ตีความหมายเพลงใหม่ของ Dept ได้ตามใจ เพราะทุกคนต่างมี ‘โลกทั้งใบ’ ในแบบของตัวเอง

มีใครสักคนที่เปรียบเหมือนโลกทั้งใบของคุณหรือเปล่า? แน่นอนว่าเราต่างมีใครสักคนในใจ ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นเพื่อน คนรู้ใจ ครอบครัว หรือในสถานะอื่นๆ ก็ตาม เหมือนกับที่วง Dept ถ่ายทอดออกมาให้เราได้ฟังผ่านเพลง “เพราะเธอนั้นเป็นเหมือนดั่งโลกทั้งใบ (My Vanilla)” เพลงรักที่จะพาให้ทุกคนได้สัมผัสและตีความหมายออกมาในแต่ละรูปแบบผ่านประสบการณ์ของคนแต่ละคน 

เราชวน Dept มาเล่าเบื้องหลังและความเป็นมาของสิ่งต่างๆ ในเพลงใหม่เพลงนี้ ที่จะทำให้เข้าใจคอนเซ็ปต์ของเพลงมากขึ้น ตั้งแต่แนวคิดของชื่อเพลงไปจนถึงแนวคิดของ MV อีกด้วย ยิ่งรู้ดีเทลจะยิ่งอินกับเพลงเลยแหละ 

ช่วงที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง

เบนซ์: ก็อยู่บ้านครับ อยู่บ้านอย่างเดียวเลย นั่งทำเพลงครับ ช่วงนี้ของผมบางทีก็มีงานเพลงคนอื่นบ้าง

เพลงที่เพิ่งปล่อยไปไม่นานนี้ ถามก่อนว่าทำไมถึงต้องใช้ชื่อว่า “เป็นดั่งโลกทั้งใบ”

เบนซ์: ตอนแรกก็ไม่มีชื่อเพลงครับ แล้วก็คิดไม่ออก จนที่มันจะต้องส่งชื่อเพลง ส่งชื่อเพลงเซ็ตแรกๆ ให้ค่ายก็เลยพยายามหาคำในเนื้อเพลงที่คิดว่าแข็งแรงแล้วก็บ่งบอกถึงความเป็นตัวเพลงเพลงนี้ได้ ก็เลยใช้ประโยคที่ว่า “เพราะเธอนั้นเป็นเหมือนดั่งโลกทั้งใบ” ครับ

แล้วตัวภาษาอังกฤษ ทำไมถึงเป็นคำว่า “My Vanilla” 

เบนซ์: ใช้ “My Vanilla” เพราะว่า เพลงนี้จริงๆ เนื้อหาเป็นเพลงรักด้วย แล้วก็ต้องการจะให้ชื่อมันเหมือนกับชื่อหนังสักเรื่องหนึ่ง แล้วก็เลยมองว่าเรามองคนที่รักของเราเป็นอย่างไร ผมก็เลยลองตีความไปเป็นของหวาน เราคิดว่าผู้หญิงประเภทไหนที่เราจะอยู่ด้วยแล้วเราสบายใจที่สุด ก็เลยคิดว่าช็อกโกแลตบางทีก็อาจจะขมไป ถ้าเป็นสตรอว์เบอร์รี่ก็เปรี้ยวไป รู้สึกว่าความกลางๆ ที่เราอยู่ด้วยแล้วสบายใจ ก็เลยมองเป็นวานิลลา

ถ้าสมมติว่าไม่ได้ใช้คำว่า “เพราะเธอเป็นดั่งโลกทั้งใบ” คิดว่ามีคำไหนอีกที่เราเอามาใช้แทนได้บ้าง

