AT HOME WITH: PHILIP THINROJ

ช่วงก่อนหน้านี้ ประโยคเด็ดอย่าง “ไอจะขยี้ยูให้แหลก” เป็นไวรัลดังอย่างมากบนโซเชียล เชื่อว่าไม่มีใครไม่เคยเห็นและไม่เคยฟังประโยคนี้จากพระเอก ฟิลลิปส์ ทินโรจน์ ผู้ชนะ The Face Men และเป็นที่รู้จักในวงกว้างขึ้นจากซีรีส์รีเมค ธิดาซาตาน ซึ่งถ้าเป็นในช่วงเวลาปกติก่อนที่จะมี COVID-19 โผล่มา เราคงได้เห็นหนุ่มฟิลลิปส์ในทุกๆ สื่อกันตลอดเวลาแล้วล่ะ แต่ด้วยสถานการณ์ช่วงนี้และที่ผ่านมาก็มีการล็อกดาวน์เกิดขึ้น ทำให้การทำงานในวงการบันเทิงอาจจะติดขัดเล็กน้อย แต่ถึงอย่างไรเราก็ยังอยากที่จะชวนเจ้าของประโยคฮิตมาคุยกันสักหน่อย ถึงเรื่องของผลกระทบที่ต้องพบเจอจาก COVID-19 และอัปเดตชีวิตการอยู่บ้านของเขาในช่วงล็อกดาวน์ที่ผ่านๆ มาให้แฟนๆ ได้รู้กันว่าหนุ่มฟิลลิปส์เป็นอย่างไรบ้าง 

 

ทำอะไรบ้างในช่วงล็อกดาวน์

ช่วงนี้ที่ล็อกดาวน์น้องก็เรียนภาษาไทยออนไลน์ เรียนแอคติ้งออนไลน์ บางครั้งก็ออกกำลังกาย ฟิตหุ่น และพยายามกินให้ดี นอนให้ดีเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง เผื่อถ้าต้องเจอโควิดจริงๆ อย่างน้อยร่างกายของน้องก็พร้อมจะรับมันในประมาณหนึ่งครับ (หัวเราะ)

ผลกระทบที่ต้องเจอจาก COVID-19

สำหรับน้องและสำหรับทุกอาชีพ น้องก็เชื่อว่าทุกคนได้รับความเสียหายจากโควิดในทุกๆ รอบไม่ใช่แค่รอบนี้ มันก็ทำให้งานก็โดนเลื่อนหมด บางอันก็ต้องยกเลิกไปเพราะเขารอไม่ได้ ตอนนี้เราก็ต้องพยายามทำงานจากที่บ้านแล้วก็ต้องหาอะไรทำเสริมตัวเองด้วย เพราะแค่งานในวงการตอนนี้ก็พออยู่ได้ แต่ในความรู้สึกของน้องก็อยากมีอะไรที่มั่นคงกว่านั้นครับ เลยต้องหางานอะไรใหม่ เช่น ถ่ายรูปอะไรพวกนี้ ซึ่งตอนนี้ถ้าถ่ายรูปให้คนอื่นก็มีระยะห่างกันนะครับ ใส่หน้ากากอนามัยและทำ swab test ด้วย

Q: การปรับตัวในการใช้ชีวิตและการทำงานมากน้อยแค่ไหน

A: ประมาณ 60% ครับ ถามว่าเยอะไหม ก็เยอะครับเพราะว่าจริงๆ ไลฟ์สไตล์หลักๆ ของน้องอยู่ข้างนอก น้องเป็นคนที่ชอบทำกิจกรรมข้างนอก งานของน้องก็คือข้างนอกตลอด ได้เจอคนเยอะ แต่ตอนนี้น้องต้องหาอะไรที่ไม่ต้องเจอคนเยอะ ปลอดภัย และอีกอย่างคือการจะมีงานช่วงนี้มันก็ยากด้วย อันนี้เราก็เข้าใจทุกอาชีพ มันก็เหมือนว่าตอนนี้อะไรที่กวาดได้ก็กวาดหมดเลยครับ (หัวเราะ) 

