4MIX เล่าประสบการณ์พา T-POP ไปโชว์ไกลถึงเม็กซิโก

นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก วง 4MIX กับสมาชิกทั้ง 4 คนอย่าง นินจา-จารุกิตต์ คำหงษา, แม็กก้า-ณัฐภัทร ดีเลิศตระกูล, โฟล์คซอง-ชนินทร บุญรอด และ จอร์จ-ราเมศวร์ เกียรติสุขอุดม ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อช่วงปี 2021 ที่ผ่านมานี้ แต่ดูเหมือนว่ากระแสของวงจะมาแรงจนไม่พูดถึงก็คงไม่ได้

เรารู้จัก 4MIX กันในฐานะของวง LGBTQ+ วงแรกของไทย แต่ตอนนี้มีอีกหนึ่งตำแหน่งที่หลายคนพูดถึงกันในเรื่องของการเป็นศิลปิน ไทยที่พา T-POP ไปโกอินเตอร์ไกลถึงประเทศเม็กซิโก โดยมีเหล่า UNIX (ชื่อแฟนคลับ) ชาวลาตินอเมริกันจำนวนมากไปต้อนรับกันอย่างล้นหลามในมินิคอนเสิร์ต “4MIX UNIX MEXICO  ความร่วมมือของสถานทูตไทยในเม็กซิโก” กับค่าย Khaosan Entertainment เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2021 ที่ผ่านมา 

NYLON เคยได้คุยกับ 4MIX ในฐานะของศิลปินน้องใหม่กันไปแล้ว วันนี้เราเลยจะมาคุยกับพวกเขาในฐานะของวง T-POP ที่พาเพลงไทยไปโชว์ไกลถึงฝั่งลาตินอเมริกากันบ้าง

ไปเม็กซิโกมาเป็นอย่างไรบ้าง

นินจา: ตื่นเต้นและได้ประสบการณ์ใหม่ๆ กลับมาเยอะเลยครับ แฟนคลับที่เม็กซิโกให้การต้อนรับอย่างดีมาก เหมือนได้ไปเห็นแฟนคลับจริงๆ ปกติเราก็จะรู้แค่ว่ามีแฟนคลับที่มาคอมเมนต์ แต่เราไม่ได้พบปะกันจริงๆ พอเขามาต้อนรับที่สนามบินแล้วก็ที่งานมินิคอนเสิร์ตด้วย ทำให้ใจฟูมากเลยครับ 

ทำไมเราถึงไปจัดคอนเสิร์ตไกลถึงเม็กซิโก 

จอร์จ: ทางค่าย KS ได้คุยกับสถานทูตไทยที่เม็กซิโกว่าเรามีฐานแฟนคลับอยู่ที่นั่น เผื่อจะมีกิจกรรมที่จะจัดกับสถานทูตกันได้ แล้วก็ได้มีกิจกรรมขึ้นมาจริงๆ คือ “Cántala en Thai” เป็นกิจกรรมประกวดการร้องเพลงจะเป็นสองประเภทก็คือ ร้องเพลงไทยที่แปลเป็นภาษาสเปนและร้องเพลงไทยครับ พวกเราก็ได้ร่วมเป็นกรรมการงานประกวดด้วย 

นินจา: พอสถานทูตเห็นว่าเรามีฐานแฟนเลยให้จัดมินิคอนเสิร์ตไปเลยดีกว่า เป็นมินิคอนเสิร์ต ซึ่งตอนแรกก็คิดว่าจะได้เจอแฟนคลับกลุ่มเล็กๆ… 

จอร์จ: คือสเกล [สถานที่] มันรับได้สักประมาณ 500-600 คนแต่พองานเริ่มจริงๆ มีประมาณสามพันกว่าคน นอกจากที่ล้นไปถนนแล้วก็ล้นเข้าไปในห้างด้วย 

ตอนที่เราอยู่บนเวทีแล้วเราเห็นชูป้ายทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาไทยรู้สึกอย่างไรกันบ้าง

จอร์จ: ดีใจแล้วก็ปลื้มปริ่มบอกไม่ถูกมากๆ เลยตอนนั้น

แม็กก้า: บางคนตั้งใจเขียนภาษาไทยมาเพื่อให้เราอ่าน

นินจา: แล้วก็ไม่ใช่แค่มีป้ายนะครับ มีแฟนคลับที่เอาของมาให้เยอะมาก พอกลับมาดูที่โรงแรมก็ไปเปิดดูมีจดหมายเล็กๆ ทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาสเปนคือเขาพยายามเขียนมือเต็มหน้ากระดาษเลย เห็นแล้วดีใจที่พยายามแปลเขียนชื่อพวกเราเป็นภาษาไทย นินจา แม็กก้า แต่พอบางคำอย่าง โฟล์คซอง ก็กลายเป็นคำว่าดนตรีพื้นบ้าน น่ารักดี 

แล้วเสียงตอบรับโชว์ครั้งแรกในต่างประเทศของเรา

แม็กก้า: ค่อนข้างที่จะอิมแพคมากๆ คือเราติดเทรนด์ทวิตเตอร์ในไทย ได้รับความนิยมในไทยด้วยแล้วก็พอหลังจากตรงนั้นก็รู้สึกว่า…พูดยังไงดี

นินจา: คือตอนโชว์อะ พอไปถึงแล้วเราไม่เคยเจอความรู้สึกแบบนี้เลยในชีวิตมาก่อน (โฟลค์ซอง: รู้สึกว่าเป็นคนดังครับ) ใช่ๆ (หัวเราะ) รู้สึกว่าเราดังรู้สึกว่าเป็นดารา 

โฟล์คซอง: ตลอดเวลาที่เรานั่งรถอะคือโฟล์คกับแม็กก้าหันมาถามกันบ่อยมากว่าจะมีคนเปล่า จะมีคนมามั้ย แล้วพอได้เห็นคนที่มาเยอะๆ แล้วแม็กก้าหันมาถามว่าเขามาดูเราจริงไหม (หัวเราะ)

นินจา: ได้ยินแม็กก้าพูดทุกๆ 10 นาทีว่า เขามาดูเราจริงเหรอ เป็นเวทีแรกที่มีแค่เรา 4 คน  เพราะในไทยถ้าไปออกงานก็จะมีศิลปินอื่นอยู่ในงานนั้นด้วย แต่งานนี้เป็นแค่เรา 4 คน

โฟล์คซอง: ขึ้นไปก็ได้ยินเสียงกรี๊ดพร้อมที่จะสนุกกับเรา เลยทำให้อยากโชว์มาก

นินจา: จริงๆ เราไปบล็อกกิ้งมาก่อนตอนเที่ยงครับ แต่ตั้งแต่ตื่นเช้ามาก็มีคนแท็กสตอรี่มาว่ารออยู่หน้าเวทีตั้งแต่ลำโพงยังไม่เอามาตั้ง มีแค่เวทีเปล่าๆ (หัวเราะ) เราก็แบบไปกันเร็วจัง ตอนไปบล็อกกิ้งก็มีคนเยอะแล้วเราก็คิดว่าคนน่าจะเพิ่มจากช่วงซาวด์เช็กประมาณแบบไม่เกินเท่าตัว แต่พอถึงเวลาจริงๆ แล้ว…ว้าวมาก

แม็กก้า: แต่ตอนแรกพี่เขามาบอกก่อนตอนแต่งหน้าว่าเนี่ยมีคนรอเราเพิ่มขึ้นมา 4 เท่าจากตอนบล็อกกิ้งนะ แล้วก็ยื่นวีดีโอให้ดูว่ามีคนมารอเราเต็มไปหมด 

