ผสานความเท่ของสตรีทแบรนด์ด้วยการร่วมมือกันของ บอส Matter Makers และ ปิ๊น Carnival สู่คอลเลกชั่นพิเศษอย่าง Matter Makers x Carnival
เหล่าแฟชั่นนิสต้าคงจะไม่พลาดแน่ๆ กับคอลเลกชั่นพิเศษของแบรนด์สตรีทชื่อดังของไทยทั้ง Matter Makers และ Carnival ที่ปล่อย Collaboration ออกมาให้เหล่าสายสตรีทได้จับชุดไปมิกซ์แอนด์แมทช์กันแบบเท่ๆ ด้วยดีไซน์ที่มีความใกล้กันทำให้จับสไตล์เข้าคู่กันไม่ยาก สิ่งที่น่าสนใจนอกจากเรื่องของดีไซน์แล้ว การมารวมตัวกันของทั้งสองแบรนด์ก็น่าสนใจเหมือนกันนะ NYLON ก็ได้ชวน คุณบอส-ธรรมธรรศ เลี้ยงธรรมรัตน์ และ คุณปิ๊น-อนุพงศ์ คุตติกุล ที่มาร่วมมือกันจนทำให้เกิดคอลเลกชั่นสุดคูลแบบนี้ออกมาคุยกันล่ะ
ช่วยแนะนำตัวหน่อย
บอส : สวัสดีครับ บอส ธรรมธรรศ เลี้ยงธรรมรัตน์ เป็น Head Designer แบรนด์ Matter Makers ครับ
ปิ๊น : ปิ๊น นะครับ อนุพงศ์ คุตติกุล เป็น CEO ของ Carnival ครับ
คอลเลกชั่นนี้เป็นคอลเลกชั่นแรกใช่ไหมที่ทำร่วมกัน?
ใช่ครับ
คอลเลกชั่นสุดพิเศษนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
ปิ๊น : จริงๆ เกิดจากการชักชวนกันมากกว่าครับ คือทาง Matter Makers เป็นคนมาชวน Carnival มาเสนอว่ามีโปรเจคที่อยากทำ Collaboration ร่วมกันครับ คืออาจจะเห็นว่า Carnival ทำคอลแลบกับหลายๆ แบรนด์มาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ว่าพอเราได้มาคุยกับทาง Matter Makers เราก็รู้สึกว่ามันน่าจะสนุกถ้าได้ออกคอลเลกชั่นร่วมกัน ด้วยความที่ DNA ของแบรนด์ใกล้เคียงกันด้วยก็เลยคิดว่า ถ้าทำออกมาแล้วน่าสนใจ มันน่าจะสร้างอะไรที่มันเป็นสิ่งใหม่ๆออกมาได้ เราก็อยากทำครับ
Matter Makers และ Carnival มีจุดที่เหมือนและแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
บอส : จริงๆแล้ว Matter Makers เป็นแบรนด์ดีไซน์ที่พยายามพูดถึงเสื้อผ้าที่ทันสมัยมีความสนุกและมี DNA ของความสตรีทผสมอยู่ครับ พอมาเห็น Carnival ซึ่งเรารู้อยู่แล้วว่า Carnival เป็นสุดยอดแบรนด์สัญชาติไทยที่มีความเป็นสตรีทแวร์อยู่ในตัว ก็เลยรู้สึกว่าตรงนี้เราน่าจะจูนกันได้ โดยที่เราเอา sense แฟชั่นของผู้หญิงแบบ Matter Makers มาผสมกับความสตรีทของ Carnival ก็น่าจะเป็นคอลเลกชั่นที่มัน Represent อะไรบางอย่างให้กับวงการแฟชั่นในปัจจุบันได้ครับ
ปิ๊น : คือจะเห็นว่า Carnival เองเป็นแบรนด์สตรีทอยู่แล้ว เป็นสตรีทแฟชั่น แล้วเราก็เกิดมาจากรองเท้าสนีกเกอร์กับเสื้อผ้าสตรีทแวร์ครับ จริงๆ แล้ว Matter Makers อาจจะไม่ได้มีความสตรีทจัดๆ แบบ Carnival แต่เราก็จะมีจุดที่มันเชื่อมโยงกันได้ และด้วยความที่มันเป็นสตรีทแฟชั่นคือมันไม่มีคำจำกัดความครับ มันแล้วแต่ว่าเราจะตีความออกมาเป็นแบบไหน ซึ่งเรามองว่าทั้งสองแบรนด์ก็มีจุดที่มีความเหมือนกัน พอเอามารวมกันแล้วมันก็ออกมาเป็นเสื้อผ้าคอลเลกชั่นนี้ได้ครับ
จุดต่างระหว่างทั้งสองแบรนด์คือความเป็นสตรีทใช่ไหม?
