คุยกับนักเขียน-นักวาด MAY I ขอรักเธอได้ไหม? การ์ตูนวายอันดับ 1 บน WEBTOON

เดือนแห่งสีสันแบบนี้ มีคอนเทนต์ของความหลากหลายทางเพศให้เราได้ติดตามกันมากมาย นอกจากหนังและซีรีส์ที่เราได้เห็นกันบ่อยๆ แล้ว การ์ตูนก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้เราได้เข้าใจความหลากหลายทางเพศผ่านการเล่าเรื่องด้วยภาพและเนื้อหาที่ชวนติดตามด้วยเหมือนกัน อย่างในตอนนี้ WEBTOON ก็มีหมวดหมู่เพื่อความสะดวกสบายในการเลือกอ่านตามหมวดด้วย สำหรับเรื่องราวของความหลากหลายนี้ก็มีหมวดวายที่รวบรวมเรื่องราวสนุกๆ เอาไว้ให้ได้อ่านแบบฟินๆ ด้วยเหมือนกัน และใครที่เป็นแฟนของ WEBTOON เนี่ย เชื่อเลยว่าต้องเคยเห็นเรื่อง MAY I ขอรักเธอได้ไหม? เป็นเรื่องที่ขึ้นอันดับ 1 บนหมวดหมู่วายกันแน่นอน

NYLON ก็เลยขอชวนคุณโจ้และคุณแอล นักเขียนและนักวาดภาพประกอบของเรื่อง MAY I ขอรักเธอได้ไหม? มาคุยกันถึง MAY I ในจุดเริ่มต้นและการทำงานจนกลายมาเป็นเรื่องราวของเมธีและไอดินที่ให้พวกเราได้สนุกและลุ้นกับความสัมพันธ์ของตัวละครไปด้วยกัน

 

  • แนะนำตัวให้นักอ่านได้รู้จักกันหน่อย

แอล: สวัสดีค่ะ ชื่อแอล นามปากกา SsM SlitheringMe ค่ะ

จิงโจ้: สวัสดีครับ ชื่อจิงโจ้ นฤชา ดิฐเบญจกุล Narusha Dithabenjakul ครับ เป็นผู้เขียนเรื่อง คุณแอลเป็นผู้เขียนภาพครับ

  • จุดเริ่มต้นของการสร้างการ์ตูนเรื่อง MAY I ขึ้นมา

แอล: ก่อนหน้านี้ได้มีโอกาสวาดเรื่อง Love on Track ให้กับ WEBTOON หลังจากจบโปรเจกต์ได้ไม่นาน ผู้ดูแลก็ติดต่อมาว่ามีนักเขียนกำลังอยากได้นักวาด จนได้มาคุยกับคุณโจ้และร่วมงานกับสร้างเรื่อง May I ขึ้นมาค่ะ

จิงโจ้: ก่อนหน้านี้วาด เรื่องสยองสองบรรทัดครึ่ง เนื่องจากประกวด Challenge League กับทาง LINE WEBTOON แล้วได้ที่สาม เลยได้มาอยู่หน้าหลักครับ เรื่องแรกจบไปเลยเสนอเรื่อง May I ขอรักเธอได้ไหม? แต่ลายเส้นของผมน่าจะไม่เหมาะกับเรื่อง ควรให้นักเขียนที่เชี่ยวชาญในการวาด และ การสื่ออารมณ์ทางภาพเก่งเป็นคนวาดมากกว่า ทางผู้ดูแลเลยแนะนำคุณแอล ซึ่งวาดเรื่อง Love on track   มาก่อน เลยได้ทำงานร่วมกันครับ 

