จาก แคนแคน สู่ แคน นายิกา และวันที่ออกเดินไปข้างหน้าอีกครั้ง

 

เวลาศิลปินไอดอลวัยรุ่นพูดถึงการ ‘เปลี่ยนบทบาท’ เราต่างจะคุ้นเคยกับการออกจากวงไปเป็นศิลปินเดียว การย้ายตัวเองไปอยู่เบื้องหลัง หรือการพาตัวเองไปอยู่ในอาชีพการแสดง แต่จะมีสักกี่ครั้งที่เราได้ยินการกระโดดข้ามสายงานแบบที่เราและใครหลายคนต้องแปลกใจ อย่าง แคน-นายิกา ศรีเนียน ที่ประกาศพักบทบาทไอดอลพร้อมๆ กับการเปิดตัวเป็นสมาชิกพรรคการเมือง พร้อมขับเคลื่อนสังคมด้วยอุดมการณ์ที่เธอเชื่อ

NYLON ขอพักเรื่องเพลง ชวนมาทำความรู้จักกับ แคน-นายิกา ผ่านบทบาทใหม่ในฐานะที่ปรึกษาอนุกรรมมาธิการองค์การซอฟแวร์เกมและ E-sports ของรัฐสภา และสมาชิกพรรคก้าวไกลที่กำลังลงพื้นที่ทำงานในเขตเลือกตั้งที่ 14 เขตบึงกุ่ม คันนายาว แขวงรามอินทรา กรุงเทพมหานคร



 

  • ที่ปรึกษาเรื่องซอฟแวร์เกมและ E-sports ต้องทำอะไรบ้าง

อนุกรรมมาธิการที่จัดตั้งขึ้นมานี้เป็นเหมือนกรรมาการตั้งขึ้นมาเพื่อศึกษาวงการเกมว่ามีปัญหาอะไร หรือมีอะไรที่ดีอยู่แล้วและจะพัฒนาวงการเกมในบ้านเราต้องไปอย่างไร [แคน] มีหน้าที่ไปรับฟังและประชุม โดยอนุกรรมการจะเรียกนักพัฒนาประชุมอาทิตย์ละแขนง เช่น อาทิตย์นี้เรียกนักพัฒนามา 3 บริษัท คุยกันเกี่ยวกับวงการเกมว่ามีปัญหาอะไร ต้องการพัฒนาตรงไหน อาทิตย์ต่อไปอาจจะเรียกโปรแกรมเมอร์ หรืออาทิตย์ถัดไปอาจเรียกพวกที่เป็นบริษัทอินดี้ หรือแม้กระทั่งเรียกคนที่ไม่ได้สนับสนุนเกมมานั่งคุยกันก็ได้ และหลังจากที่จบอนุกรรมมาธิการชุดนี้ไปแล้วก็จะมาดูกันว่าส่วนที่เราประชุมมาทั้งหมดมีส่วนใดที่รัฐบาลสามารถช่วยสนับสนุนได้บ้าง

 

  • พอเข้ามาเข้าสู่วงการการเมืองเรียกได้ว่าเต็มตัวแล้ว แคนคิดว่าคำพูดที่ว่า ‘การเมืองเป็นเรื่องของทุกคนในทุกช่วงอายุ’ มันมีความสัมพันธ์กันยังไงบ้าง

จริงๆ มันใกล้มาก ขึ้นอยู่กับปัญหาที่แต่ละคนเจอ การเมืองมันอยู่ในทุกๆ ด้านของการใช้ชีวิตเลย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมปัญหาหารศึกษา ปัญหาเรื่องค่าแรงสาธารณูปโภคคือมันอยู่ทุกอย่าง คือคุณภาพชีวิตของเรา ถ้าเราอยากให้มันดีขึ้นเราก็ควรจะสนใจการเมืองหรือเปล่า?

 

  • อะไรทำให้แคนมองลึกลงไปในปัญหาด้านการเมืองว่าสิ่งนี้เป็นปัญหาที่ปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้แล้ว ควรได้รับการช่วยเหลือและควรได้รับการยืนมีเข้ามาช่วยแล้วนะ

จุดเริ่มต้นของแคนคือ แคนเป็นเด็กที่เกิดและโตในครอบครัวที่เรียกว่าคนกรุงเทพฯ ฐานะปานกลาง ก็เลยอยู่ในสังคมที่เพื่อนรอบตัวไม่เคยเจอปัญหาอะไรเลย 