ปิ๊น : จริงๆ ทั้งสองแบรนด์ก็มีความเป็นสตรีทแฟชั่นอยู่แล้ว แต่อาจจะเป็นคนละแบบมากกว่าครับ Carnival เองจะมีความเป็นสตรีทแฟชั่นที่เชื่อมโยงมาจากสนีกเกอร์ คนที่ชอบใส่รองเท้าผ้าใบ ชอบใส่สนีกเกอร์อะไรแบบนี้ครับ การแต่งตัวมันก็จะเน้นไปทางที่เป็นผู้ชายเสียส่วนใหญ่ครับ เป็นเสื้อผ้าแบบเสื้อยืด กางเกงยีนส์ ออกไปทางที่ได้รับอิทธิพลมาจากสนีกเกอร์หรือสตรีทค่อนข้างเยอะครับ
บอส : ส่วน Matter Makers จะเป็นเสื้อผ้าแนวสตรีทที่เป็นแฟชั่นมากๆ เราจะพูดถึงเทรนด์ เราจะพูดถึงความต้องการและวัฒนธรรมอะไรที่มันกำลังตื่นตัวอยู่ในโลกใบนี้ครับ แล้วก็แปลงสิ่งเหล่านั้นเป็นเสื้อผ้า แปลงสิ่งเหล่านั้นให้กลายเป็นนิยามในการดีไซน์ของเราครับ
นำสองสิ่งนั้นมาผสานกันอย่างไรในคอลเลกชั่นนี้
ปิ๊น : ถ้าถามว่าผสานกันยังไงก็คือ จริงๆ แล้วเราหาจุดเชื่อมโยงระหว่างกันมากกว่า เรามองว่าอัตลักษณ์ของแต่ละแบรนด์คืออะไร อย่าง Carnival เองก็จะเน้นไปที่โลโก้ เน้นสัญลักษณ์ดาวสามดวง เน้นตัว C ที่เป็นไอค่อนของแบรนด์ที่คนเห็นแล้วรู้เลยว่านี่คือ Carnival กับการเอาสัญลักษณ์ของ Matter Makers ทั้งฟอนต์ ทั้งโลโก้มาผสมกับของ Carnival สลับกันไปมาอ่ะครับ ถ้าคนที่เป็นแฟนของทั้งสองแบรนด์พอเขาเห็น Artwork ตัวนี้เขาก็จะรู้ว่าอันนี้มาจากแบรนด์อะไร มันก็เป็นความสนุกที่เราหยิบมาเล่นครับ
มีกระบวนการทำงานร่วมกันอย่างไรบ้าง
ปิ๊น : ตอนเริ่มต้นก็เราต้องมาคุยกันก่อนครับว่า สิ่งที่ทั้งสองแบรนด์ถนัดคืออะไร ลูกค้าของทั้งสองแบรนด์ใส่เสื้อผ้าแบบไหน แล้วก็ได้ออกมาเป็นไอเท็มที่เราคิดว่ามันคือการรวมกันทั้งสองแบรนด์ครับ คือ Matter Makers อาจจะมีเสื้อผ้าที่เป็นผู้หญิงแต่ Carnival ไม่มี ส่วนทาง Carnival เอง เสื้อผ้าหลักๆ ที่ขายก็จะเป็น เสื้อยืด, Hoodie, และ Sweatpants มันเป็นไอเท็มที่เป็นสไตล์ของแบรนด์ Carnival เพราะฉะนั้นพอมันมามิกซ์รวมกันก็เลยออกมาเป็นคอลเลกชั่นนี้ครับ แต่อาร์ตเวิร์กเราก็ดีไซน์ขึ้นมาใหม่
บอส : ก็คือเราจะคุยกันว่าในแต่ละคนมี a must item เป็นอะไรบ้าง อย่าง Matter Makers เราขายอย่างนี้ดี Carnival ด้านนี้เด่น อะไรแบบนี้ครับ แล้วก็ในแง่ของเชิงสัญลักษณ์ในคอลเลกชั่นด้วย ไม่ว่าจะเป็นอย่างที่คุณปิ๊นบอก ไม่ว่าจะเป็นโลโก้เอย ตัวของ typography เอย เราก็พยายามทำให้ลูกค้าของทั้งสองแบรนด์มองแล้วยังเก็ท DNA ของแบรนด์อยู่ ว่าสิ่งนี้คือ Matter Makers นะ สิ่งนี้คือ Carnival นะ แต่เล่าในมุมมองของการทำ Collaboration ร่วมกันครับ