โฟลค์ซอง: แล้วเรายังไม่เจอคนข้างหลังไง ตอนเราไปถึงก็แบบ…โอมายก็อด 

นินจา: ตอนเราบล็อกกิ้งเราสามารถขับรถเข้าไปหน้างานได้แต่ถึงเวลาแล้วเข้าไปไม่ได้เลย คนมันล้นมาจนถึงถนนจนเราต้องไปขอห้างเพื่อเข้าอีกทาง ตอนขากลับออกมาก็วิ่งกลับมาแล้วเราขึ้นรถแล้วก็จะออกเลยก็ยังมีคนมารอตรงทางออกด้วย เป็นครั้งแรกที่ซุปตาร์จริงๆ ตอนนั้นต้องวนก่อนเพราะมีรถขับตามไม่งั้นเขาจะตามไปโรงแรมอะครับ

โฟล์คซอง: ถ้าใครอยากดูบรรยากาศก็ต้องไปดูใน Vlog นะครับ

นอกจากจะไปโชว์แล้วได้ไปทำอะไรอีก

นินจา: ได้ไปเที่ยว ไปกินอาหาร วันแรกตื่นมาไปเที่ยวพีระมิดที่เม็กซิโกแล้วก็ไปเซนเตอร์เมือง เมืองสวยมากมีของกิน มีโบสถ์ มีธง เดินง่ายผังเมืองดี และผู้คนน่ารักมาก ก่อนไปเราก็คิดว่าผู้คนน่ารักแหละแต่พอไปเจอจริงๆ แล้วแบบว่าเฟรนด์ลี่กว่าที่คิด

จอร์จ: Tourist Friendly มากๆ 

แม็กก้า: ขนาดไปซื้อทาโก้ก็ยิ้มแย้มแจ่มใส เขาพูดภาษาอังกฤษไม่ได้แต่เขาก็พยายามสื่อสารกับเรานะ

เห็นว่ามีแฟนคลับต่างชาติ ติดตามมาตั้งแต่ก่อนเดบิวต์แล้วพอได้มาเจอตัวจริงๆ เป็นอย่างไร

จอร์จ: ไม่รู้จะพูดคำไหนนอกจากดีใจ รู้สึกดีใจตื่นเต้นแล้วก็รู้สึกขอบคุณมาก ๆ 

แม็กก้า: เราก็ดีใจ เขาก็ดีใจที่เราได้เจอกัน 

นินจา: พอเจอแล้วเขาก็กรี๊ดแบบที่เราก็ไม่คิดว่าจะตอบรับขนาดนั้น เหมือน [เขา] ดีใจมากที่เรามาหาเขาเพราะว่าเราอยู่ห่างกันมากจริงๆ แล้วเขาก็ไม่คิดว่าเรา 4MIX วงเล็กๆ ที่ชอบในไทยจะบินไปเม็กซิโก พอได้เจอแล้วเรื่องภาษาไม่ใช่อุปสรรคเลย ….จริงๆ ก็เป็นอุปสรรคอยู่นิดนึง (หัวเราะ) เวลาเราโชว์บนเวทีถ้าเป็นคนไทยเราก็ขอเสียงหน่อยครับ แต่อันนี้เราแค่ Hola (สวัสดี) แล้วก็ Te Amo (ผมรักคุณ) พอแบบนี้มันก็เดดแอร์ แล้วก็ยังไงดีอยากพูดออกไปเลยแต่ก็ต้องรอพี่ล่ามแปลเหมือนแบบพรั่งพรูในใจแต่ไม่สามารถพูดออกไปตอนนั้นได้ต้องรอสักพักนึงก่อนไรงี้อะครับ 

แล้วเอนเนอจี้แฟนคลับต่างชาติกับแฟนคลับไทยเหมือนหรือแตกต่างกันบ้างไหม

จอร์จ: สิ่งที่เหมือนก็คือความชอบแหละแต่ถ้าฝั่งนั้นนคือเขาก็แสดงออกแบบที่เขาไม่ได้กลัวคนข้างๆ จะแบบ อะไรอะ

แม็กก้า: มันจะเป็นวัฒนธรรมของเขาที่ชอบคอนเสิร์ต เหมือนเขารักสนุกไรงี้สนุกเต็มที่ กรี๊ดก็คือกรี๊ดเลย

