คุยเรื่อง LGBTQ+ ที่ไม่ใช่เรื่องผิดแค่เป็นความไม่เข้าใจที่อธิบายให้เข้าใจได้ กับ โซฟี่ stothesophie

ถึงแม้ว่าปีนี้ Pride Month จะไม่ค่อยคึกคักเหมือนปีที่ผ่านๆ มา แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีใครพูดถึง แบรนด์ต่างๆ ก็ยังคงมีสินค้าน่ารักเข้ากับช่วงเทศกาลออกมาให้ได้ช้อปปิ้งกัน ในขณะที่กระบอกเสียง LGBTQ หลายคนก็ยังคงส่งสารเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจอย่างต่อเนื่อง

หนึ่งในนั้นคือ advocates ล่าสุดโซฟี่-อัปสรสิริ อินทรคูสิน ก็ได้ออกมาอธิบายเรื่อง LGBT ผ่านแชนแนล Tik Tok ของตัวเอง (@stothesophie) เพื่อให้ฟอลโลเวอร์และคนอื่นๆ ที่ยังสงสัยได้เข้าใจกับคำว่า LGBT สำหรับ Pride Day ในปีนี้ NYLON ก็เลยชวน โซฟี่ มาคุยถึงมุมมองเรื่อง LGBT กันหน่อย

ทำไมถึงเลือกที่จะออกมาพูดเรื่องของ LGBT ผ่านทาง Tik Tok

ที่จริงตัวโซฟี่เองไม่ได้ปิดกั้นเรื่องนี้อยู่แล้ว ทางที่บ้าน ทางเพื่อนทุกๆ คนก็รู้มาตั้งแต่เรารู้ตัวด้วยซ้ำ เราไม่ได้อยู่ๆ ก็ come out ออกมาให้ทุกคนรู้ เรารู้ตัวว่าเราชอบมากกว่า 1 เพศ ก็เลยบอกกับที่บ้าน และโชคดีว่าที่บ้านค่อนข้างจะเปิดกว้างเรื่องนี้แล้วก็เป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับเรา แต่ว่าเหตุผลที่ออกมาเพราะเรารู้สึกว่า ตอนเราเด็กๆ เราก็เห็นคนที่เปิดกว้างเรื่องความรู้สึกทางเพศของตัวเอง พอเห็นเราก็รู้สึกว่า inspire เรา ว่าไม่ใช่เรื่องที่จะต้องกลัวที่จะพูดค่ะ และรู้สึกว่าถ้าเราสามารถเป็นคนแบบนั้นให้คนอื่นเห็น และได้รู้ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องผิกปกติ เราก็อยากจะเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นแบบนั้นบ้าง และอีกอย่างหนึ่งคือเรารู้สึกว่า เราอยากให้ความรู้กับคน เพราะรู้สึกว่าหลายๆ ทีเหตุผลที่คนแอนตี้หรือคนรู้สึกว่ามันผิด มันไม่ปกติเป็นเพราะว่าเขาไม่เข้าใจ หรือไม่มีความรู้ทางด้านนี้พอที่จะ อ๋อ เป็นเพราะอย่างนี้นี่เองนะ

เพราะว่าอยากเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นจึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ออกมาเปิดเผยแบบ public 

ใช่ค่ะ เพราะว่าอยากเป็นแรงบันดาลใจด้วย เพราะเรารู้สึกว่าจุดพลิกในชีวิตที่เราโอเคที่จะออกมาพูดเรื่องพวกนี้ก็เป็นเพราะว่าเราเห็นคนที่ทำแบบนี้มาก่อนเรา ที่ทำให้เรารู้สึกว่าไม่ใช่อะไรที่ผิด ที่ต้องปิดบัง ถ้าเรารู้สึกว่ายังอยู่ในที่ที่สบายใจแล้วเราอยากจะพูด เราควรจะพูดได้โดยไม่กลัว อีกอย่างหนึ่งคือโซฟี่รู้สึกว่ามันเป็นส่วนใหญ่ๆ ของ identity โซฟี่ที่รู้สึกว่า เราก็อยากให้คนรู้ เพราะมันเป็นหนึ่งอย่างที่ทำให้เราแฮปปี้หรือว่ารู้สึกพอใจกับตัวเอง เพราะว่าช่วงที่เรากำลังงงเรื่องตัวเองว่า สรุปอะไรยังไง มันทำให้เราอึดอัดมาก เพราะเราไม่แน่ใจว่าเราผิดปกติหรือเปล่า หรือเราไม่เหมือนที่ทุกคนต้องการหรือเปล่าอย่างนี้ค่ะ แต่พอเราเริ่มเข้าใจตัวเองมากขึ้น เราก็รู้สึกว่า มันทำให้เรา fulfill แล้วเราก็อยากจะให้คนเห็นว่า นี่คือส่วนหนึ่งของชีวิตเรา ที่ทำให้เรารู้สึกว่า เราแฮปปี้และเราเป็นตัวเองมากที่สุด