เรื่องลวดลายและสีสันที่อยู่ในคอลเลคชั่นนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากไหน
บอส : จริงๆแล้ว Matter Makers เอง เวลาที่ทำคอลเลกชั่นสิ่งหนึ่งที่เราชอบทำมากที่สุดคือการ กวน หรือการตั้งคำถามเกี่ยวกับ Situation หรือเกี่ยวกับแฟชั่นในโลก อย่างเช่นตอนนี้สิ่งที่เราตั้งคำถามก็คือว่า ลายอะไรที่มันคลาสสิก แล้วจะเอามาทำอย่างไรให้มันดูสนุกขึ้น ให้ดูใหม่ขึ้น มันก็เลยเป็นที่มาของคำว่า Classic Twist คือการทำให้สิ่งที่มันดูคลาสสิกหรือเห็นได้บ่อยแล้ว กลับกลายเป็นสิ่งที่มันใหม่และมันเปรี้ยวขึ้น คราวนี้จุดที่เราเลือกลาย Bandanas มา คือเรารู้สึกว่าลายนี้เป็นอะไรที่ Unisex คือผู้ชายก็เข้าใจ ผู้หญิงก็เข้าใจ แล้วเราก็มาทำเป็นสีรุ้งครับเพื่อให้เกิดความสนุกขึ้น แล้วในลายเราก็จะซ่อนกิมมิคเล็กๆที่เกี่ยวกับตัว Matter Makers และ Carnival ลงไป อย่างเช่นตัว C ยานอวกาศ ถ้าเข้าไปดูลายดูดีเทลก็จะเห็นว่าจริงๆมันมีดีเทลและกิมมิคเล็กๆใส่ลงไปค่อนข้างเยอะ
ปิ๊น : จริงๆ สีที่เป็นสีรุ้งเนี่ย มันก็เป็นสีที่กำลังเป็นเทรนด์อยู่ ณ ปัจจุบันด้วย แต่ว่าเราเอาของที่มันเป็นคลาสสิกมาใส่ความที่มันเป็นเทรนด์ปัจจุบันลงไปครับ
นอกจากนั้นความพิเศษของ Collaboration ครั้งนี้คืออะไร
ปิ๊น : ความพิเศษ ก็คือเวลาที่ทั้งสองแบรนด์มาทำด้วยกัน มันก็จะไม่ได้เห็นบ่อยๆ สมมติว่าคนที่เป็นแฟน Carnival เองเนี่ยก็จะไม่ได้เห็นไอเท็มที่เราทำแบบครั้งนี้บ่อยๆ หรืออาจจะไม่เคยทำเลยด้วยซ้ำในบาง เพราะฉะนั้นแฟนๆของทั้งสองแบรนด์ก็จะได้ซื้อไอเท็มที่มันเป็นคอลเลกชั่นพิเศษจริงๆ ที่เราจะไม่ได้เห็นในลายปกติของทั้งสองแบรนด์ และคนอื่นๆที่อาจจะไม่ได้เป็นแฟนประจำก็อาจจะเห็นในมุมมองใหม่ๆ ที่เราเอามานำเสนอด้วย มันก็เป็นคอลเลกชั่นที่น่าสนใจครับ
บอส : อย่าง Matter Makers เราจะใช้คำว่า Excoolsive ซึ่งที่เป็นคำว่า cool เพราะใครๆ ก็รู้อยู่แล้วว่า Carnival เขามีความคูลอยู่ใน DNA ของแบรนด์มาก การที่เราได้ทำคอลแลปร่วมกันมันเป็นสิ่งพิเศษครับ ถ้าลูกค้าไม่ซื้อตอนนี้ก็คือไม่มีอีกแล้ว คอลเลกชั่นหน้าตาแบบนี้ Limited edition แบบนี้ ดีไซน์แบบนี้อะไรประมาณนี้ครับ
คอลเลกชั่นนี้วางขายที่ไหนบ้าง?