โฟล์คซอง: เขาแสดงออกมาแบบเต็มที่ กรี๊ดก็คือกรี๊ดเลย

นินจา: จริงๆ ก็พลังงานเท่ากันนั่นแหละแต่แค่คนเยอะกว่าแค่นั้น ถ้าคนไทยเยอะแบบนี้ก็น่าจะเป็นฟีลลิ่งเดียวกัน

โฟล์คซอง: เป็นแบบว่าเล่นคอนเสิร์ตงี้แล้วคนนั่งอยู่ข้างล่างจอยอะไรงี้แบบโว้วๆ เต็มที่สนุกมาก

หลังจากที่กลับจากโชว์แล้วมีคนมาติดตามเราเพิ่มขึ้นไหมจากทั้งไทยและต่างประเทศ 

จอร์จ: เพิ่มขึ้นมากเลยโดยเฉพาะที่ไทยนี่เพิ่มขึ้นเยอะมาก เหมือนคนเห็นเราจากในแท็กทวิตเตอร์ไรงี้ครับ

นินจา: ตั้งแต่กลับมาพี่ตม. ที่ไทยก็เข้ามาขอถ่ายรูปคุยว่าเพิ่งดูคลิปที่ไปเม็กซิโกมาเลยกลับมาแล้วเหรอ แล้วก็มีพนักงานโรงแรมที่เรากักตัว พนักงานร้านสะดวกซื้อหน้าโรงแรมก็ทักด้วยว่าหน้าคุ้นๆ จังเลย 4MIX ใช่มั้ย

แม็กก้า: มีคนทักมากขึ้นพอเรากลับมาด้วยความที่ต้องขอบคุณพี่ๆ สื่อที่ทำข่าวให้เราเยอะมากขอบคุณมากๆ ครับ

นินจา: ในคอมเมนต์ต่างๆ เหมือนในเอ็มวีเราตอนนี้ก็รันขึ้นเยอะกว่าเดิมแล้วซึ่งแต่ก่อนจะเป็นภาษาลาติน ภาษาอังกฤษแต่ตอนนี้ก็คือภาษาไทยรันเยอะมากคนก็ชอบมาคอมเมนต์แบบภูมิใจในตัวเรา ตัวแทนไทย รู้สึกดีใจเพราะว่าคนมาคอมเมนต์เป็นผู้ใหญ่เยอะมากไม่ใช่แค่เด็กวัยรุ่นอะครับ ผู้ใหญ่เยอะมากเพราะเขาชอบที่เราไปพรีเซนต์ความเป็นคนไทย

นอกจากเม็กซิโกแล้วอยากไปประเทศไหนอีก

จอร์จ: อยากไปเยอะมากถ้าที่อยากไปจริงๆ ก็อยากไปทุกประเทศเลยครับที่มีคนรอเราอยู่

นินจา: แต่ว่าก็มีแพลนอยากไปเจอสักตั้งดูก็คือบราซิลเพราะว่าข้อมูลหลังบ้านบราซิลคือประเทศที่แฟนคลับเยอะที่สุดของ 4MIX ครับ เม็กซิโกคืออันดับ 2-3 คือครึ่งนึงของบราซิลเลยครับแล้วก็เลยไม่รู้ว่าพอไปบราซิลจะเป็นยังไงสรุปเงียบไม่มีใครมา (หัวเราะ) 

อย่างนี้มีแพลนที่จะทำเพลงเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาสเปนบ้างไหม

นินจา: มีคุยๆ กันไว้ว่าจะใส่แล้วก็เหมือนเพลง Y U COMBACK เราก็มีเวอร์ชั่นลาตินเป็นดนตรีลาตินแต่ว่าเป็นภาษาโปรตุเกส แล้วก็ในอนาคตคาดว่าจะมีแน่ๆ เพราะว่าฐานแฟนคลับฝั่งนู้นเราเยอะแล้วก็เราเองก็ชอบเพลงลาตินด้วยชอบมาก ดนตรีมันเต้นเห็นแล้วมันต้องโยกตาม

แม็กก้า: ต้องรอติดตามครับ คิดว่าจะได้ทำครับ 

ได้เรียนภาษาสเปนบ้างหรือเปล่าเพราะคอมเมนต์ส่วนใหญ่ใน YouTube นอกจากไทยอังกฤษแล้วก็เป็นสเปนเยอะมาก