Q: ปกติชอบออกไปข้างนอก ไม่ได้เจอใครเลยตอนนี้เหงาไหม

A: จริงๆ น้องก็ไม่อยากดราม่านะครับ แต่มันเศร้ามากอะ (ทำเสียงร้องไห้) อันนี้น้องก็ต้องขอบคุณเทคโนโลยีของเราที่พัฒนามาไกลถึงขนาดนี้ เราสามารถติดต่อเพื่อนจากต่างประเทศได้ หรือว่าจากที่อื่นโดยที่เรายังอยู่บ้าน ก็ถือว่าช่วยได้เยอะครับ อีกอย่างมันทำให้การทำอาการของน้องพัฒนาด้วยครับ รอบแรกที่มีโควิด กินมาม่าทุกวัน รอบที่สองเรื่องมีอกไก่ ไข่เจียว ไข่ต้ม  พอมารอบนี้น้องเริ่มทำสปาเกตตี้ ก็ถือว่าได้พัฒนาฝีมือในการทำกับข้าวครับ เพราะว่าช่วยแก้เหงาได้นิดหน่อย

เมนูไหนที่ชอบทำที่สุด รู้สึกว่าตัวเองทำแล้วอร่อยมาก

โอ้โห ช่วงนี้น้องชอบทำสปาเกตตี้แนวเพสโต้ครับ พยายามอัดโปรตีนให้เยอะที่สุดเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงครับ

อยู่บ้านนานๆ เบื่อไหม มีความรู้สึก depress บ้างหรือเปล่า

A: น้องเข้าใจคนที่เป็นนะครับ แต่ถ้าถามว่าน้องเป็นไหมอันนี้ไม่รู้เหมือนกันครับ มันเป็นสิ่งที่หมอต้องบอกน้อง แต่ว่าสำหรับน้องพยายามเป็นคนที่คิดบวกตลอด สิ่งที่ช่วยเยอะที่สุดในช่วงโควิดคือการฟังเพลงของน้อง หรือว่าการดูอะไรใหม่ๆ ดูศิลปะ เรียนรู้อะไรใหม่ๆ อย่างใน Netflix จะมีรายการที่เป็นการรีเสิร์จเกี่ยวกับสัตว์ น้องชอบดูสัตว์ครับ

มีเพลงไหนที่แนะนำบ้าง

ช่วงนี้ถ้าเป็นเพลงไทยน้องชอบฟังเพลง อ้อมแขนที่ไม่มีจริง ของพี่ Tono & The Dust ส่วนเพลงสากล ตอนนี้ Jennifer Hudson มีผลงานหนึ่งที่ทำเกี่ยวกับประวัติชีวิตของ Aretha Franklin ชื่อเรื่อง Respect ซึ่งเพลงในเรื่องนี้ดีมากครับ แนะนำถ้าใครอยากฟังเพลงแนว Soul มีความวินเทจหน่อย เป็นความสวยงานในศิลปะสมัยก่อนก็แนะนำมากเลยครับ

พอมีเวลามากกว่าเดิม ได้ดูแลตัวเองมากขึ้นไหม

ช่วงนี้น้องมาส์กหน้าครับ (หัสเราะ) สมัยก่อนไม่ค่อยได้มาส์กหน้าเท่าไหร่ อีกอย่างหนึ่งเพราะว่าน้องจะมีคลีนิคที่ดูแลหน้า บำรุงผิวให้เวลาที่ทำงานหนัก โดนแดดเยอะ แต่ตอนนี้คลีนิคก็ปิดเลยต้องหาวิธีรักษาหน้าของตัวเอง ก็เลยเริ่มใส่ใจมากขึ้นครับ (หัวเราะ) โอ้ แล้วก็ลิปมันเจอหลายรสชาติอร่อยมาก (หัวเราะ) เวลาเราทาแล้วเลียปากก็จะ อืม วันนี้เป็นรสชาติน้ำผึ้งนะ อร่อย 

นอกจากทำอาหารแล้วยังมีอย่างอื่นอีกไหมที่ไม่เคยทำแล้วได้มาลองทำในช่วงนี้

อาหารเป็นหลัก แต่ถ้าได้ลองอะไรใหม่ๆ ตอนนี้น้องชอบไปซักผ้าหยอดเหรียญ รู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในภาพยนตร์สักเรื่องหนึ่งมันได้ฟีลนั้นมาก ด้วยความที่ปกติทำงานเยอะก็จะไม่มีโอกาสได้ใช้บริการแบบนี้ จะเป็นการส่งซักผ้าตลอด แต่ตอนนี้มีเวลาเยอะขึ้นเลยอยากลอง ชอบมาก สว่าง ทุกอย่างดูเหมือนฉากใน MV เกาหลีอะ เราก็นั่งรอ ดูคนอื่นซักผ้าแล้วก็ยิ้มให้ (หัวเราะ) เป็นช่วงเวลาที่ทำให้เราได้เจอคนอื่นบ้าง แต่ไม่ได้พูดคุยกันนะ ไม่รู้ว่าทำไม แต่สังคมร้านซักผ้าหยอดเหรียญจะยิ้มให้ หรือขยับหัวบอกกันว่าผ้าเสร็จแล้ว น้องชอบๆ

