ถอดสมการเจ้าหญิงดิสนีย์ ที่สะท้อนค่านิยมหญิงแต่ละยุคตลอดระยะเวลากว่า 8 ทศวรรษ

จักรวาลดิสนีย์ ไม่ว่าจะเป็นการ์ตูนหรือภาพยนตร์ต่างก็เป็นพื้นที่ความฝัน สร้างแรงบันดาลใจ กลายเป็นเพื่อน เป็นครู ไปจนถึงเป็นต้นแบบให้กับคนทั่วโลก และอาจพูดได้ว่าการ์ตูนดิสนีย์เป็นส่วนหนึ่งในการเติบโตของเด็กๆ และเป็นสถานที่พักใจให้กับผู้ใหญ่ได้

Snow White – Snow White and the Seven Dwarfs

ถ้านับเจ้าหญิงสโนวไวท์ใน Snow White and the Seven Dwarfs ที่ออกฉายในปี 1937 เป็นจุดเริ่มต้น มาจนถึงราชินีเอลซ่าใน Frozen 2 ที่ออกฉายเมื่อปีที่แล้ว ก็เป็นเวลาถึง 82 ปีแล้วที่ดิสนีย์ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กผู้หญิงผ่านตัวการ์ตูนเจ้าหญิง 

แน่นอนดิสนีย์ไม่ได้ใช้สูตรสำเร็จเดียวสร้างความนิยมอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลากว่า 8 ทศวรรษ แต่ส่วนผสมของหนังเจ้าหญิงดิสนีย์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอเพื่อสะท้อนภาพของผู้หญิงและสังคมในแต่ละยุคสมัยต่างหาก ซึ่งทำให้เจ้าหญิงดิสนีย์ครองใจและเป็นส่วนหนึ่งในการเติบโตของเด็กผู้หญิงทั่วโลกไม่ว่าจะในยุคสมัยไหน ลองมาดูกันว่าสมการเจ้าหญิงดิสนีย์ที่ได้ถอดออกมานั้นมีอะไรบ้าง

 

เจ้าหญิงใจดี + แม่เลี้ยงใจร้าย = จุมพิตเจ้าชาย

ส่วนผสมแรกของจักรวาลนี้คงต้องหยิบยกตัวละครสุดคลาสสิคอย่าง สโนว์ไวท์ ซินเดอเรลล่า และออโรร่า ที่ดิสนีย์ได้นำเทพนิยายมาดัดแปลงให้กลายเป็นเรื่องราวชวนฝัน โดยให้เจ้าหญิง 3 องค์แรกของดิสนีย์ ที่ต่างก็มีพื้นฐาน คือ เป็นคนที่มองโลกในแง่ดี มีความงามเลอโฉม และต้องเจอกับอุปสรรคอย่าง แม่เลี้ยงใจร้าย หรือแม่มดใจร้าย ที่มุ่งทำลายชีวิตของเธอ ซึ่งการที่จะเอาชนะความใจร้ายและพบกับความสุขในตอนท้ายได้ เจ้าหญิงต้องเป็นคนที่มีจิตใจดี และมองเห็นคุณค่าของคนรอบข้าง ถึงแม้ว่าจะโดนวางยาพิษ หรือโดนคำสาปจนทำให้พวกเธอหลับใหล แต่สุดท้ายแล้วความดีของเธอจะพาเจ้าชายรูปงามมามอบจุมพิตวิเศษให้เธอฟื้นกลับมาได้อีกครั้ง

Cinderella

Aurora – Sleeping Beauty

เจ้าหญิงดิสนีย์ในยุคแรกนั้นชวนให้เราฝันถึงความรักที่สมบูรณ์แบบ ความรักที่แม้จะมีอุปสรรคมาขวางกั้น แต่สุดท้ายแล้วก็จะพาให้เจ้าชายรูปงามมาเป็นคู่ครองและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข

 

สาวนักฝัน + ตัวร้าย = happy ending กับเจ้าชาย

หลังจากเปิดตัวเจ้าหญิงมาได้ 3 คนแล้ว ดิสนีย์ก็ได้เพิ่มส่วนผสมเข้าไปในการสร้างคาแรคเตอร์เจ้าหญิงที่สร้างกระแสให้คนดูอย่าง แอเรียล เงือกน้อยผมแดงที่ใฝ่ฝันอยากขึ้นไปเหยียบพื้นทรายและใช้ชีวิตบนโลกที่อยู่เหนือน้ำ และย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงคาแรคเตอร์อีกครั้งกับเบลล์ โฉมงามผู้รักการอ่าน มีจิตใจกล้าหาญบุกเข้าไปในปราสาทเพื่อขอให้อสูรจับเธอไปขังแทนพ่อของเธอ ภาพความฝันของแอเรียลและเบลล์จึงไม่ใช่เพียงการฝันถึงความรักที่สมบูรณ์แบบ แต่เป็นการฝันที่อยากจะมีชีวิตบนโลกมนุษย์ หรือฝันที่อยากจะมีชีวิตที่พิเศษกว่านี้ ความฝันที่ไม่ได้ฝันถึงแค่เรื่องความรักทำให้แอเรียลและเบลล์เป็นอีกตัวละครที่ครองใจใครหลายคนเช่นกัน

Ariel – The Little Mermaid

Belle – Beauty and the Beast

แต่ดิสนีย์ก็ยังคงมีตัวร้ายเพื่อมาเป็นอุปสรรคให้เหล่าเจ้าหญิงต้องก้าวผ่าน และฉากจบที่เจ้าหญิงครองรักกับเจ้าชายรูปงามเช่นเดิม แต่ถือได้ว่าดิสนีย์ได้มีการเปลี่ยนแปลงให้ตัวละครเจ้าหญิงนั้นมีมิติมากยิ่งขึ้น