จอร์จ: ทางค่ายมีจัดคอร์สให้เราเรียน

นินจา: ภาษาสเปน ภาษาอังกฤษ ทุกภาษาที่เราจะไป

แม็กก้า: หลักๆ น่าจะเป็นสเปนคือเขาอยากให้เราสื่อสารได้

นินจา: อาจจะไม่ได้เนทีฟเลยแต่ว่าทักทายพูดคุยได้จะได้ไม่ต้องโอลาอยู่อย่างเดียว ตอนนี้ที่พูดได้ก็มี (พูดพร้อมกันทุกคน) Hola (สวัสดี), Te Amo (ผมรักคุณ), Gracias (ขอบคุณ), Adiós (ลาก่อน) แล้วก็ประโยคของแต่ละคนแล้ววันนั้นเตรียมไปไม่ได้พูดด้วยครับเพราะว่ามันชุลมุนต้องเร่งเวลาเพราะคนเยอะ พูดได้มั้ยครับว่าตำรวจเขาไล่เราแล้วเวลามันกระชั้นชิด (หัวเราะ)

เห็นฟีดแบคจากที่ตัวเองได้ไปโชว์ที่เม็กซิโกแล้วคิดว่า T-POP ของเราจะสามารถตีตลาดต่างชาติได้หรือเปล่า

จอร์จ: คิดว่าได้นะครับ เพราะฝั่งลาตินเมกาที่เราไปเขาชอบชาวเอเชียมากๆ เลยครับ เหมือนเขาติดตามแล้วก็พยายามที่จะซัพพอร์ตพวกเราแล้วก็รวมไปถึง T-POP วงอื่นๆ ด้วย เห็นชาวต่างชาติดูเยอะขึ้น

นินจา: มาทำคลิปรีแอคชันกันมากขึ้น  T-POP เราก็มีความสามารถ ทุกวันนี้ก็คือแต่ละค่ายก็เริ่มเอาความสามารถออกมาสู้กัน ออกมาแสดงให้ทุกคนได้เห็น รู้สึกดีนะครับเหมือนว่ากำลังเปิดตลาดกำลังจุดเตาที่กำลังจะผัดกะเพราไข่ดาว

ในฐานะที่เราเป็นตัวแทน T-POP รุ่นใหม่ที่ได้ไปโชว์ในต่างประเทศ เรามองเห็นภาพวงการ T-POP ในอนาคตเป็นแบบไหน

นินจา: ถ้ายังเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ น่าจะแบบดีมากๆ หรือแบบว่าดีขึ้นมากครับไม่ต้องไปเทียบกับใคร แต่ว่าน่าจะสู้ได้ 

จอร์จ: รู้สึกว่าฝั่งนู้นเขาก็ชอบในความเอเชียครับ แล้วก็จอร์จรู้สึกว่าเพลงมันไม่มีกำแพงของภาษาเลยครับเวลาเขามาฟัง

นินจา: แล้วก็แบบเมื่อเทียบกับหลายๆ ปีที่ผ่านมาตอนนี้ก็บอกเลยว่า T-POP มามากจริงๆ ยิ่งปีที่ผ่านมาคือแบบ โห สุดๆ เลยปีหน้านินก็ว่าน่าจะมีวงใหม่ๆ ขึ้นมาหรือว่าวงที่มีอยู่จะพัฒนาศักยภาพกันขึ้นไปเรื่อยๆ ก็ต้องรอดูกันโดยเฉพาะ 4MIX ครับ