  • ทำไมถึงเลือกที่จะถ่ายทอดเรื่องราวความสัมพันธ์ในรูปแบบของผู้ชายและผู้ชาย

จิงโจ้: หลังจากที่วาด เรื่องสยองสองบรรทัดครึ่ง ซึ่งใช้เวลา สามถึงสี่ปีได้กว่าจะจบ แล้วผมเอง ไม่เคยมาทำการ์ตูนเรื่องยาวมาก่อน ก็คิดอยู่นานครับว่า การ์ตูนเรื่องที่เราจะทำต่อไปนี้ เราจะต้องอยู่กับเรื่องนี้ไปอีกนานนะ และอยากลองทำเรื่องราวที่เกี่ยวกับความรักด้วย เราจะทำเรื่องแบบไหน คิดไว้หลายแบบครับ แต่ก็พิจารณาจากตัวเองก่อน ถ้าเป็นเรื่องความรู้สึกของเราจริงๆ ผสมลงไปด้วย น่าจะเข้าใจได้ดีอยู่ข้างในครับ เลยเขียนโครงเรื่องออกมาเป็นเรื่องราวความสัมพันธ์แบบผู้ชายและผู้ชาย ที่แรงบันดาลใจมาจากชีวิตจริงสมัยมัธยมปลายของผมเองครับ แฟนคนแรกเป็นแบบ เมธี (นายเอกของ May I ขอรักเธอได้ไหม?) ซึ่งผมเองก็ไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง จะว่าเป็นชีวิตลับๆ ที่ไม่เคยเปิดเผยให้ใครฟังก็ได้ คนที่รู้ว่าผมเคยมีแฟนเป็นผู้ชายก็จะมี ครอบครัว กับเพื่อนสมัยมัธยมครับ นอกนั้นก็จะไม่รู้เลย ก่อนจะเขียนเรื่องนี้ ก็ไปบอกเมธีก่อนแล้วครับว่าจะมีบางส่วนนะ ที่เอามาจากเรื่องจริงเลย หลายส่วนก็แต่งขึ้นนะ

  • ปกติคุณแอลวาดรูปแนวไหน แล้วพอเป็นเรื่องนี้ มีความเหมือนหรือแตกต่างจากที่เคยวาดมากน้อยแค่ไหน

แอล: ปกติวาดแนวอนิเมะ การ์ตูนทั่วๆ ไปอยู่แล้วค่ะ รวมถึงแนว Boys Love ด้วย จึงไม่ค่อยต่างจากเดิมที่วาดสักเท่าไร มีจะต่างก็แค่ต้องปรับลายเส้นให้เข้ากับการทำการ์ตูนสำหรับลงรายสัปดาห์ค่ะ

  • แล้วสำหรับคุณจิงโจ้ ต่างจากงานก่อนๆ ไปมากแค่ไหน

จิงโจ้: ส่วนผมค่อนข้างแตกต่างอยู่มากครับ เพราะเรื่องสยองสองบรรทัดครึ่งเป็นตอนสั้นๆ ที่ต้องคิดเรื่องราวค่อนข้างหลากหลาย และจบในตอนสองตอน อย่างมากก็สี่ตอน แต่ May I ขอรักเธอได้ไหม? เป็นเรื่องยาว เนื้อหาคนละแบบ

  • พอทำงานสองส่วนแยกกัน (เนื้อเรื่องและภาพประกอบ) ประสานงานในการทำงานกันยังไงให้ออกมาเป็นภาพเดียวกัน

แอล: ปกติคุณโจ้จะวาดบอร์ดร่างไว้ให้ค่ะแล้วส่งไฟล์ให้ หลังจากนั้นเราจะร่างภาพทับอีกทีแล้วค่อยส่งให้คุณโจ้และผู้ดูแลตรวจสอบอีกรอบ เสร็จจากขั้นตอนนี้ถึงจะเริ่มตัดเส้นและลงสีจนภาพเสร็จ เรียกง่ายๆ คือทยอยให้ตรวจค่ะ จะได้ไม่มีอะไรคลาดเคลื่อนกัน 

จิงโจ้: บอร์ดที่ผมวาดจะเป็นบอร์ดคร่าวๆ ครับ จะเขียนอธิบายไว้ครับ ว่าตรงไหนเป็นอย่างไร บางอย่างก็ใช้ตัวอย่างบ้างครับ แล้วก็จะใส่ฉาก 3D ไปด้วยเท่าที่ทำได้ แล้วคุณแอลจะเก็บรายละเอียดความรู้สึกตัวละครชัดเจนออกมา 

  • แล้วมีอุปสรรคอะไรในการทำงานร่วมกันไหม เช่น ภาพที่คิดเอาไว้ออกมาไม่ตรงกัน แล้วแก้ปัญหานี้อย่างไร

