หนีโลกความจริงไปในนิยาย กับโลกแห่งแฟนตาซีที่มี Verse น่าสนใจมากมายให้ได้รู้จักกัน
วันหยุดแบบนี้ไม่รู้จะทำอะไรก็ไปพักใจจากเรื่องราววุ่นวายในชีวิตด้วยการหานิยายสนุกๆ อ่านกัน เหล่านักอ่านหลายคนอาจจะอ่านนิยายสนุกๆ หมดคลังของตัวเองกันไปแล้วก็ได้ ถ้าใครกำลังมองหานิยายเรื่องใหม่ๆ ที่น่าสนใจ เราก็มีอะไรมาแนะนำให้เหมือนกัน
เราไม่ได้จะมาแนะนำนิยายให้หรอกนะ แต่จะมาแนะนำให้ไปหาอ่านเรื่องที่มีคอนเซปต์ของโลกแฟนตาซีมาเสริมสร้างให้เราจินตนาการไปกับการดำเนินเรื่องราวของนิยายกัน แน่นอนว่าถ้าหากพูดถึง Universe หรือ verse ในนิยายแล้ว หลายๆ คนอาจจะคุ้นเคยกับ Omegaverse ที่เป็นคอนเซแต์สุดฮิตในนิยายกันมากที่สุด แต่ความจริงแล้วยังมีอีกมากมายหลาย verse ที่อาจจะยังไม่เคยเห็นหรืออาจจะยังมีนิยายให้อ่านกันไม่มากเท่าไรนัก วันนี้เราจะชวนมารู้จัก verse ที่น่าสนใจกัน
แต่ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า สิ่งนี้ไม่ได้เป็นข้อจำกัดหรือเป็นการตีกรอบให้กับตัวนิยายแต่อย่างใด เพียงแค่เป็นคอนเซปต์ของเนื้อเรื่องเท่านั้น โดยโลกจินตนาการนี้อาจจะเป็นความแฟนตาซีจ๋าอย่าง Omegaverse ที่เพศชายสามารถท้องได้ หรือเพศหญิงก็สามารถทำให้อีกฝ่ายท้องได้เหมือนกัน หรือว่าจะดำเนินเรื่องบนโลกแห่งความจริงก็ได้เพียงแต่จะมีกลุ่มคนพิเศษตามคอนเซปต์ของแต่ละ verse ขึ้นมา
ซึ่ง verse ต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้มักจะเป็น Openverse หมายถึง Universe ที่ผู้สร้างสรรค์เปิดกว้างให้นำไปใช้เติมแต่งจินตนาการกันได้แบบไม่ผิดลิขสิทธิ์ใดใด ส่วน Closedverse ก็เป็นจินตนาการที่มีเจ้าของลิขสิทธิ์ ดังนั้นจึงไม่สามารถนำเอาคอนเซปต์ของเจ้า Closedverse นี้ไปใช้ต่อในเชิงพาณิชย์ได้ อย่างเช่น Hanahaki Verse ที่มาจากเรื่อง The Girl Who Spit Flowers โดยคอนเซปต์ของ Verse นี้คือตัวละครจะมีดอกไม้เติบโตในอกและอาเจียนออกมาเป็นดอกไม้ เพราะเกิดจากความรักที่ไม่สมหวัง
เหมือนกับใน MV เพลง Good Bye Bye ของ NU’EST ที่เล่าถึงเรื่องราวความรักที่ไม่สมหวัง และมีซีนที่เมมเบอร์น้องเล็กอย่าง Ren อาเจียนออกมาเป็นดอกไม้ แฟนๆ ก็คาดว่าจะได้แรงบันดาลใจจาก Hanahaki นี้ด้วยเช่นกัน
อย่างที่บอกไปว่า Closedverse นั้นเป็นโลกแฟนตาซีที่ไปปรับใช้ได้แต่ไม่สามารถนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ แล้วมี verse ไหนที่เป็น Openverse และสามารถหยิบยืมไปเสริมเติมจินตนาการได้อย่างเต็มที่บ้างล่ะ? แต่เพราะว่า Openverse ที่มีอยู่นั้นมากมายจนไม่สามารถพูดถึงได้ทั้งหมดที่มี วันนี้เราก็เลยจะขอยกตัวอย่างจากคอนเซปต์ที่เคยอ่านเจอในนิยายและรู้สึกว่าเป็นคอนเซปต์ที่เข้าใจง่ายและน่าสนใจมาแบ่งปันกัน
คอนเซปต์ที่บนโลกนี้จะแบ่งมนุษย์ได้เป็น 3 ประเภท คือ Coffee กลุ่มคนที่มีกลิ่นเฉพาะตัว จะมีเพียงแค่คนที่เป็น Cup เท่านั้นที่จะได้กลิ่นนั้น ซึ่งแต่ละคนจะมีคาเฟอีนที่เป็นสารที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตของ Cup โดย Cup นั้นจะเป็นกลุ่มคนที่มีประสาทรับกลิ่นที่ดีเยี่ยม และจำเป็นต้องมีปฏิสัมพันธ์กับ Coffee เพื่อรับสารคาเฟอีนที่เป็นสารจำเป็นกับชีวิตของตัวเอง และ Decaf ที่เป็นกลุ่มคนธรรมดา ไม่ได้มีความพิเศษอย่างกลิ่นเฉพาะหรือประสาทรับกลิ่น แต่สามารถรักได้กับทั้ง Coffee และ Cup ได้ตามปกติ ซึ่งทั้งหมดนี้อาจเป็นได้ทั้งเพศชายและหญิงปะปนกันไป