หลังจากที่ออกมาพูดแล้ว ปฏิกิริยาของคนรอบข้างที่ไม่ใช่เพื่อนสนิทหรือครอบครัวที่รู้จักกันอยู่แล้ว เป็นยังไงบ้าง มีผลกระทบอะไรต่อการใช้ชีวิตบ้างไหม

รอบตัวของโซฟี่ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ครอบครัว หรือคนที่ทำงานกับเราก็รู้กันเกือบหมดแล้วนะคะ หมายความว่าเมื่อก่อนตอนที่เล่นละคร ทางคนร่วมกองก็รู้กันพอสมควร แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่อยู่ดีๆ เราก็ออกมาพูด แต่ถ้ามีใครถามเราก็พูด มันไม่ใช่อะไรที่ใหญ่โตมากขนาดนั้น ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับคนที่เราไม่ได้รู้จักเลย อย่างเช่น อาจจะเป็นแฟนคลับ หรือว่าคนที่มาติดตาม คนที่มาฟอลโลว์เรา แต่ว่าการตอบรับก็ดีนะคะ คือหลายๆ คนที่เห็น Tik Tok ที่เรามาอธิบาย เช่นคลิปที่เราออกมาอธิบาย มีคนบอกว่าพี่ทำให้หนูเข้าใจตัวเองมากขึ้น หรือว่ามีคนหนึ่งที่เราอ่านแล้วรู้สึกประทับใจมากคือเขาบอกว่าเอาคลิปของเราไปให้พ่อแม่ดู แล้วทำให้พ่อแม่เข้าใจเขามากขึ้น เรารู้สึกว่าตรงนี้มันเป็นแรงผลักดันให้เราทำแบบนี้ต่อไป เพราะเรารู้สึกว่าถ้าเราสามารถทำให้ครอบครัวของคนๆ หนึ่งเข้าใจเขามากขึ้น เราว่ามันเป็นอะไรที่วิเศษมาก เพราะว่าหลายๆ ครั้งคนไม่กล้าที่จะออกมาพูดเรื่องเพศตัวเองเพราะว่ากลัวว่าคนที่เรารักที่สุดจะไม่พอใจกับสิ่งที่เราเป็น ซึ่งเราก็รู้จักคนที่อยู่ใน community แบบเราที่เป็น LGBT ที่เขายังไม่กล้าเปิดเผย เพราะเขากลัวว่าพ่อแม่หรือว่าเพื่อนสนิทจะไม่ยอมรับ ซึ่งตรงนี้เรารู้สึก มีความสุขมากที่เราทำคลิปแบบนี้ออกมาแล้วพอมีการตอบแบบนั้น เราอยากทำแบบนี้ต่อไป

อยากให้โซฟี่อธิบายความหมายของ LGBT แบบคร่าวๆ 

LGBT เป็นสังคมของคนที่ไม่ได้เป็น sexuality ที่อยู่ในสังคมที่เรารู้จักกันมาว่า มีผู้ชาย มีผู้หญิง ผู้ชายต้องคบกับผู้หญิง ผู้หญิงต้องคบกับผู้ชายเท่านั้น แต่ว่า LGBT มันคือสังคมที่ยอมรับในสิ่งที่เราเป็น ไม่ว่าเราจะรักใครก็ตาม เพศอะไรก็ตาม ซึ่งตรงนี้จริงๆ คำว่า LGBT มันเริ่มต้นในยุค 90 ตามที่รีเสิร์ชมา เมื่อก่อนจะเรียกแค่ LGB ซึ่งก็คือ Lesbian Gay Bisexual แต่พอเริ่มมีคนยอมรับเรื่อง Transgender มากขึ้น ก็เลยมีตัว T เข้ามา ตอนนี้ก็มี LGBTQA+ เป็นตัวย่อที่ยาวนิดหนึ่ง นี่ก็จะรวมไปถึง Asexual Queer และอื่นๆ เพราะว่ายังมีอีกหลายๆ แบบที่อยู่ภายใต้ร่มนี้ค่ะ 

(คลิป Tik Tok ที่โซฟี่อธิบายเรื่องของ LGBT)

