Women Up Playlist รวบรวมบทเพลงปลุกพลังหญิง
งานศิลปะทุกประเภทเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการแสดงตัวตนและปลุกจิตวิญญาณในการต่อสู้ให้กับผู้เสพ เช่นเดียวกับบทเพลง นอกจากการรับฟังเพื่อความไพเราะด้านสุนทรียศาสตร์แล้ว เนื้อหาอันเข้มข้นของเนื้อเพลงและมิวสิควิดีโอยังทำหน้าที่ส่งสารเพื่อผลักดันการสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคม พร้อมทั้งเรียกความมั่นใจและความภูมิใจในตัวเองของผู้หญิงให้กลับมา แม้ว่าโลกทั้งใบจะหันหลังให้เธอก็ตาม
ก่อนที่เดือนแห่งวันสตรีสากลของปีนี้จะหมดไปท่ามกลางสถานการณ์รอบตัวที่ดูมืดมนสำหรับผู้หญิง วันนี้ NYLON ขอแนะนำเพลงเพื่อปลุกพลังที่มีอยู่ในตัวคุณออกมาด้วยเพลย์ลิสต์หญิงแกร่ง เพราะเราเชื่อเสมอว่าพลังของความเป็นผู้หญิงจะทำให้พวกเราผ่านทุกสิ่งทุกอย่างไปได้ทั้งในปีนี้และปีต่อๆ ไป
MILCK – Quiet
They may see that monster, they may run away
But I have to do this, do it anyway I can’t keep quiet
[Trigger Warning: มิวสิควิดีโอมีเนื้อหาที่เกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ]
เมื่อการประกอบสร้างทางสังคมมักกล่าวโทษเหยื่อที่เกิดจากความรุนแรงทางเพศหรือมองว่าเป็นเรื่องน่าอายที่ไม่ควรแพร่งพรายออกไปให้ใครรู้ จนเป็นที่มาของความบอบช้ำเรื้อรังทั้งร่างกายและจิตใจของคนที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว เพลงนี้ต้องการให้ทุกคนกล้าออกมาจากความเลวร้ายที่ตัวเองเผชิญโดยไม่เก็บเงียบไว้กับตัวเองเพียงคนเดียว เพราะไม่มีใครสามารถทำให้เสียงของเราไม่เป็นที่รับรู้ได้
บทเพลงอันมีค่าแก่การรับฟังที่กลายเป็นไวรัลจากคลิปแฟลชม็อบในการเดินขบวน Women’s March Washington เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2017 นำไปสู่กระแส #ICANTKEEPQUIET บนโลกออนไลน์ที่ทำให้ผู้คนตัดสินใจบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองออกมาในรูปแบบต่างๆ และลุกข้นมาหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง
Sadie Jemmett – Don’t Silence Me
Don’t silence me and take your hands out of my sisters
Didn’t you hear her say no.
Stay away from her, mister.
เพลงที่เปรียบเสมือนเพลงหลักของการเคลื่อนไหว #MeToo ซึ่งมาพร้อมกับมิวสิควิดีโอที่กำกับโดย Mhairi Morrison นักแสดงที่เคยประสบกับเหตุการณ์ความรุนแรงทางเพศตั้งแต่ช่วงแรกของอาชีพนักแสดง นำแสดงโดยผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงทางเพศในอดีตกว่า 40 คน แม้ว่าพวกเธอเคยรู้สึกว่าตัวเองไร้พลังที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลง แต่เมื่อพวกเธอตัดสินใจร่วมมือกันต่อสู้ เยียวยาซึ่งกันและกัน เพื่อยืนหยัดและกล้าแสดงตัวตนผ่านเรื่องราวที่ไม่ควรจะมีผู้หญิงคนใดต้องโดนกระทำเหมือนพวกเธออีก
Brooke Alexx – Shattering Glass
You might think I’m a pretty face dressed up in pearls
But I run the world, ’cause I’m a mean queen girl-boss who won’t give you a second thought
ผลงานจาก Brooke อีกหนึ่งนักร้องที่น่าจับตามอง เธอเขียนเพลงนี้ขึ้นมาจากประสบการณ์เป็นช่างถ่ายวิดีโอในค่ายเพลงที่มีสัดส่วนของผู้หญิงในฝ่ายบริหารน้อยมาก ทำให้เธอเห็นถึงหนึ่งในความท้าทายรอบด้านที่ผู้หญิงต้องเผชิญตลอดการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน เพื่อทำลายกำแพงอุปสรรคที่สร้างขึ้นมากีดกันพวกเธอ
นอกจากนี้ มิวสิควิดีโอที่เธอเป็นผู้กำกับยังแสดงให้เห็นถึงพลังอันหลากหลายของผู้หญิงทุกคนที่ล้วนแล้วแต่ทำงานอยู่ในสายอาชีพที่ผู้ชายครอบงำเป็นหลัก สลับกับภาพบรรยากาศจากการเดินขบวน Nashville’s Women’s March 2.0 เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2018
Mona Haydar – Hijabi (Wrap my Hijab)
Make a feminist planet
Women haters get banished
Covered up or not don’t ever take us for granted
