เหล่าอาหมวยในสื่อบันเทิงไทย สะท้อนให้เราเห็นอะไรจากชีวิตตัวละคร

มีสื่อบันเทิงไทยทั้งละครและภาพยนตร์พูดถึงความเป็นเชื้อชาติจีนอยู่หลายเรื่อง ในแต่ละเรื่องก็จะมีภาพสะท้อนบางอย่างจากตัวละครให้เราได้เห็นถึงค่านิยมของชาวจีน วันนี้ NYLON ก็ได้หยิบเอา 5 ละคร 1 ภาพยนตร์มายกตัวอย่างให้เห็นถึงบทบาทของเหล่าลูกสาวชาวจีนว่าบันเทิงไทยนั้นถ่ายทอดภาพจำออกมาให้เราได้เห็นในรูปแบบไหนบ้าง และเผื่อว่าวันนี้ยังไม่รู้ว่าจะทำกิจกรรมอะไรกับครอบครัว อาจจะพามารวมตัวกันหน้าโทรทัศน์แล้วเปิดละครหรือภาพยนต์จาก 6 เรื่องนี้ดูก็ได้นะ

 

หงส์เหนือมังกร

เรื่องราวของ หลิว ลูกสาวเจ้าพ่อผู้มีอิทธิพลแห่งวงการมาเฟียเมืองไทย เธอเติบโตขึ้นมาท่ามกลางเหล่ามิจฉาชีพ การอบรมสั่งสอนจึงมักแปลกแยกและแตกต่างจากเด็กสาวคนอื่น ๆ รวมถึงต้องเข้ารับตำแหน่ง หัวหน้า เพื่อสืบทอดเจตนารมณ์ของพ่อผู้ล่วงลับ  บิดาของเธอสั่งสังหาร มาเฟียผู้เป็นน้องร่วมสาบาน เป็นเหตุให้ จางเหา คนครัวของลูกน้องผู้ภักดีวางแผนล้างแค้นให้กับผู้มีพระคุณด้วยการสังหารพ่อของหลิว ในระหว่างนั้นเองก็มีเหตุการณ์กราดยิงเกิดขึ้นในงานเลี้ยง ซึ่งเป็นสถานที่พบเจอกันครั้งแรกระหว่างจางเหาและหลิว จางเหาได้เสี่ยงชีวิตเข้ามาช่วยหลิวไว้ เหตุการณ์นี้ทำให้จางเหาได้รับรู้ว่าหลิวเป็นลูกสาวของเจ้าพ่อที่เขาต้องล้างแค้นให้กับผู้มีพระคุณ ส่วนหลิวก็ประทับใจในตัวของจางเหา จึงเกิดเป็นเรื่องราวที่ต้องแลกมาด้วยความรักกับความแค้น 

การขึ้นรับตำแหน่งต่อจากบิดาผู้เป็นอดีตเจ้าพ่อมาเฟีย สร้างความวิตกกังวลใจแก่หลิวเป็นอย่างมาก เพียงเพราะเธอเกิดมาเป็น ผู้หญิง ไม่สมควรได้รับตำแหน่งใหญ่อย่างการเป็น เจ้าแม่ ทำให้ไม่มีใครยอมรับและยำเกรงต่ออำนาจของเธอ การปกครองจึงระส่ำระส่าย หลิวต้องเจอกับสารพัดเรื่องราวตั้งแต่ต้องลาออกจากมหาวิทยาลัย ตัดหางเปียทิ้ง โดนกลั่นแกล้งรังแก ทำร้ายร่างกาย ดูถูกเหยียดหยามศักดิ์ศรี ไปจนถึงโดนลอบฆ่า และเกือบจะโดนข่มขืนจากคู่กรณี แต่ด้วยจิตใจแน่วแน่ที่จะก้าวขึ้นสู่ความเป็นหงส์เหนือมังกรให้สมกับเจตนารมณ์ของผู้เป็นพ่อ รวมถึงความเข้มแข็งเด็ดเดี่ยว ความพยายาม และความสามารถที่เธอมีผลักดันให้เธอได้เป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มมังกร 14 เค ซึ่งเป็นองค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เท่ากับว่าได้บรรลุสู่ความเป็นหงส์เหนือมังกรอย่างเต็มภาคภูมิ จนกระทั่งทำให้คนในพรรคยอมศิโรราบต่อเธอได้ในที่สุด ทำให้เธอได้รับความเชื่อมั่นอย่างล้นหลามจนกลายเป็นหงส์ที่ทะยานสูงไม่แพ้มังกรอย่างผู้เป็นพ่อ

