ T-POP ไปในตัวด้วย เพราะหลายๆ คนก็อาจจะมารู้จักพวกเรา หรือหลายๆ วงจากรายการนี้ด้วยค่ะ

อิงโกะ: แล้วก็นอกเหนือจากรายการ T-POP Stage หนูว่าก็อาจจะมีพวกรายการประกวดต่างๆ ที่ประกวดหาเกิร์ลกรุ๊ป บอยแบนด์ อะไรแบบนี้ มันก็เหมือนเป็นการยิ่งกระตุ้นให้เด็กรุ่นใหม่ยิ่งมีความสนใจกับ T-POP มากขึ้นด้วยค่ะ

คนเริ่มหาพื้นที่ให้กับตัวเองเพิ่มมากขึ้น เขารอแค่โอกาสที่จะได้ขึ้นไปแสดงความสามารถ

พิมมา–พิมพ์มาดา ใจสักเสริญ

เราเจอเพลงมูเตลูใน TikTok บ่อยมากๆ เลื่อนไปก็เจอตลอด ทำให้เพลงมันติดหู คิดว่า TikTok ช่วยเราได้เยอะไหม

อิงโกะ: หนูว่าช่วยเยอะมาก

แล้วพอเรามีชาเลนจ์มีเพลงลงใน TikTok ยอดฟังเพลงของพวกเราในช่องทางสตรีมมิ่งต่างๆ ขึ้นด้วยไหม

PiXXiE: ขึ้นค่ะ

พิมมา: น่าจะประมาณเกือบ… เยอะอยู่ค่ะ

มาเบล: 70% ได้

พิมมา: เพราะว่าหลายๆ คนที่มาคอนเมนต์ก็จะบอกว่ามาจาก TikTok  รู้สึกว่าด้วยความที่มันเป็นชาเลนจ์ หรือด้วยความที่ชื่อมันเป็น “มูเตลูชาเลนจ์” หลายๆ คนอาจจะเกิดความสนใจว่า เฮ้ย มันจะทำยังไง แล้วด้วยความที่เราไม่ได้มีแค่การเต้นอย่างเดียว เราสามารถเอาเพลงไปใส่ในเนื้อหาอื่นๆ ได้ด้วย 

อิงโกะ: บางคนเขาเอาไปใส่กับการแต่งหน้า 

มาเบล: หรือรีวิวอาหารก็มีค่ะ การแปลงเนื้อเพลง เปลี่ยนจงหยุดเป็นนู่นนี่นั่น

พิมมา: เลยรู้สึกว่าน่าจะทำให้มันเพิ่มยอดการมองเห็นของเพลงขึ้นไปด้วยค่ะ

มีคนต่างประเทศเข้ามาฟังเพลงเราเพิ่มขึ้น หรือมาทักทายอะไรกับเราเพิ่มขึ้นบ้างไหม

อิงโกะ: ที่เห็นมีนะคะ เพราะว่าหนูก็เข้าไปดูคอมเมนต์ใต้คลิปบ่อยๆ ค่ะ แล้วก็จะเห็นว่า From Brazil หรือว่า From India หรือว่า Indonesia 

มาเบล: เกาหลีใต้ก็มีนะ

พิมมา: ใช่ เกาหลีใต้ก็มี เดี๋ยวนี้ก็มีเริ่มมาในทวิตเตอร์เนอะ ก็จะมีแอคเคาต์ที่คอยอัปเดตข่าวสารให้กับพวกเราเป็นภาษาเกาหลี

มีแฟนๆ เรียกร้องอยากเจอ อยากจะอะไรบ้างไหม

มาเบล: พวกหนูอ่านภาษาเกาหลีไม่ค่อยเข้าใจหรอกค่ะ

PiXXiE: (หัวเราะ)

มาเบล: แต่ถ้ามีโอกาสว่างไปนั่งแปลกัน ส่วนใหญ่ก็จะฟีดแบคกับเพลงว่าเป็นอย่างไร เออ ชอบเพลง อะไรแบบนี้ค่ะ รู้สึกดีใจ เหมือนมันเกินคาดค่ะพี่ เพราะว่าแค่คนไทยฟังก็รู้สึกดีแล้ว อันนี้มันไปดังที่ต่างประเทศด้วย

คนกลับมาสนใจ T-POP มากขึ้นเพราะว่าเรามีเพลงรุ่นใหม่ๆ ด้วย เคยเจอคอมเมนต์จากคลิป T-POP Stage ประมาณว่า ปกติไม่ฟัง T-POP แต่พอมาเจอเพลงนี้ (มูเตลู) ก็เลยกลับมาฟัง พอได้เจอคอมเมนต์ แบบนี้บ่อยๆ รู้สึกอย่างไรกันบ้าง ที่ว่าอย่างน้อยเราก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อุตสาหกรรมตรงนี้มันไปได้อีก

มาเบล: เหมือนเป็นฟืนที่เติมไฟค่ะ มันทำให้เราสามารถกลับมา วันนึงเราอาจจะมีเรื่องอะไรที่มันกระทบจิตใจทำให้เราเหี่ยวเฉา แต่พอมาอ่านอะไรพวกนี้ เฮ้ย เราเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขากลับมาฟังเพลงไทยเลยนะ โอ้ย มันแบบ มันภูมิใจ

อิงโกะ: หนูก็ดีใจที่ตัวเองได้ทำให้คนที่เขาไม่ค่อยได้สนใจ T-POP ได้กลับมาเห็นว่า T-POP มันมีของดีในแบบที่แนวเพลงแบบอื่นอาจจะไม่มีนะ แล้วก็รู้สึกว่าอยากให้ทุกคนหันมาฟัง T-POP กันเยอะๆ ค่ะ