อยากให้คนไทยมองเห็นวงการ T-POP ของไทยเป็นอย่างไรบ้าง

จอร์จ: T-POP น่าจะเป็น softpower อีกอย่างนึงที่ส่งออกจากประเทศไทยได้ครับ เราก็ทำให้ได้รู้แล้วว่าเหมือนกับว่าจริงๆ แล้วเราก็สามารถส่งออกเพื่อไปตีตลาดฝั่งนู้นได้ เอาง่ายๆ ยกตัวอย่างก็อย่างเช่นเกาหลีเขาสนับสนุนเต็มที่ อย่างของไทยบางทีเราอาจจะมีเงินทุนแต่การสนับสนุนอาจจะยังไม่ค่อยมากพอ ก็คิดว่าถ้าสนับสนุนก็ยิ่งส่งออกได้แล้วเราก็จะสามรถที่จะสร้างรายได้จากต่างประเทศให้เข้ามาที่ไทยด้วย 

นินจา: แล้วก็อยากให้หลายๆ คนมอง T-POP ว่าเป็น T-POP ไม่ได้ไปเลียนแบบชาตินั้นชาตินี้หรือว่า T-POP ไม่แมสหรอกไม่ดังหรอก อยากให้ลองเปลี่ยนมุมมองใหม่ ยังไงเพลงก็คือเพลง ถ้าเพลงดีคนก็ฟัง ถ้าเพลงไม่ดีคนก็ไม่ฟัง ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็น T-POP หรือเพลงแนวไหน อยากให้เปิดใจกับ T-POP มากๆ ไม่ใช่แค่การร้อง มันมีทั้งการเต้น การเพอร์ฟอร์ม ทุกอย่าง ทุกคนผ่านขบวนการคิดและการฝึกฝนมาแล้วครับ ถ้าเปิดใจจะรู้ว่ามันเดอะเบสมากเลย

แม็กก้า: ก็มองคล้ายๆ กับทั้งสองคนเลยครับ สำหรับใครที่ยังอคติอยู่ก็อยากให้ลองเปิดใจ ผมรู้สึกว่า T-POP ก็มีมานานอาจจะหายไปบางช่วงซึ่งตอนนี้กลับมาแล้ว หรือถ้าไม่ชอบจริงๆ ก็อาจจะไม่ต้องก็ไม่ต้องทำลายมันก็ได้เพราะว่ามันก็เป็นของคนไทยสนับสนุนกันดีกว่าครับ

นินจา: อย่างที่บอกไม่ต้องไปเปรียบเทียบกันอันนั้นก็คนละแบบกันอยู่แล้ว ถ้ามัวแต่นั่งเปรียบเทียบกันไปมามันนานาจิตตังมันไม่จบไม่สิ้นสักทีครับ ดูที่ผลงานเป็นวง เป็นประเทศ เป็นคนไปดีกว่า

ผลตอบรับดีมากขนาดนี้ กดดันตัวเองไหมว่าการปล่อยเพลงต่อไปจะต้องดีขึ้นกว่าเดิม

จอร์จ: จริงๆ ก็ค่อนข้างที่จะกดดันตั้งแต่เราปล่อยเพลงอยู่แล้วครับเพราะสิ่งที่เราทำไว้ได้ดีเราก็ต้องทำให้มันดีกว่าเดิม 

แม็กก้า: กดดันมากๆ ตั้งแต่เราหายไปนานแล้วครับตอนนี้

นินจา: ตอนแรกมันดีมาก ทุกวันนี้ก็เริ่มเข้าใจพยายามคลายความกดดันลงและพยายามทำให้ดีที่สุดมากกว่าครับ เพราะว่าเราไม่สามารถไปบังคับให้ใครชอบไม่ชอบได้ ตอนคัมแบคเราก็ไม่คิดว่าคนจะชอบกันเยอะขนาดนี้ ถ้าเพลงหน้าเรากดดันไป หวังว่าคนจะชอบ ต้องชอบมากแน่ๆ แต่ถ้าคนไม่ชอบเราก็เสียใจเอง ปล่อยไปตามความรู้สึกดีกว่า

แม็กก้า: ถึงแม้ว่ามันจะกดดันแต่ค่อนข้างมั่นใจว่ามันจะดีครับเพลงต่อไป

นินจา: แต่อย่างน้อยเราก็มีแฟนคลับเยอะกว่าตอนที่เราปล่อยเพลงแรกครับ คนก็น่าจะแบบว่าฟังเยอะขึ้นนะ