แอล: ก็มีบ้างค่ะที่อย่างเช่นเรารู้สึกว่า ช็อตนี้สีหน้าตัวละครเป็นแบบนี้ดีกว่า หรือน่าจะพูดแบบนี้มากกว่า แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นอุปสรรคมากเท่าไหร่เพราะส่วนใหญ่เขียนกำกับเอาไว้ให้คุณโจ้อ่านตอนเช็ค หรือไม่ก็ทักไปคุยตรงๆ เลยค่ะ

จิงโจ้: ก็มีบ้างครับ เป็นส่วนรายละเอียด หรือผมลืมอะไรบางอย่างตอนทำบอร์ด ไม่ก็เนื้อเรื่องจังหวะ คำพูดตัวละคร แต่คุณแอลน่ารักมาก มีอะไรก็คุยกันตลอดครับ

  • ความท้าทายในการถ่ายทอดภาพวาดของเรื่องนี้คืออะไร

แอล: ต้องวาดเยอะค่ะ (หัวเราะ) เนื่องจากมีเวลาแค่อาทิตย์เดียวต่อตอนแต่จำนวนช่องก็เยอะอยู่เหมือนกัน บางตอนก็มีตัวละครเยอะด้วย ต้องหาทางประหยัดเวลาให้ได้เยอะที่สุดแต่คงคุณภาพของภาพเอาไว้ในระดับเดิมค่ะ

  • ศึกษาข้อมูลที่เอามาใส่ในงานจากไหนกันบ้าง ทั้งในเรื่องของเนื้อเรื่องและภาพประกอบ

แอล: ในด้านภาพถ้าอันไหนไม่รู้ก็หาข้อมูลผ่าน Google ไม่ก็ถามคุณโจ้เอาค่ะ (หัวเราะ) 

จิงโจ้: เนื้อเรื่องก็ รวมๆ กันครับ จากตัวเองบ้าง ถามและปรึกษาจากคุณแอลบ้าง จากภายนอกบ้างครับ 

  • ด้วยความที่เนื้อเรื่องมีความเป็น coming of age อยากรู้ว่าวางแพลนเอาไว้ให้ตัวละครจะเติบโตจนถึงตอนไหน แล้วต่อจากเรื่องนี้มีแพลนเรื่องอื่นอีกไหม

จิงโจ้: เนื้อเรื่องวางไว้ว่าจะไปถึงช่วงเรียนจบแล้วทำงานครับ ต่อจากเรื่องนี้มีคิดไว้บ้างแต่แค่คร่าวๆ ครับ ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะไปทางไหน 

  • อะไรคือแรงบันดาลใจในการเลือกใช้ดนตรีเป็นตัวดำเนินเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละคร แล้วทำไมถึงเลือกทำเพลงออกมาให้ฟังกันจริงๆ

จิงโจ้: รู้สึกว่าถ้ามีเพลงน่าจะช่วยทำให้ผู้อ่านรู้สึกดีเพิ่มขึ้นครับ เพราะเพลงในเรื่อง May I ขอรักเธอได้ไหม ก็เป็นเพลงที่ตัวละครแต่งขึ้น ผู้อ่านน่าจะรู้สึกเหมือนกับอยู่ในเรื่องจริงๆ หรือรู้สึกว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงๆ เพราะตอนที่อ่าน LINE WEBTOON เรื่องนี้อยู่ เพลงก็จะดังขึ้นตามเนื้อเรื่องด้วยครับ  

พอดีผมเองในชีวิตจริงพอจะแต่งเพลงได้บ้างน่ะครับ แล้วก็ทำวงดนตรีที่เล่นเพลงตัวเองมาตั้งแต่มัธยม เคยทำงานเป็นกราฟิกดีไซน์เนอร์ในค่ายเพลงก็เลยให้ไอดินเป็นแบบนั้นด้วย (หัวเราะ) คือเป็นคนแต่งเพลงและมีวงดนตรี เป็นคนที่มีพื้นฐานว่าต้องรู้สึกถึงจะแต่งเพลงนั้นขึ้นมาได้ แล้วค่อยๆ เรียนรู้ที่จะทำตามโจทย์ขึ้นมาทีหลังจากการทำงาน 

