Lukas Graham

เชื่อว่าทุกคนที่เปิดเพลงทางวิทยุต้องเคยได้ฟังเพลงดังอย่าง 7 Years แน่นอน ด้วยสำเนียงการร้องเพลงที่เรียกได้ว่าอาจจะไม่ค่อยคุ้นเคย ทำให้เพลงนี้ติดหูคนฟัง แถมเผลอๆ ยังฮัมเพลงตามได้อีก แน่นอนว่าดังขนาดนี้ก็ต้องติดชาร์ตเพลงฮิตเป็นธรรมดา และเมื่อปล่อยเพลง Love Someone ออกมาก็ยังคงเป็นเพลงที่ขึ้นชาร์ตของประเทศไทยอยู่เหมือนเดิม

หลายคนคงพอจะคุ้นๆ เมื่อเห็นชื่อเพลงกันแล้วใช่ไหมล่ะ แต่บางทีอาจจะนึกหน้านักร้องไม่ออก เราได้มีโอกาสเจอกับ Lukas Graham เมื่อครั้งล่าสุดที่มาเที่ยวประเทศไทย และได้เอาบทสัมภาษณ์มาให้พวกเธอได้อ่านกัน จะได้รู้จักเขามากขึ้นยังไงล่ะ อ่ะ ตามมาเลยย

รู้สึกอย่างไรบ้างกับ Blue Album ที่ปล่อยในปี 2015 นั้นประสบความสำเร็จมากในเอเชีย โดยเฉพาะเพลง 7 years

Lukas : รู้สึกประหลาดใจนะ เพราะ 2-3 ปีที่แล้วมาเที่ยวเชียงใหม่ มีเพื่อนอยู่ที่นั่นด้วย ระหว่างที่เดินอยู่ผมได้ยินเพลง 7 years เลยบอกเพื่อนว่านี่เป็นเพลงของผม แต่พวกเขาก็ไม่เชื่อ 3 ปีต่อมาผมได้กลับมาที่ไทย มีคนมารอผมที่สนามบิน รู้สึกดีใจ แต่ยังไม่ค่อยชินเท่าไรครับ

ได้ข่าวว่าคุณเพิ่งปล่อยอัลบั้มใหม่ The Purple Album อยากให้พูดถึงอัลบั้มนี้หน่อย

Lukas : The Blue Album เกี่ยวกับพ่อของผมที่เสียชีวิตไปเมื่อ 6 ปีที่แล้ว เพลงที่ผมเขียนในอัลบั้มนี้มันมาจากชีวิตของผม การสูญเสีย เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพ่อของผมเป็นส่วนใหญ่ ส่วนใน The Purple Album นี้เป็นเรื่องราวของครอบครัว ชีวิตของพ่อแม่ลูก มันเหมือนกับชีวิตของผมตอนนี้ เพราะผมเพิ่งมีลูก ลูกผมชื่อ Viola มันมาจาก Violet ก็คือ สีม่วง (Purple) นั่นเอง

แรงบันดาลใจในการแต่งเพลง Love Someone คืออะไร

Lukas : เมื่อ 2 ปี 4 เดือนที่แล้ว ผมได้เป็นพ่อคนครั้งแรก มันคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นในชีวิตผมเลย แต่ช่วงนี้ผมทำงานหนักมาก ต้องเดินทางไปทำงานหลายที่ ผมกลัวว่าผมจะสูญเสียทุกอย่างเพราะงาน แต่หากผมไม่ทำงาน ผมคงไม่มีความสุข ผมเขียนเพลงนี้ขึ้นจากความกลัวการสูญเสียครอบครัว การสูญเสียใครสักคน ทำให้รู้สึกว่าการรักใครสักคน มันจะเกิดความกลัวว่าจะสูญเสียเขาไป

ในอัลบั้มนี้ เพลงโปรดของคุณคือเพลงไหน

Lukas : Redemption Song ครับ เนื้อหามันเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของการเมืองการปกครอง และเป็นเพลงที่ผมชอบตอนแสดงสดมาก