 

เลดี้เยาวราช

ใครที่เติบโตมาในเยาวราชหรือคุ้นเคยกับเยาวราชต้องรักละครเรื่องนี้อย่างแน่นอน กับเรื่อง เลดี้เยาวราช เล่าถึงเรื่องราวของ หยก หรือ หยกผกา ลูกสาวในบ้านที่ทำกิจการขายซาลาเปาในเยาวราช เธอถูกพ่อเมินเฉย ถูกตีอยู่บ่อยครั้ง และพ่อยังให้ความสำคัญกับพี่ชายมากกว่า หยกรู้สึกน้อยใจที่พ่อรักลูกไม่เท่ากัน เธอตั้งปนิธานในใจว่าจะพิสูจน์ตัวเองให้พ่อยอมรับให้ได้ หยกผกาตั้งใจทำงานพิเศษเก็บเงิน เพื่อจะได้พาตัวเองกับน้าสาวผู้ให้กำลังใจเธอมาตลอด หนีออกจากบ้านไปใช้ชีวิตที่อังกฤษ หยกมุ่งมั่นเรียนทำอาหารแล้วกลับมาเปิดร้านขายติ่มซำแข่งกับพ่อตัวเองที่เยาวราช จากชื่อหยกผกาจึงกลายเป็นเลดี้เจด หญิงสาวผู้แข็งแกร่งมีร้านอาหารเป็นของตัวเอง แต่ทว่าภายในใจของหยกก็ยังโหยหาการยอมรับจากพ่อของเธอเช่นเดิม

ในละครเรื่องนี้หยกต้องแบกรับความเสียใจที่คนในครอบครัวอย่างพี่ชายกลั่นแกล้งอยู่เสมอ และต้องถูกพ่อดุด่าว่าเธอไร้ค่า รอเวลาให้เธอแต่งงานไปมีครอบครัวใหม่ เพียงเพราะเธอเป็นลูกสาวในบ้านเท่านั้น คำพูดที่เสียดแทงและเกิดเป็นรอยแผลในหัวใจของหยกทำให้เกิดการต่อสู้กับตัวเองและปมปัญหาในใจ ให้หยกได้ก้าวไปข้างหน้าไม่หยุด แต่สุดท้ายหยกและพ่อต่างลดทิฐิในใจลง แล้วหันหน้ากลับเข้าหากันด้วยเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการทำซาลาเปาไปให้พ่อทาน ทำให้พ่อได้เห็นถึงความสามารถให้ตัวของเธอ นอกจากนี้ยังได้คำชมที่ทลายกำแพงในใจของลูกสาวที่รอคำพูดนี้จากปากของพ่อตัวเองมาทั้งชีวิตกลับไปอีกด้วย

รถไฟฟ้ามาหานะเธอ

ถ้าให้พูดถึง เหมยลี่ ใน รถไฟฟ้ามาหานะเธอ ในยุคนี้ก็คงต้องเรียกได้ว่าเป็นเจ้าหญิงแห่งวงการเมาในงานแต่งงานเพื่อน ที่ยิ่งเห็นเพื่อนแต่งงานก็ยิ่งตอกย้ำความโสดของตัวเอง และเมื่อถึงวันแต่งงานของเพื่อนสนิท เหมยลี่ก็ยังไม่ทิ้งตำแหน่งเจ้าหญิงที่ว่าไป ที่แย่ไปกว่านั้นคือเมาแล้วขับรถจนเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ถูกป๊าลงโทษด้วยการขายรถของเธอทิ้ง กลายเป็นว่าชีวิตต่อจากนั้นเหมยลี่จึงต้องใช้บริการรถสาธารณะแทน จนวันหนึ่งเกิดเหตุเล็กน้อยทำให้เธอได้เจอกับ ลุง วิศกร Maintenance แห่งรถไฟฟ้า BTS และการได้เจอกับเขาอีกครั้งทำให้เหมยลี่เริ่มรู้สึกว่าการเดินหน้าจีบผู้ชายในตอนนี้คงไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เพราะหากว่าเธอพลาดรถไฟฟ้าขบวนนี้ไปก็ไม่รู้ว่าต้องรออีกนานแค่ไหนกว่าจะได้กันอีก

ภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดี้ที่ถึงสงกรานต์เมื่อไรใจมันก็หวนคิดถึงฉาก “หล่อทะลุแป้ง” อยู่ตลอด ถึงแม้ว่าในเรื่องนี้จะไม่ได้เน้นเรื่องของครอบครัวมากเป็นอันดับหนึ่ง แต่การดำเนินเรื่องราวในชีวิตของเหมยลี่ก็ทำให้เราได้เห็นอะไรหลายๆ อย่างในครอบครัวเชื้อสายจีนของเธอ ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการพูดคุยกันของเหมยลี่และอาม่าที่จะต้องมีหม่าม้าคอยเป็นล่ามแปลภาษาให้ไม่ว่าจะเป็นการคุยทั่วๆ ไป การอยู่รอของครอบครัวที่ไม่ว่าจะกลับดึกแค่ไหน เข้าบ้านมาเหมยลี่ก็ยังจะเจอสมาชิกนั่งดูโทรทัศน์อยู่ด้วยกัน ไปจนถึงฉากที่อาม่าว่าหลานสาวของเธอแต่งตัวไม่เรียบร้อย หรือเรื่องของการนัดดูตัวที่เกิดขึ้นเพราะด้วยวัย 30 ปี ของเหมยลี่ทำให้คนในครอบครัวเป็นห่วงว่าหากยังไม่มีแฟน ต่อไปในอนาคตต้องใช้ชีวิตคนเดียวก็คงจะต้องลำบาก ยิ่งเป็นลูกสาวคนเดียวครอบครัวก็จะยิ่งเป็นห่วง สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ทำให้เราเห็นได้ว่าถึงเหมยลี่จะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ ครอบครัวค่อนข้างตามใจด้วยเพราะเป็นลูกสาวคนเดียวของบ้าน จะออกไปเมา หรือเปลี่ยนมาทำงานกลางคืนกลับมาบ้านตอนเช้าก็ไม่มีใครขัด แต่เพราะความเป็นลูกสาวคนเดียวนี่แหละ ในบางเรื่องถึงยังต้องอยู่ในกรอบที่ครอบครัวกำหนดเอาไว้ให้

 

เลือดมังกร (ตอน หงส์)

คอละครเจ้าพ่อเชิญทางนี้เลย กับเรื่อง เลือดมังกร – หงส์ เล่าถึงชีวิตของ หงส์ ลูกสาวคนเล็กของเถ้าแก่สุง หัวหน้าแก๊งหงส์ดำ และเจ้าของคณะงิ้วเฟิงหวง คณะงิ้วเก่าแก่ของเยาวราช ชีวิตของหงส์ต้องถูกพ่อเรียกว่าเป็นตัวซวย ตามคำทำนายของซินแสที่บอกว่า ในอนาคตหงส์จะเติบโตคนที่มีอำนาจ แต่จะทำให้เถ้าแก่สุงต้องสูญเสียคนสำคัญในชีวิตไป อีกทั้งหงส์ยังถูกสั่งห้ามไม่ให้เล่นงิ้ว มีเพียงพี่ชายคนโตเท่านั้นที่ได้เล่นงิ้วเป็นตัวละครเอก แต่ถึงอย่างนั้นหงส์ก็ยังซ้อมเล่นงิ้วไว้อยู่เสมอ เพื่อที่สักวันพ่อจะได้เห็นความตั้งใจของหงส์ที่สามารถรำงิ้วได้อย่างสวยงามไม่แพ้พี่ชาย

ตัวละครหงส์ที่นอกจากจะได้รับความกดดันจากครอบครัวแล้ว เมื่อเถ้าแก่สุงตายจากการลอบฆ่า แก๊งหงส์ดำจึงต้องมีหัวหน้าคนใหม่ ซึ่งคนที่จะต้องรับตำแหน่งนี้ไปก็คือหงส์ แต่เธอกลับโดนคัดค้านจากสมาชิกในแก๊ง เพียงเพราะเธอเป็นผู้หญิง และทุกคนต่างเชื่อว่าผู้หญิงไม่สามารถเป็นใหญ่ได้ หงส์จึงต้องฝ่าฟันอุปสรรคเพื่อพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนยอมรับ อุปสรรคของเธอก็ไม่ต่างจากหลิว (หงส์เหนือมังกร) เท่าไรนักในเรื่องของความสามารถที่มีเรื่องของเพศมาเกี่ยวข้อง สุดท้ายหงส์ก็ต้องพยายามเพื่อสร้างความมั่นใจให้สมาชิกเชื่อใจในตัวของเธอมากกว่าที่จะคัดค้านการเป็นหัวหน้าเพราะมีคำว่า ผู้หญิง บดบังตัวของเธอเอาไว้

 

