M1LDL1FE อีกหนึ่งวงดนตรีรุ่นใหม่จากสิงคโปร์ที่น่าสนใจเลยอยากให้ชาวไทยได้รู้จักและลองฟังเพลงกัน!
ใครที่ยังจำความสนุกและเพลงเพราะๆ จากงาน Bangkok Music City (BMC 2019) ที่ผ่านมาได้ ก็คงจำวงอินดี้กับสไตล์ดนตรีสุดแนวจากสิงคโปร์วงนี้ได้แน่นอน นั่นก็คือวง M1LDL1FE (Mild Life) นั่นเอง วงดนตรีรุ่นใหม่ที่สร้างสรรค์แนวดนตรีของตัวเองออกมาได้แตกต่างจากวงอินดี้ป๊อบทั่วๆ ไป และเพราะความแตกต่างไม่เหมือนใครนี้ NYLON ก็เลยอยากชวนทุกคนมาทำความรู้จักพวกเขาให้มากขึ้น โดยการคว้า 2 สมาชิกตัวแทนจากวงอย่าง David Siow และ Paddy Ong มาร่วมพูดคุยถึงการมาไทยในครั้งนี้กัน
การแสดงในประเทศไทยคราวนี้ เป็นการมาแสดงครั้งที่เท่าไหร่ของพวกคุณ
Paddy : ถ้าเป็นการแสดง ครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่สองแล้วครับ พวกเราเคยมาแสดงที่กรุงเทพฯ ตอนเดือนมีนาคม (28 มีนาคม) ในงานของ Fungjai Borderless 2 ครับ
รู้สึกอย่างไรบ้างที่จะได้ขึ้นแสดงในงาน Bangkok Music City
Paddy : ตื่นเต้นครับ
David : ส่วนผมกังวลนิดหน่อยนะ เพราะว่าตอนนี้ผมไม่ค่อยสบายครับ
เตรียมตัวอย่างไรกับการแสดงในวันแรกของ Bangkok Music City
Paddy : กินแล้วก็นอนครับ (หัวเราะ)
David : ก็จะไปกินอาหารไทยครับ ไปนวดด้วย (หัวเราะ)
ถ้าอย่างนั้นชอบเมนูอาหารไทย เมนูไหนมากที่สุด
David : ผมชอบแกงมัสมั่นครับ มัสมั่นเนื้อ
Paddy : ผมชอบต้มข่าครับ คล้ายๆ กับต้มยำแต่ว่าใส่กะทิด้วย อร่อยดีครับ
ชื่อวง M1LDL1FE มีความหมายว่าอย่างไร และทำไมถึงเลือกใช้เลข 1 แทนตัว I
Paddy : ความหมายของ M1LDL1FE (Mildlife) ก็คือ สิ่งที่วงที่ต้องการให้เห็นว่า ตอนกลางวันพวกเราก็เป็นคนสิงคโปร์ธรรมดาทั่วไปครับ แต่พอเราเริ่มเล่นดนตรีมันก็มีความสนุกความคึกคะนองอยู่ในนั้นด้วย เราก็เลยใช้การเล่นคำจาก Wildlife เป็น Mildlife ส่วนที่ใช้เลข 1 แทนก็เพราะว่ามาจากชื่อเก่าของวงครับ ชื่อว่า Take Two ชื่อ M1LDL1FE มีเลขหนึ่งสองตัวรวมกันก็เป็น 2 ครับ
พวกคุณแต่งเพลงทั้งหมดเองใช่ไหม ได้แรงบันดาลใจในการทำเพลงมาจากที่ไหนบ้าง
Paddy : ใช่ครับ แรงบันดาลใจหลักๆ เลยก็คือประสบการณ์ส่วนตัวครับ สิ่งที่พวกเราเคยเจอมาหรือเคยผ่านมาแล้ว
David : เมื่อเราโตขึ้นเราก็จะเจอหลายสิ่งหลายอย่างแตกต่างกันไปครับ แต่ถ้าลองคิดดูแล้ว ทุกคนในโลกก็เจออะไรมาไม่เหมือนกัน เราก็แค่เขียนถึงสิ่งที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ครับ
ถ้าให้เลือกเพลงของวงที่ชอบที่สุดมา 1 เพลง จะเลือกเพลงไหน
David : ผมคิดว่าเพลง Distraction ครับ ทุกคนสามารถขยับตัวตามจังหวะได้ เพราะว่าเพลงก็ไม่ได้เร็วมาก เป็นเพลงที่ค่อนข้างสนุกเลยครับ
และถ้าให้แนะนำเพลง 1 เพลงให้กับคนที่ไม่รู้จัก M1LDL1FE มาก่อน จะเลือกเพลงอะไร
David : ผมคิดว่าเพลง Distraction นี่แหละครับ เพลงนี้เป็นเพลงที่ถ้าคุณอยากจะเต้นก็เต้นได้ อยากจะชิลล์ก็ชิลล์ได้เหมือนกันครับ เพลงนี้หมายถึงการที่เราถูกเบี่ยงเบนความสนใจจากกันและกัน ไม่ว่าจะจากในครอบครัว ความรัก หรืออะไรก็แล้วแต่ มันออกจะซับซ้อนหน่อยแต่ว่าเราก็ต้องยอมรับครับว่าในชีวิตของเราทุกคนก็ต้องมีสิ่งที่ทำให้เราไขว้เขวอยู่
พวกคุณมีใครเป็นต้นแบบในวงการเพลงไหม
Devid: พวกเราชอบวงดนตรีหลายๆ วงเลยครับ ก็มี Last Dinosaurs (วงดนตรีอินดี้-ร็อค จากออสเตรเลีย) ครับ ผมไม่ได้แค่ชอบเพลงของพวกเขานะครับ แต่ว่ารวมไปถึงปรัชญาของเขาด้วย เพลงของเขาค่อนข้างแตกต่าง พวกเขาทำเพลงออกมาได้ดีเลย มันออกจะฟังยากนิดนึงแต่ก็ยังชิลล์ไปกับเพลงได้ ประมาณนั้นครับ (หัวเราะ)
Paddy : แล้วก็มี Bombay bicycle club ครับ จริงๆ ก็มีวงไทยด้วยมีวง Pyra, Gym and Swim แล้วก็ Temp. ครับ เราก็หวังว่าจะได้เจอพวกเขาที่งาน Bangkok Music City ด้วย
รู้จักประโยคภาษาไทยนอกเหนือจาก “สวัสดีครับ” กับ “ขอบคุณครับ” บ้างหรือเปล่า
Paddy : “ห้องน้ำอยู่ที่ไหนครับ” (พูดภาษาไทย) ผมเรียนพูดอันนี้ตอนหาห้องน้ำไม่เจอ (หัวเราะ)
มีอะไรอยากฝากถึงแฟนๆ ชาวไทยไหม
Paddy : อยากบอกว่าขอบคุณมากๆ ครับ “ดีใจที่ได้เล่นให้ทุกคนฟัง” (พูดภาษาไทย) ผมมีความสุขมากเลยครับ ครั้งแรกที่ได้มาเล่นที่ไทยตอนเดือนมีนาคมสนุกมาก รู้สึกว่าทุกคนเป็นกันเอง แล้วก็มีความสุขมากที่ทุกคนมาฟังมาดูพวกเราแสดง แม้ว่าพวกเราจะพึ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรก ครั้งนี้ก็เลยดีใจครับที่ได้กลับมาเล่นให้ทุกคนฟังอีกครั้ง
ติดตาม M1LDL1FE ได้ที่