ผมเลยนำเพลงที่เคยแต่งไว้และแต่งใหม่ขึ้นมาใส่ลงไปในเรื่อง อย่างเพลง แอบจิต เป็นเพลงที่ไอดินแต่งให้กับเมธีในวันเกิด  ซึ่งในชีวิตจริงแอบจิตก็เป็นเพลงที่ผมแต่งให้กับแฟนจริงๆ ครับ  เสียงในเพลงแอบจิตที่ฟังกันก็เป็นเสียงที่อัดไว้สมัยก่อนจริงๆ  

อย่าง ขอรักเธอได้ไหม ก็เป็นความรู้สึกในชีวิตจริง แต่งไว้ก่อนจะทำเรื่องนี้เช่นเดียวกัน แต่เป็นเพลงที่ชอบมากเป็นพิเศษครับเลยให้เป็นเพลงหลัก เพลงนี้ต้องขอบคุณพี่ปอย Portrait (ตวัน ชวลิตธำรง) ซึ่งเป็นคนแต่งเพลง เจ็บจนไม่เข้าใจ และ โลกที่ไม่มีเธอ ที่มาช่วยแนะนำเรื่องคำร้องด้วยครับ และขอบคุณ บอม-ดนุภพ กมล Sound Engineer คู่ใจของพี่ๆ อัสนี-วสันต์ ที่ให้เกียรติมา Mix และ Mastering เพลงขอรักเธอได้ไหมด้วยครับ  

  • ในเรื่องของเพลงที่มีปล่อยออกมาให้ฟังบน youtube เล่าให้ฟังถึงที่มา และการสร้างเพลง

จิงโจ้: ใน Youtube (ในเรื่องเรียกว่ายูทูบี) จะมีเพลงซึ่งแต่งไว้มาก่อนนานแล้ว เช่น “แอบจิต” กับ “ขอรักเธอได้ไหม” ที่เป็นเหมือนตัวแทนความทรงจำสมัยเก่าๆ ของผมน่ะครับ แต่เพลงที่แต่งใหม่ตอนทำเรื่องนี้ก็มี เช่น “ตลอดไป” หรือ “เป็นแฟนกันไหม” แต่ละเพลงก็จะมีความรู้สึกเหมือนเป็นเพลงสมัยเก่าอยู่ น่าจะเป็นที่ตัวผมเองเป็นวัยรุ่นยุค 90s ครับ (หัวเราะ) 

ตอนทำดนตรีก็จะใช้ software ทำเองที่บ้านครับ อย่างกลองไม่ได้ตีเองใช้เขียนเอา ยกเว้นเพลง “แอบจิต” เมื่อก่อนนั้นผมตีเองครับใครฟังออกจะรู้ว่ามันจะดิบๆ ไม่ได้ edit ให้ตรงสักเท่าไหร่  ส่วน เสียงกีตาร์ก็เล่นเองครับ คีย์บอร์ดก็เล่นเองบ้างเขียนบ้าง หรือใช้ loop บ้าง ร้องก็อัดที่บ้านเลยครับในห้องนอน บางเพลงก็ส่งมิกซ์ดีๆ บางเพลงรีบ ก็มิกซ์เองครับ เช่น “ตลอดไป”, “เป็นแฟนกันไหม”, “ไม่เหลือใครแต่เดินต่อไป”

  • คิดว่าการ์ตูนของตัวเองสะท้อนอะไรในสังคมไทยบ้าง 

จิงโจ้: การ์ตูนที่แต่ละคนสร้างขึ้นมาก็มีจุดมุ่งหมายต่างกันไปครับ  บางคนก็ต้องการสะท้อนสังคมจริงจัง สำหรับ May I ก็มีหลายส่วนในเนื้อเรื่องที่น่าจะเคยเกิดขึ้นจริงในชีวิตและสังคมในไทยหรือในโลก อย่างเรื่องความหลากหลายทางเพศที่ครอบครัวไม่ยอมรับ หรือ ยอมรับได้เมื่อปรับความเข้าใจกัน, ความไม่เข้าใจกันในโรงเรียน สถานศึกษา ที่ทำงาน แม้จะสะท้อนสังคมอยู่เยอะ แต่ส่วนตัวรู้สึกว่า May I ขอรักเธอได้ไหม ก็มีมุมมองความรู้สึกและบริบทบางอย่างเฉพาะตัวด้วย 

