แจกความสดใสและใช้เวลาให้สนุกกับ House of La Dolce Vita in Scooter
ใน Warehouse 26 มีโกดังขนาดไม่ใหญ่มากถูกปรับเปลี่ยนให้กลายเป็น Pop-Up Museum ที่มองเข้าไปแล้วจะเห็นสีสันที่ตัดกันอย่างสดใส นี่คือสถานที่ที่จะพาให้คุณไปสนุกสนานกับความเป็นมาของสกู๊ตเตอร์ที่มีชื่อว่า Vespa
คำเตือน ก่อนจะไป เตรียมกล้องไว้ด้วยนะ เพราะที่นี่ถ่ายรูปสวยทุกมุม!
ภายในโกดังใจกลาง WareHouse 26 นี้ ได้ถูกจัดสรรพื้นที่ได้อย่างพอดิบพอดี มีความพิเศษคือสีสันสดใสที่อยู่ในป๊อปอัพมิวเซียมนี้ คือสีจริงๆ ที่นำมาใช้กับ Vespa ถือว่าเป็นสกู๊ตเตอร์ที่มีเฉดสีให้เลือกเยอะมากเลยทีเดียว ในด้านล่างยังมีโซนคาเฟ่ที่คอยให้บริการ ใครชอบเสี่ยงดวงตามมุมต่างๆ มีตู้กาชาปองให้ได้หยอดเหรียญลุ้นรับของที่ระลึกอีกด้วย แต่ถ้าไม่ชอบลุ้น ก็มีโซนขายของที่ระลึกให้เลือกซื้อกัน บอกเลยว่าของแต่ละอย่างน่ารักสุดๆ ควรค่าแก่การซื้อติดมือกลับบ้านสักอย่างสองอย่างเลยล่ะ
เมื่อขึ้นไปชั้นบน จุดแรกที่จะพบคือโซน The Origin เล่าถึงจุดกำเนิดของชื่อ Vespa ภายในห้องจะออกแบบคล้ายกับรังตัวต่อขนาดยักษ์ มีโมเดลรถเวสป้าสีเหลืองกับสีดำติดปีกให้ดูคล้ายกับตัวต่อ มี quote จากเวสป้าติดอยู่ว่า It’s a bird, It’s a plane.. No, It’s a wasp. โดยมีที่มาจาก Enrico Piaggio ผู้สร้างรถเวสป้า ได้พูดขึ้นว่า “It looks like a Wasp” ในครั้งแรกที่เห็นตัวรถ เพราะรูปทรงและเสียงเครื่องยนต์ของเจ้ารถเวสป้ามีลักษณะคล้ายตัวต่อ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อยี่ห้อรถ เพราะในภาษาอิตาลีคำว่า Vespa หมายถึงตัวต่อนั่นเอง
โซนที่เรียกความสนุกและถูกใจเด็กๆ คือ โซน Dreamland ที่ได้จำลองภูเขา Montepulciano ขนาดย่อมให้เด็กๆ ได้ปีนเล่น และเมื่อมองลงไปด้านล่างจะเห็นโมเดลจำลองแคว้น Tuscany บ้านเกิดของเวสป้า ซึ่งบรรยากาศจริงจะเป็นแบบนี้เช่นเดียวกัน ทำให้ผู้มาเยี่ยมชมรู้สึกราวกับอยู่ใน Tuscany จริงๆ
ส่วนโซนที่ถูกใจสาวกเวสป้าแน่นอน ก็คือโซน Factory ที่ยกวิธีการประกอบเวสป้ามาให้ได้ดูกันใกล้ๆ จุดเด่นของเวสป้าที่เห็นได้ชัดคือรูปทรง เพราะในยุคแรกเริ่มของเวสป้า ผู้คนส่วนใหญ่ยังใช้จักรยานในการเดินทางและมีปัญหาน้ำมันโซ่รถจักรยานกระเด็นเลอะเสื้อผ้า เวสป้าได้เล็งเห็นปัญหานี้ แล้วออกแบบเฟรมรถคลุมเครื่องยนต์เพื่อให้ไม่เลอะน้ำมันอีกต่อไป พร้อมกับการนำเหล็กมาทำเป็นตัวถังรถ เพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับรถนั่นเอง ถือเป็นเรื่องราวน่ารักๆ ของเวสป้าที่ใส่ใจรายละเอียดให้กับผู้ใช้งานมาตลอดระยะเวลากว่า 73 ปี
ยังมีโซนอื่นๆ ที่น่าสนใจและห้องพิเศษให้ได้แวะเข้าไปถ่ายรูปสวยๆ เชื่อว่าใครที่รักเวสป้า ถ้าได้มาเดินเล่น ค่อยๆ ดูรายละเอียดที่อยู่ภายในงานจะต้องรักเวสป้ามากขึ้นอย่างแน่นอน ส่วนใครที่ไม่ได้เป็นสาวกเวสป้า ก็ต้องลองมาทำความรู้จักกับเจ้าสกู๊ตเตอร์หลากสีที่มีรูปร่างเหมือนตัวต่อแบรนด์นี้กันก่อน รับรองว่าจะต้องตกหลุมรักอย่างไม่รู้ตัว
ป๊อปอัพมิวเซียมสีสันน่ารักแห่งนี้จะแจกความสดใสไปจนถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 สามารถซื้อบัตรเข้าชมในราคา 190 บาทได้ที่เคาท์เตอร์ด้านหน้า หรือจะซื้อออนไลน์ได้ทาง Ticketmelon ก้ได้ และเช็ครายละเอียดต่างๆ ได้ที่ Facebook : House of La Dolce Vita in Scooter หรือเข้าไปดูรูปสวยๆ กันที่ Instagram : @HouseofLDVS ไปถ่ายรูปกันมาแล้วก็อย่าลืมอวดรูปบนโซเชียลพร้อมกับติดแฮชแท็ก #HouseofLDVS กันด้วยล่ะ!
HAVE A SCOOT DAY!