เบนซ์: จริงๆ เคยคุยกับพี่รุ่ง เจ้าของ Smallroom ตอนนั้นคิดชื่อเพลงไม่ออก พี่รุ่งให้มาว่า จำไม่ค่อยได้ อะไรนะ “เธอที่อยู่ตรงหน้า” อะไรสักอย่างนี่แหละ หรือ “ความสุขที่อยู่ตรงหน้า” แต่รู้สึกว่า… ตอนนั้นก็คือยังไม่มีชื่อนี้เลยนะ แล้วก็เหมือนรู้สึกว่ายังไม่ใช่ตัวเองเท่าไหร่ ยังไม่ค่อยวัยรุ่นเท่าไหร่ ก็เลยลองเอาที่พี่รุ่งให้มา มาตีความเพิ่มว่าจะเอาชื่อว่าอะไรดี เร็จแล้วชื่อนี้มันก็ปิ๊งขึ้นมา พอลองนั่งไล่เนื้อเพลงดูแล้วรู้สึกว่าชื่อนี้มันมีความเหมือนกับที่พี่รุ่งเขาบอกอยู่ เหมือนว่าเธอก็คือความสุขที่อยู่ตรงหน้า แต่ว่าแค่พูดว่าเพราะเธอนั้นเป็นเหมือนดั่งโลกทั้งใบ

แล้ว MV ดูมีความเป็นเหมือนนักบินอวกาศ เหมือนอยู่ในยานอวกาศ ล่องลอย ทำไมถึงทำออกมาเป็นภาพนี้

ลุค: ที่เป็นอวกาศคือจริงๆ ตอนแรกตัวแรกตัว MV มันไม่ใช่จะเป็นในยานอวกาศ พอดีเจอด้วยปัญหาโควิดด้วย ก็เลยต้องเปลี่ยนบรีฟครับผม

แล้วตอนแรกที่คิดเอาไว้ภาพออกมาเป็นแบบไหน

ลุค: …เป็นแบบนี้มา หรือว่าเป็นยานอวกาศเลยนะ

เบนซ์: คือตอนแรก บรีฟแรกที่คุยกันกับผู้กำกับ พี่พีท ใต้ฟ้า เขาฟังเพลงนี้แล้วรู้สึกเหมือนมีลมตีหน้า รู้สึกลอยอยู่ในอากาศ แต่ว่าบรีฟแรก MV พล็อตแรกที่พี่พีทนำเสนอมาก็คือทำไว้จนเสร็จแล้ว สุดท้ายมันไปถ่ายไม่ได้เพราะว่าโควิดมันเข้ามาพอดี แล้วมันก็ดองมาหลายเดือนมาก ก็เลยคุยกันใหม่ว่าลองเปลี่ยนพล็อตให้ใช้สถานที่ที่ถ่ายได้ ใช้คนไม่เยอะ แล้วก็ถ่ายได้ แล้วก็เลยได้เป็นอวกาศมาแทน เพราะว่าสถานที่มันสามารถควบคุมจำนวนคนได้ด้วย แล้วก็ถ่ายอยู่ในสถานที่ปิด อะไรอย่างนั้นครับ

ผมก็เลยลองตีความไปเป็นของหวาน เราคิดว่าผู้หญิงประเภทไหนที่เราจะอยู่ด้วยแล้วเราสบายใจที่สุด ก็เลยคิดว่าช็อกโกแลตบางทีก็อาจจะขมไป ถ้าเป็นสตรอว์เบอร์รี่ก็เปรี้ยวไป รู้สึกว่าความกลางๆ ที่เราอยู่ด้วยแล้วสบายใจ ก็เลยมองเป็นวานิลลา

เบนซ์ – ภวัต โอภาสสิริโชติ (Dept)

คอมเมนต์ใน MV เท่าที่เห็นมา มันดูมีหลายเรื่องราวที่เขามาเล่าผ่านเพลงของเราเยอะเลย พอได้อ่านแล้วรู้สึกอย่างไรกันบ้าง