ก่อนหน้านี้เป็นคนชอบเที่ยวหรือเปล่า

ชอบเที่ยวครับ ชอบเที่ยวธรรมชาติ หาของกิน หาร้านกาแฟ เที่ยววัด 

พอไม่ได้ไปเที่ยวนานๆ คิดถึงการเที่ยวไหม

คิดถึงครับ แต่เราพยายามอยู่กับปัจจุบันให้เยอะที่สุด อันนี้มันคือความจริง น้องหลอกตัวเองไม่ได้ว่าน้องอยากไปเที่ยวแล้วสร้างกิเลศขึ้นมา มันยิ่งทำให้อยากไป มันก็จะเป็นการทำร้ายตัวเอง ก็เลยแค่คิดว่าเออวันนี้ทำกับข้าวอะไรดี วันนี้ไปซักผ้ากี่โมงดี จะซักกี่กิโลดี (หัวเราะ) ใช้ชีวิตในแต่ละวันให้คุ้มที่สุดกับสิ่งที่เรามีแทนครับ

แพลนหลังจากหมดโควิด

อันดับแรกที่อยากทำก็คืออยากเจอคน ในตอนที่มันปลอดภัยแล้ว เพราะว่าน้องก็ไม่อยากเป็นคนที่สมมติว่าน้องติดโควิดแล้วไปทำงาน แล้วมีคนที่มีพ่อแม่ที่บ้านและทำงานร่วมกับน้อง แล้วเขาพาเชื้อจากน้องไปติดที่บ้าน ทำให้คนที่ร่างกายอ่อนแอ คนที่มีอายุ เจ็บป่วยหรือเสียชีวิต อันนี้จะเป็นบาปที่สุดของน้องเลยครับ อันดับที่สองที่อยากทำคือคิดถึงการไปดูหนังในโรงหนังนะ (หัวเราะ) น้องเข้าใจว่าถ้าอยากดูหนังก็ดูที่บ้านได้ แต่มันคืออะไรบางอย่างอะ การที่เราไปดูหนังในโรงหนัง เสียงก็ดี จอก็ใหญ่ ห้องมืด ไม่มีใครพูด ป็อปคอร์นอร่อย มันรู้สึกพิเศษสำหรับน้อง มันเป็นกิจกรรมที่เราทำคนเดียวได้ไม่มีปัญหา ไม่ได้เหมือนเราไปกินชาบูคนเดียวอะ คนจะแบบ เอ๊ะ ทำไมมาคนเดียว อกหักแน่เลย (หัวเราะ) แต่การกินชาบูคนเดียวไม่ผิดนะครับ น้องเคยทำหลายครั้งแล้ว เหมือนพอเราไปคนเดียวพนักงานจะเริ่มทำตัวไม่ถูกแล้วว่าจะต้องนั่งตรงไหนดี เพราะปกติคนจะมากัน 2 คน (หัวเราะ) ส่วนอันดับที่สามคือการกินย่างเนย น้องชอบมากเลย ชอบมาก (หัวเราะ)

มีอะไรอยากบอกแฟนๆ และคนที่กำลังเจอปัญหาในตอนนี้ไหม

อันดับแรกขอให้ทุกคนปลอดภัย ร่างกายแข็งแรง แล้วก็ผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกันนะครับ น้องเชื่อว่าทุกคนมีความลำบากของแต่ละคน มากกว่าน้อยกว่ายังไงก็ลำบากอยู่ดี ขอเป็นกำลังใจให้ พยายามคิดบวกให้เยอะที่สุด พยายามอยู่กับปัจจุบัน รักษาระยะ ใช้แอลกอฮอล์ แล้วก็อย่าลืมยิ้มนะครับ จริงๆ ก็อยากจะให้คำแนะนำ อะไรที่มันช่วยมากกว่านี้ แต่ว่าตอนนี้น้องก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากให้ใจครับ สู้ๆ นะครับทุกคน ส่วนงานก็โดนเลื่อนไป แต่ก็มีหลายงานหลายรายการ มีซีรีส์ด้วยครับ ถ้าดีขึ้นน้องก็จะได้กลับไปถ่าย แต่ก็ต้องรอดูด้วยว่าเป็นยังไงบ้าง แล้วก็มีละครเรื่องหนึ่งที่น้องรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับน้อง ยังไงก็ฝากรอติดตามด้วยนะครับ ติดตามกันได้ที่โซเชียลมีเดียของน้อง IG: philipthinroj เลยครับ