คิดว่าคนทั่วไปยังขาดความเข้าใจอะไรเกี่ยวกับ LGBT บ้าง

เราว่าสิ่งแรกคือคนเข้าใจว่าสับสน ซึ่งถามว่ามันจะมีช่วงนั้นในชีวิตมั้ย เราว่ามันก็มีนะ ในชีวิตของหลายๆ คนที่อยู่ในสังคมนี้ที่สับสนว่า สรุปเราชอบแบบไหน แต่การที่จะเป็นหนึ่งส่วนของ LGBT ไม่ได้แปลว่าเราสับสน เพียงแค่ว่าเราอาจจะยังไม่แน่ใจ เราว่าหลายๆ คนเข้าใจว่ามันเป็นแค่ช่วงหนึ่งในชีวิตแล้วเดี๋ยวมันก็หายไป หลายครั้ง ผู้หญิงที่ชอบผู้หญิง จากตอนที่เราเคยคบผู้หญิงและจากเพื่อนๆ ของเราที่เคยคบผู้หญิงก็คือจะมีคนมาบอกว่า ยังไงก็ต้องกลับไปคบกับผู้ชาย ยังไงก็ต้องแต่งงานกับผู้ชาย ครอบครัวคุณต้องการให้คุณมีผู้ชายเป็นหัวหน้าครอบครัวหรืออะไรอย่างนี้ ซึ่งตอนนี้มันปี 2020 แล้ว ถ้าพูดง่ายๆ ผู้หญิงหลายคนไม่ได้ต้องการผู้ชายเพื่อสิ่งนี้ หลายๆ ครั้งสังคมมันเกิดมาเพราะว่าเมื่อก่อนผู้หญิงอยู่ในฐานะที่ต้องอยู่ที่บ้าน ดูแลงานบ้าน ทำกับข้าว และตัวผู้ชายจะออกไปทำงาน แต่เราอยู่ในยุคที่ผู้หญิงทำงานได้เหมือนกันแล้ว ผู้หญิงจะทำอะไรก็ทำได้ เพราะฉะนั้นไม่ได้ต้องการในมุมนั้นแล้ว ไม่ได้ต้องแต่งงานเพื่อที่จะมีผู้ชายมาดูแล และอีกอย่างก็คือ Bisexuality เป็น sexuality ที่ คนหนึ่งจะชอบมากกว่า 1 เพศ จะชอบผู้หญิงกับผู้ชาย หรือชอบ non-binary ก็ได้ ซึ่งหลายครั้งคนที่ได้ยินว่าผู้หญิงเป็น Bisexual จะเข้าใจว่าผู้หญิงคนนี้แค่ยังไม่เจอผู้ชายที่ถูกต้อง หรืออกหักมาจากผู้ชาย ถ้าผู้ชายเป็น Bisexual คนจะเข้าใจว่าผู้ชายคนนี้เป็นเกย์ที่กำลังแอบอยู่ บางทีมันไม่ใช่อะ เราแค่รู้สึกว่าคนยังเข้าใจสังคมว่าผู้ชายต้องเหนือกว่าผู้หญิง ซึ่งเราว่าเราอยู่ในยุคที่ไม่ใช่แบบนั้นกันแล้ว

ถ้าเจอสิ่งนี้กับตัวเองจะแก้ไขให้คนอื่นเข้าใจได้ยังไงบ้าง

เมื่อก่อนเราก็หงุดหงิดนะ รู้สึกโกรธว่าทำไมต้องคิดอย่างนี้ ถ้าเราชอบผู้หญิงก็อยากคบผู้หญิง เรารักผู้หญิงก็แค่นั้น พอเราโตขึ้นก็เข้าใจว่าหลายๆ คนแค่ขาดความเข้าใจตรงนี้ ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ เพราะว่าคนที่เราสนิทหรือคนในครอบครัวก็เคยเข้าใจผิดว่าทำไมถึงชอบ 2 เพศ เราแค่สับสน แต่พอเราอธิบายให้เขาเข้าใจมากขึ้นว่านี่คือความรู้สึกเรา นี่คือสิ่งที่เป็น มันเลยทำให้เขาเข้าใจ ที่จริงเขาไม่ได้แอนตี้นะ แต่เขาแค่ขาดความเข้าใจตรงนั้น พอเราเจอเรื่องแบบนี้กับตัว ไม่ว่าจะเจอในคนรอบตัวหรือว่าเจอในอินเทอร์เน็ต เราก็พยายามอธิบายให้เขาฟัง ท้ายที่สุดแล้วถ้าเขาไม่เข้าใจจริงๆ หรือเข้าไม่เปิดใจที่จะเข้าใจเราก็ทำอะไรไม่ได้ แต่ถามว่ามันทำให้เราบั่นทอนหรือเสียใจไหม ก็มีบ้างถ้ามาในเชิงที่ก้าวร้าว แต่สุดท้ายแล้วเราก็พยายามอธิบายให้ได้เท่าที่เราสามารถ

อยากจะบอกอะไรกับคนที่ยังมองว่า LGBT ไม่ใช่ความหลากหลายทางเพศแต่เป็นความผิดปกติที่แก้ไขได้