Dreamverse
เคยฝันถึงใครก็ไม่รู้ไหม? บางทีอาจจะเป็น Soulmate อย่างในคอนเซปต์ของ Dreamverse ก็ได้นะ โดยคอนเซปต์ของโลกนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความฝัน ที่ตัวละครจะสามารถมองเห็น Soulmate ของเราได้ ยิ่งอยู่ไกลกันก็ยิ่งฝันเห็นชัด แต่ถ้าใกล้กันเมื่อไหร่ ในฝันก็จะยิ่งเลือนรางมากขึ้นเท่านั้น
ไม่ใช่แค่ว่าฝันแล้วจะเจอ Soulmate กันได้ในทันที แต่คอนเซปต์นี้ก็จะปล่อยให้ผู้แต่งกำหนดช่วงอายุให้ตัวละครต้องรีบออกตามหาคนในฝันให้เจอก่อนที่จะถึงช่วงอายุนั้นๆ เพราะเมื่ออายุถึงกำหนดเมื่อไหร่ ตัวละครของเราก็จะนอนนานขึ้นจนสุดท้ายก็อาจจะไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลยก็ได้ ซึ่ง Soulmate ที่ว่านี้สุดท้ายอาจจะไม่ได้คู่กันก็ได้เพียงแต่ต้องเจอกันเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ให้ได้
Rainverse
หลายๆ คนอาจจะชอบเสียงเวลาฝนตก แต่บางคนที่มีความพิเศษกว่านั้นที่เมื่อฝนตกจะไม่ได้ยินเสียงอะไรนอกจากเสียงของคนที่เป็น Soulmate ของตัวเอง ฟังดูแล้วเหมือนจะโรแมนติก แต่ในนิยายบางเรื่องก็อาจจะเขียนแบบดาร์คๆ ว่าด้วยการไม่มีอยู่ของโซลเมท ก็อาจจะทำให้คนพิเศษที่ว่านั้นต้องทนทุกข์ทรมานกับการไม่ได้ยินเสียงอะไรในทุกๆ ครั้งที่ฝนตกก็เป็นได้
ซึ่ง Verse นี้ไม่ได้มีแค่ในนิยายนะ เพราะว่ามีซีรีส์ของไทยเรื่อง Voice In The Rain ที่เล่าถึงหญิงสาวผู้ได้ยินเสียงความคิดของชายคนหนึ่งทุกครั้งที่ฝนตก เช่นเดียวกันกับที่ผู้ชายคนนั้นก็ได้ยินเสียงเธอเหมือนกัน พวกเขาสื่อสารกันผ่านเสียงความคิดและสายฝน ถ้าอยากเห็นภาพของ verse นี้แบบชัดๆ ก็ตามไปดูซีรีส์กันได้เลย
Colorverse
คอนเซปต์ของ Color Verse จะเป็นเรื่องราวของคนที่ แต่คอนเซปต์นี้ยังใจดีที่ถึงแม้จะตาบอดไปแล้วแต่ถ้ายังเจอโซลเมทและได้ใกล้ชิดสนิทสนมกันมากขึ้นก็จะสามารถกู้คืนการมองเห็นของตัวเองกลับมาได้ด้วยเช่นกัน
ถ้าหากใครสนใจในคอนเซปต์ของ verse นี้ก็มีซีรีส์วายเกาหลีเรื่อง Color Rush ที่นำเอาคอนเซปต์นี้ไปดัดแปลงเป็นเรื่องราวของ เด็กหนุ่มที่เกิดมาก็สามารถมองเห็นโลกใบนี้ได้แค่สีเทาเท่านั้น จนกระทั่งมีใครบางคนเข้ามาในชีวิตและค่อยๆ ทำให้เขาสามารถเห็นสีได้อย่างที่ใจต้องการได้
Verse ที่ยกตัวอย่างมานี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ความจริงแล้วในโลกของ Open verse ยังมีอีกมากมายทั้งที่เรายังไม่เคยเจอและอาจจะยังรอให้เราเป็นผู้สร้างสรรค์อยู่ด้วยก็ได้ หากใครเป็นสายผลิตที่อยากลองสร้าง Universe หนึ่งขึ้นมาก็อย่าลืมเอามาแบ่งปันให้คนอื่นๆ มาร่วมสนุกกับจินตนาการของเรากันล่ะ หรือใครไม่ถนัดผลิตเพราะเป็นสายเสพคอนเทนต์ก็ลองไปตามหาโลกจินตนาการใหม่ๆ ให้ได้ไปสนุกกัน
Reference:
