Between the lines: ความขมขื่นที่ซ่อนภายใน และกำลังใจที่ซ่อนอยู่ในเพลงของ Taylor Swift

หลังจากที่ภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Miss Americana สารคดีที่บอกเล่าถึงชีวิตของ Taylor Swift ปล่อยออกมาเป็นทางการใน Nexflix ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา และหลายคนต่างเริ่มพูดถึงเนื้อหาในภาพยนตร์ที่เล่าถึงประเด็นต่างๆ ในภาพยนตร์อย่างเรื่อง การทำงาน ความรัก ปัญหาสุขภาพ การถูกล่วงละเมิดทางเพศ รวมไปถึงประเด็นสำคัญอย่างการแสดงจุดยืนทางการเมืองของสาวเทย์เลอร์ แต่นอกจากประเด็นทั้งหมดที่ถูกพูดถึง อีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจในภาพยนตร์สารคดีนี้คือ บทเพลงของเทย์เลอร์ สวิฟต์

“เหมือนว่าพวกเขากำลังอ่านไดอารี่ของฉัน”

เทย์เลอร์ได้พูดถึงบทเพลงของตัวเองว่ามีความพิเศษคือ การเล่าเรื่องราวของเธอผ่านบทเพลง และเธอยังได้บอกอีกว่า หากเธอไม่ได้แต่งเพลงเอง เธอคงไม่ได้เป็นเทย์เลอร์ สวิฟต์อย่างเช่นทุกวันนี้ และอย่างที่รู้กันดีว่าไม่ว่าเทย์เลอร์ สวิฟต์จะปล่อยเพลงไหนออกมา เพลงนั้นก็ดังติดท็อปชาร์ต พาเธอกวาดรางวัลมามากมาย และส่วนใหญ่เป็นเพลงที่บอกเล่าเรื่องราวความรักของเธอ

แล้วถ้าไม่ใช่เพลงรัก เทย์เลอร์ สวิฟต์แต่งเพลงถึงเรื่องอะไรบ้าง? NYLON จึงอยากชวนมาอ่านไดอารี่ชีวิตด้านอื่นๆ ของเทย์เลอร์ สวิฟต์ผ่านบทเพลงของเธอกัน

Clean

ความพิเศษของเพลง Clean ในภาพยนตร์สารคดี Miss Americana นั้นคือ เทย์เลอร์ได้ร้องเพลงนี้บนคอนเสิร์ต Reputation ซึ่งก่อนจะเริ่มร้องเพลงเธอได้พูดถึงเหตุการณ์เมื่อหนึ่งปีก่อนที่จะมีคอนเสิร์ตนี้ ว่าเธออยู่ในศาลเพื่อตัดสินคดีที่เธอตกเป็นเหยื่อการล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งเพลงนี้นอกจากจะมีความหมายถึงความสัมพันธ์ที่ขมขื่นได้จบลงและผ่านพ้นไป ยังมีอีกความหมายหนึ่งก็คือ การผ่านเรื่องราวที่ทำให้ชีวิตเจ็บปวดและเป็นคนที่เข้มแข็งขึ้นนั่นเอง

ME!

ถ้าหากพูดถึง MV ที่มีคนลอยได้ ยูนิคอร์น ขบวนพาเหรด สายรุ้ง ฝนที่ตกลงมาก็ยังเป็นสายรุ้ง คงต้องยกให้เพลง ME! แล้วล่ะ ด้วยเนื้อหาที่พูดถึงการรักตัวเอง ภูมิใจในตัวเอง มีเนื้อเพลงที่ขึ้นต้นด้วยประโยค I promise that you’ll never find another like me ที่มีความหมายอีกนัยหนึ่งว่า การเป็นตัวเองนั้นจะไม่มีใครมาแทนที่ได้ เพลงนี้มีทำนองที่ชวนให้ลุกขึ้นมาโยกตัว แถมยังได้ Brendon Urie จาก Panic! At The Disco มาเพิ่มสีสันให้เพลงสนุกมากยิ่งขึ้น

You need to calm down

สำหรับเพลงนี้เทย์เลอร์ได้เขียนเนื้อเพลงขึ้นมาตอบโต้ความคิดเห็นที่มาถล่มเธอบนอินเทอร์เน็ต อีกทั้งยังเป็นเพลงที่บ่งบอกว่าเทย์เลอร์นั้นสนับสนุนความหลากหลายทางเพศ เพราะเธอได้ชวนเพื่อนๆ ของเธอที่เป็น LGBTQ รวมถึงนักแสดงและเซเลบริตี้มาร่วมสร้างสีสันใน MV ซึ่งถ้าใครที่ดูแล้วจะเห็นความสดใสที่เทย์เลอร์กับเพื่อนๆ ของเธอใช้ชีวิตอย่างสนุกสนาน แม้จะถูกกลุ่มคนบางกลุ่มต่อต้านพวกเธอก็ตาม

The man

เพลงนี้พูดถึงการเป็นผู้ชายที่ไม่ว่าเจ้าชู้แค่ไหน ก็ดูไม่เสียหาย และได้รับการยอมรับอยู่เสมอ หรือในการทำอะไรสักอย่าง ผู้ชายก็จะถูกเลือกให้เป็นผู้นำเสมอ ซึ่งตรงข้ามกับการเป็นผู้หญิง เพราะถ้าหากเป็นผู้หญิงเจ้าชู้ ผ่านการคบหามากมาย ก็จะถูกมองว่าเป็นผู้หญิงไม่ดีและถูกพูดถึงในทางลบ เพลงนี้เทย์เลอร์ได้เขียนเนื้อเพลงที่มีท่อนฮุคติดหู และบาดใจอย่างท่อน I’m so sick of running as fast as I canWondering if I’d get there quicker if I was a man และตบท้ายอย่างตลกร้ายว่า ถ้าการถึงจุดหมายที่ฝันไว้ได้อย่างรวดเร็วเพราะเป็นผู้ชาย เธอก็จะเป็นผู้ชาย

Miss Americana & The Heartbreak Prince

เพลงนี้คือที่มาของชื่อภาพยนตร์สารคดี Miss Americana ถ้าใครได้ดูแล้ว จะรู้ว่าหัวใจหลักภาพยนตร์เรื่องนี้คือการก้าวออกมาแสดงจุดยืนทางการเมืองของเทย์เลอร์ สวิฟต์ หลังจากที่เธอหลีกเลี่ยงที่จะพูดเรื่องนี้มาตลอด เพลงนี้ได้แฝงความหมายทางการเมืองของอเมริกาไว้ ซึ่งเปรียบเทียบความรักของวัยรุ่นที่รู้สึกหม่นหมองท่ามกลางเหตุการณ์เลวร้ายต่างๆ และต้องการที่จะหนีไป

Only the young

ปลดปล่อยความผิดหวังผ่านเพลง Miss Americana & The Heartbreak Prince กันแล้ว ในช่วงท้ายของภาพยตร์สารคดี เทย์เลอร์ยังได้แต่งเพลงเพื่อย้ำจุดยืนทางการเมืองอีกครั้ง และให้ความหวังกับคนรุ่นใหม่ที่รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ทางการเมือง เทย์เลอร์เชื่อมั่นว่าคนรุ่นใหม่คือกลุ่มคนสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้นได้

 

 

Written by Pimchanok Bunchaeng