 

เจ้าหญิงสายบู๊ + จุดเริ่มต้นของเจ้าหญิงนานาชาติ + ก้าวผ่านความท้าทาย = พระเอกที่ไม่เพอร์เฟกต์ 

ดิสนีย์ยังคงเดินหน้าสร้างตัวละครเจ้าหญิงเพิ่ม และเป็นที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้นเพราะเราเริ่มเห็นเจ้าหญิงที่มาจากหลากหลายเชื้อชาติอย่าง จัสมิน เจ้าหญิงจากอาหรับ ที่อยากออกไปเที่ยวเล่นนอกรั้ววัง โพคาฮอนทัส เจ้าหญิงแห่งชนเผ่าอินเดียนแดง ผู้ต่อสู้กับกลุ่มคนที่จะเข้ามายึดแผ่นดินที่เธออาศัยอยู่ มู่หลาน เจ้าหญิงจากจีน หญิงเลือดนักสู้ที่ต้องปลอมตัวเป็นนักรบในสงครามแทนพ่อของเธอ 

Jasmine – Aladdin

Pocahontas

Mulan

เรื่องราวของเจ้าหญิงแต่ละคนถือเป็นความท้าทายขนบสังคมให้เรารู้สึกตามไปด้วย ทั้งยังมีการฉีกคาแรคเตอร์เจ้าหญิงจากที่ต้องเรียบร้อยให้กลายเป็นเจ้าหญิงสายบู๊อย่าง ราพันเซล ผู้อยากออกไปมองโลกให้กว้างกว่าหอคอยที่เธออาศัยอยู่ รวมถึงเจ้าหญิงผิวสี อย่างเทียน่า ที่ต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำเพื่อเก็บเงินเปิดร้านอาหารให้กับตัวเอง เราจะเห็นว่าเจ้าหญิงดิสนีย์เหล่านี้กล้าที่ตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองมากขึ้น

Rapanzel -Tangled

Tiana – The Princess and the Frog

ที่สำคัญบรรดาคู่ครองของเจ้าหญิงที่ดิสนีย์ได้เริ่มปรับคาแรคเตอร์ให้แตกต่าง เช่น เจ้าชายนาวีน คู่ครองของเทียน่า ที่ถึงแม้จะเป็นเจ้าชายแต่เพราะความเจ้าสำราญจึงทำให้ถูกตัดออกจากกองมรดก หรือฟลินน์ พระเอกของราพันเซลก็ยังเป็นโจรหนุ่มที่โดนหมายหัวไว้ ความไม่เพอร์เฟกต์ของเจ้าชายนาวีนและฟลินน์ ทำให้เราได้มองความรักในแบบที่ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน อย่างที่ต้องเจอเจ้าชายรูปงามเท่านั้น

 

เจ้าหญิงเดินทางตามหาตัวตน = ความรักที่ไม่มีพระเอก

ส่วนผสมที่ดิสนีย์ได้เพิ่มลงไปอีกครั้ง ในตัวละคร เมอริด้า ที่เป็นจุดเปลี่ยนของเจ้าหญิงดิสนีย์เลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากรูปลักษณ์ภายนอกที่มีผมแดงหยิกฟู เธอยังมีนิสัยกล้าหาญ ไม่ได้อ่อนหวานอย่างเจ้าหญิงคนอื่น และมาคว้าใจผู้ชมกันต่อกับ เอลซ่า ที่มาเขย่าวงการการ์ตูนเจ้าหญิงด้วยเพลง Let it go เพลงที่เปลี่ยนให้ใครหลายๆ คนกล้าที่จะเป็นตัวเอง และสร้างความเท่าเทียมทางเพศด้วยการให้เอลซ่าขึ้นตำแหน่งเป็นราชินีแห่งอาณาจักรเอเรนเดล เพื่อบ่งบอกว่าผู้หญิงนั้นก็สามารถเป็นผู้นำได้ และตอกย้ำพลังของเจ้าหญิงอีกครั้งกับ โมอาน่า ที่เป็นตัวแทนของหญิงสาวรักการผจญภัย และกล้าที่จะออกไปเผชิญอันตรายน้อยใหญ่บนท้องทะเล

Merida – Brave

Elsa – Frozen

Moana

ที่สำคัญคือส่วนผสมหนึ่งที่ดิสนีย์ได้เพิ่มให้เจ้าหญิงทั้ง 3 ตัวละครนี้ คือการมีรักแท้ที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าชายกับเจ้าหญิง อย่างที่ดิสนีย์ได้นำเสนอผ่านภาพยนตร์การ์ตูนเจ้าหญิงมาตลอด แทนที่ความรักในมุมมองใหม่ นั่นคือ ความรักระหว่างแม่กับลูกสาว พี่สาวกับน้องสาว และลูกสาวกับครอบครัว

เป็นเรื่องที่น่าติดตามสำหรับภาพยนตร์การ์ตูนเจ้าหญิงดิสนีย์ที่จะมีขึ้นในอนาคต ว่าจะมีการเพิ่มส่วนผสมอะไรใหม่เข้าไปบ้าง และเป็นไปได้ไหมว่า ดิสนีย์จะทลายกรอบความรักตามขนบเดิม และมีเจ้าหญิงที่เป็นรักร่วมเพศองค์แรกของอาณาจักรดิสนีย์

 

Written by Pimchanok Bunchaeng