เพลงฮิปฮอปจากศิลปินและนักเคลื่อนไหวทางสังคมสัญชาติซีเรีย-อเมริกันที่ต้องการลบล้างภาพจำผิดๆ ของชาวมุสลิมในโลกตะวันตกด้วยการแสดงอัตลักษณ์ของตัวเองอย่างภาคภูมิ ทั้งยังได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งใน 25 สุดยอดเพลงสตรีนิยมตลอดการของ Billboard ในปี 2017
ในมิวสิควิดีโอประกอบไปด้วยภาพตัวแทนผู้หญิงชาวมุสลิมจากทุกสีผิว โดยเฉพาะชาวมุสลิมแอฟริกัน-อเมริกันที่มักตกไปอยู่ในชายขอบของสังคมอเมริกัน นอกจากนี้ Mona ยังถ่ายทำมิวสิควิดีโอขณะที่เธอตั้งครรภ์อีกด้วย
Zolita – Fight Like a Girl
Boy, I’ll make you see
I got the power of Kali in me
Everybody is about to believe It’s a woman’s world
หลังจากที่สหรัฐอเมริกาได้ประธานาธิบดีคนใหม่อย่างเป็นทางการในปี 2016 Zolita หรือ Zoë Hoetzel เขียนเพลงนี้ขึ้นเพื่อระบายความอัดอั้นและหดหู่ผ่านช่องทางที่มีอยู่เพื่อแสดงจุดยืนเคียงข้างผู้หญิง รวมถึงกลุ่มคนในสังคมที่มักถูกมองข้ามจากความแตกต่างทางเพศ สีผิว ศาสนาและเชื้อชาติ จนกลายเป็นบทเพลงสำหรับปลุกพลังที่มีอยู่ในตัวผู้หญิงทุกคนให้ลุกขึ้นมาสู้ในแบบลูกผู้หญิง
Arlissa – We Won’t Move
We will rise up through the falls
We will make ’em hear it all
We won’t stop until they know about us
เพลงประกอบภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากหนังสือ YA เรื่อง The Hate U Give ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการเคลื่อนไหวทางสังคมเพื่อสิทธิและความเท่าเทียมของคนผิวสีในสหรัฐอเมริกาภายใต้ชื่อ Black Lives Matter กล่าวยกย่องถึงความเข้มแข็งของผู้คนที่ต่อสู้และร่วมสร้างสังคมแห่งความเท่าเทียมโดยไม่ยอมแพ้ เพื่อคนรุ่นหลัง แม้ว่าการเอาชนะอคติและความเกลียดชังจะเป็นสิ่งที่เอาชนะได้ยากก็ตาม
Cher – SOS
You seem so far away, though you are standing near
You made me feel alive, but something died I fear
จากเพลงต้นฉบับของวง ABBA ที่ถูกนำมาขับร้องใหม่ได้อย่างไพเราะไม่แพ้ต้นฉบับโดย Cher เจ้าแม่เพลงป๊อปแดนซ์ หน่งในนักร้องแถวหน้าของวงการเพลงตะวันตก มาพร้อมกับมิวสิควีดิโอที่แสดงโดยผู้หญิงทั้งหมด สื่อให้เห็นถึงความหลากหลายของผู้หญิงทุกรูปแบบโดยไม่มีข้อจำกัดด้านรูปร่าง อายุและสีผิว ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วพวกเธอทั้งหมดก็กลับรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียว และคอยสนับสนุนซึ่งกันและกัน
นอกจากเซเลบริตี้มากมายที่ปรากฏตัวในมิวสิควิดีโอ ยังได้ Trace Lysett นักแสดงข้ามเพศ ร่วมแสดงด้วย
Janelle Monáe – Django Jane
We gave you life, we gave you birth
We gave you God, we gave you Earth
We fem the future, don’t make it worse
Janelle บอกเล่าผ่านเว็บไซต์เพลงชื่อดังอย่าง Genius ว่าได้แรงบันดาลใจในการแต่งเพลงนี้มาจากบทสนทนาระหว่างเธอกับครอบครัว คนใกล้ชิดและเพื่อนฝูงเกี่ยวกับสิ่งที่อยากจะบอกกับลูกผู้หญิงด้วยกันในสังคม บทเพลงนี้ต้องการสื่อสารออกไปเพื่อคอยเตือนให้ผู้หญิงตระหนักว่าเราทุกคนพิเศษในแบบของตัวเอง โดยไม่ต้องไปฟังสิ่งที่สังคมชายเป็นใหญ่พยายามเข้ามาแทรกแซงความเป็นเรา
ทั้งนี้ Janelle ได้จัดตั้งองค์กร Fem the Future เพื่อสร้างโอกาสและส่งเสริมผู้หญิงในอุตสาหกรรมบันเทิงให้ได้มีพื้นที่เป็นของตัวเอง ครอบคลุมทั้งด้านดนตรีและภาพยนตร์
Ava Max – Not Your Barbie Girl
Not your barbie girl, I’m livin’ in my own world I ain’t plastic, call me classic
You can’t touch me there, you can’t touch my body unless I say so, ain’t your barbie, no
เพลงสุดจี๊ดที่เรียกความมั่นใจนี้ดัดแปลงมาจากเพลงยอดฮิตของวง Aqua ในชื่อ Barbie Girl ด้วยการตีความใหม่ให้เข้ากับยุคสมัยที่ผู้หญิงเป็นได้มากกว่าตุ๊กตา เพราะเธอสามารถพึ่งพาตัวเองได้และมีความสุขกับสิ่งที่เธอเลือกโดยไม่ต้องสนใจค่านิยมของสังคม นอกจากนี้ ผู้หญิงสมัยใหม่มีสิทธิ์เหนือร่างกายของตัวเอง ไม่ใช่ของเล่นที่ใครจะทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ โดยไม่ได้รับการยินยอมจากเธอ
Written by Dusida Worrachaddejchai
Leave a Reply
Want to join the discussion?Feel free to contribute!