เบนซ์: เหมือนกับว่าด้วยความที่ MV ไปคนละทางกับเพลงด้วยครับ เหมือนกับว่าเราปล่อยผู้กำกับอิสระ เอาแบบที่เขาชอบ แบบที่เขาทำแล้วเขาสนุก มันเหมือนกับว่า MV พอมันเป็นคนละทิศทาง ก็กลายเป็นว่ามีคนมาคอมเมนต์ว่าแบบแต่ละคนก็มีเรื่องของตัวเอง เหมือนกับมีภาพของตัวเอง ผมก็รู้สึกว่าผมชอบครับ ผมชอบให้คนตีความเพลงไปคนละแบบกันอยู่แล้ว

เหมือนเราได้อ่านเรื่องราวหลายๆ เรื่องด้วย ถามลุคอีกทีกับเรื่องราวที่มาคอมเมนต์ใน MV จากเพลง อ่านแล้วรู้ัสึกอย่างไรบ้าง

ลุค: ผมว่ามันเหมือนกับว่าคนแต่ละคนมันก็จะเจอเรื่องราวที่มันไม่เหมือนกันด้วยมั้งครับ บางคนฟังก็อาจจะรู้สึกเศร้า บางคนก็อาจจะรู้สึกเป็นเพลงรักเหมือนที่ผมรู้สึกอะไรแบบนี้ก็ได้ เพราะว่าแต่ละช่วงของคนมันก็อาจจะเจอเหตุการณ์ไม่เหมือนกัน เพลงมันก็เหมือนเป็นกระจกสะท้อนอีกทีนึงว่าเรารู้สึกอย่างไรกับมัน มันไม่ได้จำกัดความว่าเราต้องรู้สึกอย่างไรกับมัน ต้องรู้สึกว่ารักอย่างเดียว

มีเรื่องไหนใน Challenge ที่ให้คนฟังมาเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เรารู้สึกประทับใจบ้างไหม

ลุค: ผมดูแค่ไม่กี่อันเอง เหมือนมันบัคด้วย เข้าไปดูแล้วมันไม่ขึ้น มันขึ้นแต่ของผม ผมก็เลยยังไม่ได้ดูมาก

เบนซ์: ผมนั่งดูไปแล้วมันก็จะมีคนถ่ายกุ๊กกิ๊กๆ มานิดนึง ตามที่ฮิต แต่เห็นมีน้องคนนึงถ่ายมา ถ่า่ยกับแม่ ก็โลกทั้งใบของเขาตอนนี้เขาก็มีแม่เขา ก็รู้สึกว่าเออ มันก็น่ารักดีไปอีกแบบ

เหมือนเพลงของเราก็ได้ตีความไปในหลายๆ แง่ของคนอื่นด้วย

เบนซ์: ครับ ผมไม่อยากตีความให้มันเป็นเรื่องความรักอย่างเดียว จะมองเป็นครอบครัวก็ได้ครับ บางคนครอบครัวก็คือโลกทั้งใบของเขา

ในเมื่อทุกคนมีเรื่องราวของตัวเอง แล้วเบนซ์กับลุคมีอะไรที่เป็น “ดั่งโลกทั้งใบ” ของเราบ้างไหม

ลุค: ผมก็คงเป็น… ครอบครัวกับคนที่เรารักมั้ง

เบนซ์: ครับ เหมือนกันครับ

อยากให้ทุกคนที่ได้ฟังเพลงของเราเขารู้สึกกับเพลงของเราอย่างไรบ้าง

เบนซ์: อยากให้เขารู้สึกเหมือนที่เรารู้สึก คือความรู้สึกของเราที่เป็นคนแต่งเรายังคิดว่ามันไปได้หลายทางเลย ไม่อยากให้มันเป็นเหมือนหนังสูตรสำเร็จที่แบบมันมาถึงแล้วคุณก็ต้องเข้าใจแบบนี้ แล้วแต่คนจะตีความ แล้วด้วยความที่ชอบดูหนังที่มันจบแล้วคนไปเถียงกันต่อว่าสรุปแล้วมันยังไงกันนะครับ