จนวันหนึ่งพ่อแคนทำเกี่ยวกับรายการของช่องการเมือง แล้วเขาพาแคนที่เพิ่งเลิกเรียนไปเยี่ยมครอบครัวหนึ่งที่คุณพ่อของครอบครัวนั้นต้องโทษในคดีทางการเมือง ครอบครัวนั้นอยู่ในแฟลตดินแดง นั่นคือครั้งแรกที่เราได้เห็นคุณภาพชีวิตของคนที่ไม่เหมือนกันเรา มันก็ทำให้เราคิดว่านี่ขนาดในกรุงเทพฯ นะ ยังมีบ้านที่ไม่มีประตูและอยู่ในซอกตึกขนาดนี้เลยเหรอ ทำให้เราตั้งคำถามกับตัวเองว่า ขนาดทุกวันนี้ยังมีคนที่ใช้ชีวิตลำบากกว่าเราทั้งๆ ที่อยู่ในกรุงเทพฯ เหมือนกัน และถ้าในต่างจังหวัดล่ะ อาจจะมีอะไรที่มากมายรอให้เราไปเห็นไปช่วยพัฒนาอยู่หรือเปล่า ก็เลยเริ่มสนใจ แต่ถามว่าอะไรที่ต้องพัฒนาก็คือทุกอย่างถ้าเราลงไปอยู่กับมันจริงๆ 

 

  • แล้วใช้เวลาทำความเข้าใจกับสิ่งที่ได้พบเจอนานแค่ไหน

จริงๆ ไม่นานนะ ถ้าสมมติเราไปลงพื้นที่ใช่ไหม แล้วเราไปเห็นคนที่มีปัญหาแค่ถามคำถามเป็นประโยคเปิดสักพักเขาจะเล่ามา 2-3 ชั่วโมงเลย เรามีหน้าที่แค่รับฟังถ้าเรารับฟัง จริงๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะเข้าใจ แค่ไม่มีคนที่ฟังเขาแบบ.. ฟังจริงๆ 

นักการเมืองรุ่นก่อนอาจจะโผล่มาเฉพาะช่วงใกล้เลือกตั้ง มาแบบชื่อนี้นะ มีปัญหาอะไรกันบ้าง สักพักก็จะหูดับล่ะ อาจจะไม่ได้ฟังเขาจริงๆ ไง คำว่านักการเมืองก็คือคนของประชาชนควรที่จะลงมารับฟังเพื่อศึกษาปัญหาที่เขาเจอและหาทางแก้ให้เขา

 

  • การได้ไปลงชุมชนแบบนี้ ทำให้เราได้เห็นอะไรบ้างสิ่งที่พบเจอปัญหาหรือสิ่งที่เรามองว่าควรจะเอาไปพัฒนา

ตอนนี้รู้สึกว่าอำนาจของประชาชนจริงๆ มันน้อยลง มันเหมือนกับคนที่ทำงานในหน่วยงานภาครัฐถ้าไม่ใช่ตำแหน่งสูงๆ เขาจะไม่มีอำนาจในการสั่งการอะไรเลยต่อให้เขาเห็นปัญหาอยู่ตรงหน้า ถนนตรงนี้ควรจะซ่อมแซม เขาไม่มีกำลังที่จะสั่งคนข้างล่างลงไป เขาต้องรอคำสั่งการจากเบื้องบน ซึ่งคนที่อยู่เบื้องบนเขาก็ไม่ได้ลงมาเห็นปัญหาว่ามันเกิดอะไขึ้นบ้าง ตอนนี้ก็เลยมองว่าที่มันเป็นแบบนี้เพราะประชาชนไม่ได้มีอำนาจจริงๆ ความเหลื่อมล้ำด้วย ความเหลื่อมล้ำที่ว่าเราทุกคนเข้าถึงข้อมูลได้ไม่เท่าเทียมกัน

 

  • สิ่งที่แคนอยากจะเปลี่ยนแปลงในชุมชนที่ได้เข้าไปลงพื้นที่คืออะไร

ตอนนี้สิ่งที่เราเข้าไปก็แค่เบื้องต้นช่วยประสานงานกับหน่วยงานรัฐให้เขา เรามีความฝันที่ว่าเราอยากจะแนะนำความรู้ให้กับเขาเพื่อให้เขาสามารถไปทำได้ด้วยตัวเอง 

ส่วนในอนาคต เราอยากให้การที่เวลาเราไปติดต่อหน่วยงานรัฐหรือหน่วยต่างๆ มันเป็นอะไรที่สะดวกและรวดเร็วขึ้น เหมือนกับว่าอยากจะจ่ายภาษีที่ดิน อยากจะทำบัตรประชาชน ทำใบขับขี่ สามารถทำพร้อมกันได้ในหนึ่งวัน เราอยากให้มันเป็นแบบนั้น

 