เราว่าความคิดแบบนั้นมันไม่ make sense แต่มันก็เป็นความคิดที่บังคับไม่ได้ ทำได้มากที่สุดคือการอธิบายให้ฟังว่ามันไม่ใช่อะไรที่ผิดปกติ เพราะถ้าดูในธรรมชาติอย่างสัตว์หลายๆ พันธุ์ก็มี homosexuality อยู่ มีเพนกวิ้นที่เป็นเลสเบี้ยน เพนกวิ้นที่เป็นเกย์ และอีกหลายๆ อย่างที่มันเกิดขึ้นจากธรรมาชาติ สิ่งเดียวที่ไม่ได้มีในธรรมชาติคือการเข้าใจผิดแบบนี้ มันเป็นไปตามธรรมชาติ เพราะฉะนั้นเรารู้สึกว่าถ้าในสัตว์ยังเกิดขึ้นได้ ทำไมมันถึงผิดปกติสำหรับเรา มันผิดปกติเพราะความเข้าใจผิดที่เรามีมาว่าการที่ผู้ชายอยู่กับผู้ชายมันผิด และเราว่าการที่ความเข้าใจผิดแบบนี้เกิดขึ้นเป็นเพราะเราอยู่กับสังคมแบบนี้ตลอด ต้องมีผู้หญิงและผู้ชายเพื่อที่จะมีลูก เพื่อที่จะมีรุ่นต่อๆ ไป เราก็เลยเอาตรงนี้มาทำให้เป็นหลักว่าต้องเป็นผู้หญิงกับผู้ชายเท่านั้นนะ เพราะต้องมีหัวหน้าครอบครัวที่แข็งแรง ต้องมีผู้หญิงที่ดูแลบ้าน ต้องมีลูก แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่ใช่ผู้หญิงผู้ชายทุกคนที่อยากมีลูก และอีกอย่างหนึ่งคือตอนนี้ผู้หญิงสามารถมีลูกกับผู้หญิงได้ หรือผู้ชายก็มีลูกกับผู้ชายได้ เพราะฉะนั้นมันไม่ได้เกี่ยวกับผู้หญิงกับผู้ชายต้องอยู่ด้วยกัน 

มันอธิบายยากนะ เราว่าหลายครั้งมันมาจากคนที่เอาความเชื่อไปปั่นในความที่ผิด ถ้าถามว่าความเชื่อเหล่านั้นผิดไหม ไม่นะ แต่หลายเอาคนสิ่งนี้ไปชี้นำว่ามันเป็นสิ่งที่ผิดปกติ แต่ก็เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยอยากพูดถึงมากเพราะว่าค่อนข้างที่จะเป็นเรื่องที่ sensitive 

อยากให้สังคม LGBT ในอนาคตเป็นอย่างไร

เราว่าเราไม่อยากให้คนมองว่า LGBT ปกติ คนที่เป็น Straight ปกติ เราว่าเราควรจะมองว่าใครจะเป็นอะไรก็เป็นไป คือทุกคนก็เป็นมนุษย์เพราะฉะนั้นคุณจะชอบเพศอะไรก็ตาม คุณจะชอบคนแบบไหนก็ตาม เราก็เป็นคนเหมือนกัน ถูกไหม เราว่าการชอบเพศอะไรต่างๆ มันเป็นความพึงพอใจของเรา ถ้าเราชอบผู้ชายเป็นเพราะว่าเราชอบผู้ชาย ถ้าเราชอบผู้หญิงเป็นเพราะว่าเราชอบผู้หญิง มันเป็นแค่หนึ่งส่วนของคนๆ นั้น ไม่ใช่ทุกๆ อย่างของคนนั้น เราไม่อยากให้สังคมมันแบ่งแยก ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในทุกๆ มุมของชีวิต เป็นเพราะว่าเราทำการแบ่งแยกขึ้นมา ซึ่งในอนาคตเราไม่อยากให้สังคมมันเป็นแบบนี้แล้ว เราอยากให้ทุกคนมองว่าใครจะเป็นอะไรก็เป็นไปเถอะ คุณไม่ต้องพูดด้วยซ้ำว่า คนนี้เป็นเกย์ คนนี้เป็นเลสเบี้ยน เขาอาจจะเป็นคนที่ชอบเต้น ชอบร้องเพลงก็ได้ แต่คุณไม่พูดเรื่องนั้น เพราะคุณพูดแต่เรื่องเพศ เขาอาาจะเป็นคนที่เก่งเรื่องเขียน เก่งเรื่องอะไร แต่คุณไม่พูด พูดแต่เรื่องเพศ เราไม่อยากให้ทุกอย่างเกี่ยวข้องกับเรื่องเพศแล้ว รู้สึกว่าไม่ควรจะเป็นอะไรที่เป็นหัวข้อการพูดคุยที่ใหญ่โตจนต้องระบุเพศของคนอื่น