เช่น เรื่องที่ไอดินชอบเมธี แล้วสงสัยตัวเอง มีการทดสอบตัวเอง มีการอ่านหนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม แล้วไปนำเสนอพรีเซนต์หน้าห้องเรียน ก็เป็นสิ่งที่ผมเองทำแบบนั้นในชีวิตจริงเมื่อก่อนครับ ซึ่งสมัยนั้นอาจจะดูแปลกในสายตาคนอื่น ที่เด็กคนหนึ่งสงสัยชีวิตตัวเอง แล้วไปนั่งหอสมุดแห่งชาติ หาเรื่องราวทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับ ความหลากหลายทางเพศ แล้วรู้ว่ามันคือธรรมชาติ ในสัตว์ก็มีนะ ไม่ใช่อาการทางจิตนะ แล้วไม่ได้เพิ่งมี แต่มีมาตลอด  อย่างนี้เป็นต้นครับ คือ ใน May I ขอรักเธอได้ไหม? ก็มีหลายๆ มุม ที่มีตื้น มีลึก แฝงอยู่ในการดำเนินเรื่องซึ่งเชื่อว่าก็มีหลายมุมที่น่าสนใจครับ

  • การบูลลี่เรื่องรสนิยมทางเพศจากสังคมทั้งในโรงเรียนและนอกโรงเรียน

แอล: ในสังคมไทยแม้เผินๆ จะดูเปิดกว้างกับความหลากหลายทางเพศแต่ที่จริงแล้วกลับมีการบูลลี่เรื่องนี้เยอะมากๆ ในสังคมไทยจนดูกลายเป็นเรื่องปกติทั้งที่ไม่ควร ในยุคสมัยนี้เริ่มจะเปิดกว้างขึ้น อยากให้สังคมไทยเปิดรับและเคารพตัวตนของผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศทุกคนค่ะ

จิงโจ้: เรื่องนี้น่าจะค่อนข้างชัดเจนใน May I ครับ เรียกว่าบูลลี่มีอยู่รอบด้านรอบตัว ซึ่งจริงๆแล้วก็ยังมีอยู่ในสังคมไทย(และทั่วโลก) นอกจากบูลลี่แล้วยังมีความสองมาตรฐาน แบบนี้ก็มีในเรื่องด้วย ก็อย่างที่คุณแอลบอกจริงๆ ครับ อยากให้ทุกคนได้ทราบความจริง ว่าจริงๆ แล้วเป็นเรื่องธรรมชาติ และเคารพกันและกัน เราแค่มีอะไรบางอย่างต่างกันนิดหน่อยเท่านั้นเอง แต่ในธรรมชาติความจริงแล้วเราเหมือนกัน อยากให้โรงเรียนได้สอนเรื่องนี้ อยากให้ทุกครอบครัวได้เข้าใจความหลากหลายครับ  

  • ครอบครัวที่ไม่เปิดรับ (ความแตกต่างกันของครอบครัวเมธีและไอดิน)

จิงโจ้: แม้คุณพ่อของไอดินจะไม่เข้าใจไอดินในช่วงต้น แต่ช่วงหลังก็ได้ทราบว่าเพราะอะไร และ จริงๆแล้วก็ยังห่วงอยู่เสมอ ซึ่งส่วนตัวรู้สึกว่าในความเป็นจริงหลายๆครอบครัวก็มีกำแพงที่จะต้องเจอแตกต่างกันไป ไอดินค่อนข้างโชคดีมากแล้ว แม้คุณพ่อจะเข้าใจ เคลียร์ใจตัวเองได้หมดแล้วจริงๆ ก็ตอนที่ได้เรียนรู้หลังจากที่ทะเลาะกันแตกหักไปแล้ว คุณพ่อป่วยและพบกับความจริงบางอย่างของชีวิต แต่ก็นับว่าไม่สายเกินไป น่าจะดีถ้าเราไม่ต้องรอวันที่ต้องเจอแบบคุณพ่อของไอดินแต่ได้เรียนรู้ได้เข้าใจกันเลยตั้งแต่วันนี้

  • คิดว่าเรื่องราวใน MAY I จะช่วยสร้างความเข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศให้กับคนอ่านได้มากน้อยแค่ไหน