  • อะไรที่เปิดโลกของเรามากที่สุดหลังจากการลงชุมชน

คำสัญญาของกลุ่มคนที่เขาชอบมาสัญญากับชาวบ้าน เอาจริงๆ ก็คำสัญญาของหน่วยงานรัฐนี้แหละ บอกชาวบ้านว่าจะทำเขื่อนให้ 20 ปีแล้วยังไม่เห็นมีเขื่อนขึ้นเลยและหลังจากนั้นก็ไม่มีการเข้ามา เอาทีมนู้นทีมนี้มาประชุมวนไปๆ สุดท้ายก็ไม่เกิดขึ้นมาจริงๆ เขาต้องรออีกถึงเมื่อไร นั้นคือสิ่งที่เรารู้สึกว่ามันมีคำสัญญาเยอะแยะเต็มไปหมดเลย

 

  • ความท้าทายของการทำงานการเมืองคืออะไร เพราะบางทีอาจจะมีคนมองว่าการที่แคนเคยอยู่วงการบันเทิงมาก่อน อาจะมีนัยยะอะไรในการเข้ามาวงการการเมือง

คือถ้าคนตามเราจริงๆ เขาจะรู้ว่าเราทำเกี่ยวกับค่ายอาสาและพัฒนาตั้งแต่ก่อนหน้าจะเข้าวงการบันเทิงอีก ที่จริงการเข้าวงการบันเทิงมันเป็นสิ่งที่ไม่ตอบโจทย์เรามากที่สุดด้วยซ้ำ เราถึงก้าวออกมา เราให้กำลังใจคนแต่เราไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนได้ แต่เราลงมาเล่นการเมืองเราสามารถช่วยเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตของเขาได้ มันทำอะไรได้มากกว่าเดิม แล้วก็ตอนนี้ไม่อยากให้มองว่าเราจะลงแย่งชิงอะไรแบบนั้น ให้มองว่าเรากำลังศึกษาว่าเราจะสามารถพัฒนาตัวเองในด้านนี้ได้มากน้อยแค่ไหน เวลาลงพื้นที่ คนในพื้นที่ไม่มีใครรู้เลยนะว่าเราเป็นใครมาจากไหนเพราะช่วงนี้ก็คือใส่แมสก์ปิดหน้าตลอด แล้วเราก็พยายามอยากจะให้ผู้สมัครในเขตของเราอ่ะ โด่ดเด่นมากที่สุด เรามีหน้าที่คือช่วยผลักดันเขา ช่วยเหลือชาวบ้านแบบจริงๆ ถ้าคนตามเราอ่ะจะรู้

ด้วยความที่ตอนนี้เราอายุแค่ 23 ปีจะเป็นนักการเมืองก็ต้อง 25 ปี [อายุขั้นต่ำของการลงรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร – ผู้เขียน] ตอนนี้เลยเป็นช่วงเวลาที่เราศึกษาและเก็บเกี่ยว รับฟังปัญหาให้ได้มากที่สุด จะได้รับรู้ถึงปัญหา และดูว่าเราจะสามารถพัฒนาต่อยอดกันยังไง

 

  • แล้วแฟนๆ ที่ตามอยู่จะมีโอกาสได้กลับมาฟังเราร้องเพลงอีกไหม?

ถามว่ามีโอกาสไหม มันก็มีแต่เราอาจจะไม่ได้เป็นคนเขียนเองหรือลงมือทำ นอกจากจะมีคนติดต่อมาให้ร้องแล้วเราเห็นว่าเพลงน่าสนใจ เราก็ทำได้ แต่ต้อง concern นิดนึงว่าเวลาของเราอาจจะไปเต็มที่กับการทำการเมืองมากกว่า

 

  • เราจะได้เห็นแคนในบทบาทไหนอีกบ้างในอนาคต มีความคิดบ้างไหมว่าเราเคยเป็นไอดอลแล้ว ตอนนี้ก็วงการการเมืองแล้ว แล้วมีอะไรที่เราอยากจะทำอีกบ้าง? 

อืมมม….โห มองไม่ออกเลย เพราะการเป็นนักพัฒนาคือสิ่งที่เราอยากเป็นอันดับต้นๆ แล้วตอนนี้ จริงๆ มันอาจจะเป็นอันดับต้นๆ มาตั้งนานแล้ว นอกจากนั้นก็ถ้าอีกประมาณ 10 – 20 ปี ก็คงเป็นแม่บ้านเฉยๆ อ่ะ (หัวเราะ) สิ่งที่อยากเป็นมี 2 อย่าง นักพัฒนาและแม่บ้านค่ะ (หัวเราะ)

 

Interview: Nichkamon Boonprasert

Photography: Sereechai Puttes

Clothes : Dapper, Vickteerut