หากคุณมีโอกาส อยากจะร่วมงานกับใครบ้าง

Lukas : เป็นคำถามที่แปลกมาก เพราะ ผมคิดว่าโอกาสจะมาถึงเมื่อผมรู้สึกว่ามันใช่ แล้วผมก็จะรู้ว่าผมอยากทำงานกับใคร คำตอบของคำถามนี้ก็คือ ผมอยากร่วมงานกับคนรอบตัวที่เคยร่วมงานกันมาแล้ว อย่างเช่นอาจจะมีคนที่เคยร่วมงานกับ Ed Sheeran ที่เคยช่วยเขียนเพลงให้ แต่มันก็ค่อนข้างยากนะ เพราะผมอยู่ที่ Copenhagen มันค่อนข้างไกลกับพวกเขา

ได้ยินมาว่าคุณชอบทำอาหาร แล้วคุณทำอาหารไทยเป็นไหม

Lukas : เป็นครับ แล้วผมก็ทำแกงเขียวหวานได้อร่อยมากด้วยนะ ทำเผ็ดด้วย แต่เวลาที่เพื่อนขอให้ทำให้ทาน ผมก็จะทำให้รสชาติมันเบาขึ้นมาหน่อย จริงๆ แล้วตัวผมเองก็เป็นแฟนอาหารไทยอยู่แล้วล่ะ ผมชอบต้มยำ ทุเรียน อะไรพวกนี้ ถ้ามีอาหารมาวางไว้ตรงหน้าผมก็จะลองชิมทุกอย่างนะ เพราะผมเป็นคนที่ชอบลองอะไรใหม่ๆ ด้วย

ช่วงทัวร์คอนเสิร์ตคุณน่าจะได้เจอทั้งผู้คนมากมาย วัฒนธรรมหลายอย่าง แต่อยากรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่คุณชอบมากที่สุดในระหว่างทัวร์คอนเสิร์ต

Lukas : ชอบทานอาหาร (หัวเราะ)

แล้วได้เอาเรื่องของอาหารมาเป็นแรงบันดาลใจในการทำเพลงไหม

Lukas : จริงๆ แล้วในตอนที่ผมยังเป็นเด็ก ที่บ้านของผมมีกฎอยู่ข้อหนึ่งคือ ไม่ว่าจะทำอะไร จะล้างจาน ทำอาหาร ทำความสะอาด ผมจะเปิดเพลงเสียงดังเท่าไรก็ได้ตามที่ผมอยากฟัง สำหรับผมเพลงกับอาหารเลยเหมือนมาคู่กัน พอต้องไปต่างประเทศในหลายๆ ที่แล้วเราต้องทำงานเยอะ ผมเลยชอบที่จะออกไปข้างนอกเพื่อหาอาหารดีๆ ทานและมองดู มองหาวัฒนธรรมบางอย่างที่จะมาเติมเต็มชีวิตให้กับผม

วันไหนที่รู้สึกว่าหมดพลังในการทำงานมีวิธีหรือกระบวนการ healing ตัวเองอย่างไรบ้าง

Lukas : เป็นคำถามที่ดีมากครับ เวลาที่ผมเขียนอะไรไม่ได้ผมก็จะเขียนเพลงเกี่ยวกับการที่ผมเขียนอะไรไม่ออก ผมเชื่อว่าแรงบันดาลใจมันมาจากพระเจ้า ส่วนเรื่องวิธีการผมก็ฟังเพลงมากขึ้น หรือฟังวิทยุเพื่อได้รู้ถึงการทำงานของศิลปินคนอื่นๆ

Written by Nichkamon Boonprasert, Ittipat Lapawong

Photo by Ditsayanan Boonprasit

Illustration by Donlaya Thanakorntiraporn

0 replies

Leave a Reply

Want to join the discussion?
Feel free to contribute!

Leave a Reply