แอล: คิดว่าน่าจะช่วยได้ระดับหนึ่งนะคะ เรื่องความหลากหลายทางเพศเป็นหัวข้อที่ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่ากว้างมากๆ และเป็นอะไรที่ต้องใช้ความเข้าใจ ความหลากหลายทางเพศไม่ได้มีแค่ชายรักหญิง ชายรักชาย หรือหญิงรักหญิง แต่ลงลึกไปถึงตัวตนของคนๆ หนึ่ง อย่างน้อยๆ ก็คิดว่าการ์ตูนเรื่องนี้จะช่วยปูพื้นฐานและความเข้าใจเบื้องต้นให้ผู้อ่านได้ค่ะ

จิงโจ้: น่าจะช่วยได้ระดับหนึ่งครับ ความรู้สึกคนเราต่างกัน ความเข้าใจจะน่าจะทำให้ความรู้สึกเปลี่ยนไปได้ บางทีการเปิดใจเล็กๆน้อยๆ ก็ทำให้เริ่มที่จะเข้าใจ หรือ พยายามทำความเข้าใจ และนำไปสู่ความยอมรับได้ และความปรารถนาดีต่อกันได้ในที่สุดครับ 

  • feedback เป็นอย่างไรบ้าง เป็นไปตามที่คาดหวังไหม เห็นว่ามี fan art ตัวละครจากแฟนๆ ออกมาด้วย

จิงโจ้: feedback มีหลากหลายครับ ต้องขอบคุณทุกคนที่ชอบและติดตาม May I ขอรักเธอได้ไหม? มาตลอดด้วยครับ ต่อจากข้อที่แล้วก็เคยเห็นคอมเมนต์เกี่ยวกับว่า ผู้อ่านหลายท่านไม่เคยชอบเรื่องเกี่ยวกับผู้ชายและผู้ชายมาก่อน แต่มาอ่าน May I ขอรักเธอได้ไหม แล้วทำให้รู้สึกเปิดใจ ผู้เขียนอ่านคอมเมนต์แล้วก็รู้สึกดีครับ  ส่วนคนที่อ่านอยู่ตลอดอยู่แล้ว มาคอมเมนต์อยู่เรื่อยๆ ที่อ่านแล้วรู้สึกดี ก็ดีใจ และเป็นกำลังใจที่ดีจริงๆ ครับ ขอบคุณมากๆนะครับ

  • โดยส่วนตัวแล้วชอบตอนไหนของ MAY I มากที่สุด 

แอล: ชอบตอนวีไปตั้งใจแอบซ้อมกลองค่ะ เผินๆ ดูเป็นคนขี้โวยวายไม่ทำตามใครง่ายๆ แต่จริงๆ แล้วก็เป็นคนที่ตั้งใจทำอะไรมากๆ ได้เหมือนกัน รู้สึกว่าน่ารักดี

จิงโจ้: ชอบหลายช่วงครับ ส่วนใหญ่จะชอบช่วงที่ตัวละครแสดงมิตรภาพ และความเข้าใจ เปิดใจ สถานการณ์ที่คลี่คลายครับ อย่างช่วงที่ พ่อของไอดินเปิดใจแล้ว เริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองเข้าหาลูกมากขึ้น, ส่วนช่วงโรแมนติก ส่วนตัวแอบชอบตอนไปเข้าค่ายนักศึกษาวิชาทหารครับ เพราะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง

  • อยากฝากอะไรถึงคนที่ยังไม่เคยอ่านหรือกำลังอ่านอยู่บ้าง

แอล: สำหรับคนที่กำลังอ่านอยู่ ขอบคุณมากนะคะที่อ่านเรื่องนี้ หวังว่าจะได้รับความสนุกสนานไม่มากก็น้อย ส่วนใครที่ยังไม่เคยอ่าน ถ้าว่างๆ ก็ลองดูได้นะคะ

จิงโจ้: ขอบคุณทุกๆ คนมากครับที่อ่าน May I ขอรักเธอได้ไหม? มาตลอด คนที่ยังไม่เคยอ่านลองดูได้ครับ ที่ LINE WEBTOON อัปเดตทุกวันศุกร์ และติดตามฟังเพลงได้ที่ ยูทูบี (Youtube) MAY I หรือ ทางแอปพลิเคชั่นสตรีมมิ่งเพลงทั้ง Joox, Spotify, Tidal, Apple Music ก็มีครับ ขอบคุณมากๆ ครับ