มาเบล: อุดหนุน T-POP กันเยอะๆ นะคะ

อิงโกะ: ใช่ เพราะว่าเพลงในประเทศไทยของเรา ก็ดีไม่แพ้ประเทศนอกนะ (หัวเราะ)

พิมมา: ก็เหมือนกันเลยค่ะ รู้สึกดีใจแล้วก็ภูมิใจค่ะ ทั้งกับตัวพวกเราเองแล้วก็กับอุตสาหกรรม T-POP ค่ะ เพราะรู้สึกว่าอย่างที่ทุกคนบอกไปว่า จริงๆ แล้วคนไทยเก่ง แล้วก็มีความสามารถมากๆ เลย แล้วพอทุกคนเริ่มให้ความสนใจ มันก็เหมือนเป็นแรงบันดาลใจหรือว่าเป็นกำลังใจให้กับคนที่ทำงาน มันอยากจะทำต่อหรือว่าตั้งใจที่จะผลิตผลงานใหม่ๆ ออกมาให้ดีขึ้น อย่างไรก็ต้องขอขอบคุณหลายๆ คนที่เปิดใจมาฟัง T-POP แล้วก็ช่วยกันสนับสนุน ผลักดันวงการ T-POP ไปแบบนี้เรื่อยๆ เลยค่ะ

แล้วพอเริ่มมีคนสนใจมากขึ้นแล้ว คิดว่าเราควรจะมีพื้นที่แบบนี้ นอกจาก T-POP Stage หรือรายการตามหาเกิร์ลกรุ๊ป บอยแบนด์เพิ่มขึ้นบ้างไหม

PiXXiE: หนูว่าสำคัญ ช่วยเยอะเลย มากๆ

มาเบล: อย่างเช่นรายการ T-POP Stage เราค่อนข้างให้ความสำคัญมากๆ เพราะว่าประเทศไทยค่อนข้างมีเวทีที่น้อย

พิมมา: เวทีที่ให้แสดงความสามารถน้อย

มาเบล: ใช่ เราอาจจะไปโชว์ของให้รายการ แล้วคนต่างประเทศอาจจะมาเห็นเราจากอันนั้นก็ได้

อิงโกะ: ใช่ แล้วส่วนตัวหนูนะคะ หนูเห็นว่าตามรายการทีวีทั่วๆ ไป การประกวดร้องเพลง หรืออะไรแบบนี้ ส่วนใหญ่มันจะไม่ใช่เป็นแนว T-POP จะไม่ใช่เป็นแนวป๊อปของไทย แต่จะเป็นแนวลูกทุ่งหรือว่าอินดี้อะไรอย่างนั้นเสียมากกว่า หนูก็เลยคิดว่าถ้ามีรายการอะไรที่มันสามารถส่งเสริมแนวเพลงป๊อปของประเทศเราได้ มันก็น่าจะส่งผลดีมากๆ ค่ะ

พิมมา: ใช่ เพราะว่าเหมือนตอนนี้หลายๆ คนก็เริ่มหาพื้นที่ให้กับตัวเองเพิ่มมากขึ้น แล้วถ้าเกิดว่ามีรายการที่สนับสนุนเพิ่มมากขึ้นอีก มันก็คงจะดีมากๆ เลย เพราะว่าตอนนี้คนสนใจเยอะด้วย แล้วเหมือนตอนนี้เขารอแค่โอกาสที่จะได้ขึ้นไปแสดงความสามารถตรงนั้นมากกว่า แล้วยิ่งถ้าเกิดว่ามีก็จะยิ่งไปได้ไกลอีกแน่นอนเลยค่ะ

ถ้ามีรายการอะไรที่สามารถส่งเสริมแนวเพลงป๊อปของประเทศเราได้ ก็น่าจะส่งผลดีมากๆ

อิงโกะ–อินท์ปาลี โชติหิรัญธนนนท์ (PiXXiE)

สุดท้ายนี้สิ่งที่เราอยากเห็น หรือสิ่งที่เราอยากเป็นในอนาคตในฐานะ วง “PiXXiE”

อิงโกะ: ก็อยากจะเป็นศิลปินที่สามารถเป็นต้นแบบให้กับน้องๆ หรือว่าคนรุ่นต่อๆ ไปที่สนใจ T-POP ค่ะ ให้เขาได้มีแรงผลักดันหรือได้มีแรงบันดาลใจที่จะทำให้ตัวเองได้พัฒนา แล้วก็ฝึกฝนความสามารถของตัวเองให้ได้ถึงตามที่เขาตั้งใจไว้ค่ะ

พิมมา: ถ้าเป็นอนาคตอยากให้พวกเราก็ยังพัฒนาตัวเองต่อไปในแบบที่พวกเราเป็น แล้วก็อยากให้ตัวเอง หรือว่าพวกเรา PiXXiE เป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายๆ คนที่ชื่นชอบ หรือว่าอยากจะ เหมือนอย่างเพลงที่เรานำเสนอไป ก็จะนำเสนอเกี่ยวกับความมั่นใจในตัวเอง หรือว่าเกี่ยวกับการกล้าแสดงออก ก็อยากจะให้ประเด็นหรือสารที่พวกเราสื่อออกไปเป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตของหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรัก การงาน หรือว่าความมั่นใจในตัวเอง เพราะว่าพวกเราก็อยากจะเป็นตัวแทนในการพูดถึงจุดๆ นี้เหมือนกันค่ะ

มาเบล: ของมาเบลก็จะประมาณว่าเรา 3 คนก็ยังคงจะมีจุดด้อยกันในปัจจุบัน แต่ในอนาคตหนูคิดว่าเราก็จะพัฒนาให้ได้ดีที่สุด แต่ก็จะไม่ทิ้งความเป็น PiXXiE อย่างแน่นอนค่ะ