เลือดข้นคนจาง

อีกหนึ่งครอบครัวที่มีเรื่องราวเข้มข้นชวนติดตาม นั่นคือครอบครัวจิระอนันต์ ในละครเรื่อง เลือดข้นคนจาง เล่าถึงสายสัมพันธ์ของวงศ์ตระกูลที่ถึงคราวต้องแตกหัก หลังจากที่อากงสุกิจได้เสียชีวิตลง และได้เขียนพินัยกรรมแบ่งมรดกให้ลูกหลาน ซึ่งสิ่งที่ทำให้พี่น้องเริ่มขุ่นข้องหมองใจให้กัน นั่นก็คือมรดกที่อากงสุกิจได้แบ่งหุ้นในบริษัทให้ลูกชายทั้งสามคนอย่างเท่าเทียมกัน แต่ลูกสาวเพียงคนเดียวอย่าง ภัสสร กลับได้เพียงเงินสดในบัญชีของอากงสุกิจจำนวน 200 ล้านบาท ฟังแล้วอาจเป็นจำนวนที่เยอะมากพอสมควร แต่ก็เทียบไม่ได้กับการทำงานของภัสสรที่เป็นผู้ดูแลกิจการโรงแรมมากว่า 20 ปี

ในละครได้เผยปมในใจของภัสสรตั้งแต่เธอยังเด็ก ที่น้อยใจว่าทำไมพ่อแม่ถึงรักเธอน้อยกว่าพี่ชาย แม้กระทั่งในพื้นที่เล็กๆอย่างโต๊ะอาหาร พ่อแม่ยังใส่ใจพี่ชายมากกว่าเธอ ตักก้ามปูชิ้นโตส่วนที่ดีที่สุดให้พี่ชาย ไปจนถึงปมในปัจจุบัน ที่แม้เธอจะแต่งงานและไม่ได้ใช้นามสกุลจิระอนันต์ แต่เธอก็ผลักดันตัวเองให้เก่งกว่าพี่ชาย เพื่อที่พ่อแม่จะได้มองเห็นเธอในสายตาบ้าง กว่าภัสสรจะพาตัวเองไปถึงในจุดที่อยู่ในสายตาของคนเป็นแม่ก็ต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้เห็นอะไรหลายๆ อย่าง แม้ว่าในระหว่างทางนั้นเธอจะยังถูกแม่ดูถูกและพูดไม่ดีด้วยอยู่บ้าง แต่ก็พยายามจนสุดท้ายแม่ถึงได้เห็นความสำคัญของเธอ ในตอนที่ครอบครัวจิระอนันต์นั่งทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน สิ่งที่ติดค้างภายในใจภัสสรได้หายไป เมื่อแม่ได้ตักกุ้งตัวโตให้กับภัสสร พร้อมกับเอ่ยปากขอโทษ ถือเป็นการกระทำและคำพูดที่มีความหมายต่อจิตใจของภัสสรเป็นอย่างมาก

 

ด้ายแดง

เรื่องราวของเหมยอิงหรือคุณนายใหญ่ของบ้านมหามงคลที่มีลูกทั้ง 3 คนคือ หลงเว่ย เหม่ยซิง และเหม่ยฟาง แต่ด้วยความที่เป็นครอบครัวของชาวจีนจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่คุณนายใหญ่จะรักลูกชายคนโตมากเป็นพิเศษ แต่ก็มากจนทำให้เกือบลืมไปเลยว่ายังมีลูกสาวอยู่อีกสองคน แม้ว่าหลงเว่ยจะไปใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศตั้งแต่ยังเล็ก คุณนายใหญ่ก็ยังคงให้ความรักและความคิดถึงลูกชายมากกว่าเหม่ยซิงและเหม่ยฟางที่อยู่บ้านเดียวกันอยู่ดี

ถึงแม้ว่าบทบาทของลูกสาวทั้งสองคนจากเรื่อง ด้ายแดง อย่าง เหม่ยซิงและเหม่ยฟาง จะไม่ได้โดดเด่นมากเท่าไหร่นัก แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมลูกสาว-ลูกชายของชาวจีนให้เราได้เห็นอย่างชัดเจน ว่าด้วยเรื่องความรักของคนเป็นแม่ที่รักลูกชายคนโตมากจนละเลยการเอาใจใส่ลูกสาวอีกสองคน และยิ่งลูกชายที่ถูกส่งไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ กลับมาอยู่ที่ไทยก็ยิ่งได้เห็นถึงความเอาใจใส่ในตัวลูกชายได้ชัดมากกว่าเดิม