ปิ๊น : คอลเลกชั่นนี้เป็น Limited Edition ครับ เพราะผลิตจำนวนไม่เยอะ จริงๆ ก็เริ่มต้นขายที่ Carnival ก่อนจากนั้นก็จะมีขายที่ Matter Makers ด้วยครับ
บอส : ก็คือหลังจากวางขายที่ Carnival ก็จะเข้าทั้งแพลตฟอร์มออนไลน์และออฟไลน์เลยครับ ก็จะมีทั้งที่ carnivalbkk.com และ matter-makers.com ด้วย แล้วก็จะมีขายที่ร้านของ Matter Makers ทั้ง 5 สาขาเลยครับ หรือว่าจะสั่งซื้อทางไลน์แอดก็ได้ครับ
ช่วยบอกมุมมองของคุณต่อสตรีทแวร์ในเมืองไทยในปัจจุบันหน่อย
ปิ๊น : สตรีทแวร์เมื่อก่อนเนี่ยมันอาจจะเป็นเฉพาะกลุ่ม หมายความว่าเฉพาะคนที่ศึกษาหรือชอบรองเท้าผ้าใบ หรือแต่งตัวสตรีทแวร์ที่ได้อิทธิพลมาจากต่างประเทศอะไรแบบนี้ครับ แต่ในปัจจุบันกระแสสตรีทแวร์ก็อย่างที่เรารู้กันว่ามันกลายเป็น Main Stream แล้ว มันเหมือนกับว่า สตรีทแวร์กับการแต่งตัวทั่วๆไปหรือแนวอื่นๆ มันรวมกันแล้ว เราไม่สามารถแยกออกได้แล้วแม้กระทั่งแบรนด์ High – End เองก็ทำสตรีทแวร์ เพราะฉะนั้นมันกลายเป็นว่าเป็นกลุ่มใหญ่ไปแล้ว คนส่วนใหญ่ก็สามารถที่จะใส่สตรีทแวร์ในชีวิตประจำวันได้ เพราะฉะนั้นมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่วงการสตรีทแวร์มันเติบโตและมันก็ขยายมาได้ไกลแล้วเราก็จะได้เห็นโปรดัคใหม่ๆแบรนด์ใหม่ๆ คอลเลกชั่นใหม่ออกมาเรื่อยๆ ในช่วงนี้ครับ
ในความคิดของคุณสตรีทแวร์คืออะไร
ปิ๊น : สำหรับผม สตรีทแวร์ก็คือเสื้อผ้าที่ใส่ง่ายๆ สามารถ Mix & Match กับอะไรก็ได้ คือคำว่าสตรีทแวร์มันก็เหมือนเราใส่เดินตามท้องถนน มันไม่ใช่เสื้อผ้าที่จะต้องใส่แบบเป็นทางการ หรือไปใส่ทำงานอะไรต่างๆ แต่อย่างที่บอก ปัจจุบันเนื่องจากว่าโลกมันก็เปิดรับกว้างมากขึ้น บางทีทำงานเขาใส่เสื้อผ้าแบบนี้ไปทำงานได้แล้ว เพราะฉะนั้นสตรีทแวร์มันก็เลยเป็นเสื้อผ้าที่แต่ละคนเลือกมา Mix & Match ใส่ให้มันเข้ากับสไตล์ของตัวเองครับ
บอส : คล้ายๆ กันครับ ผมมองว่าสตรีทแวร์นอกจากที่ คุณปิ๊น พูดในแง่ของไอเท็มและการสวมใส่แล้วเนี่ย จริงๆสตรีทแวร์มันเป็นเหมือนการที่เรารู้จักตัวเองและเคารพตัวเอง เคารพในเอกลักษณ์ของตัวเอง ว่าเราชอบสิ่งนี้ เสพวัฒนธรรมแบบนี้ ฟังดนตรีแบบนี้ แล้วมันผสานสิ่งเหล่านั้นออกมาทางเสื้อผ้า มันแปลงสิ่งที่เราชอบอย่าง ดนตรี ศิลปะ การใช้ชีวิตผ่านมาทางเสื้อผ้า สตรีทแวร์มันก็เลยเป็นเหมือน วัฒนธรรมย่อยอันหนึ่งที่คนสามารถแสดงความเป็นตัวเองออกมาได้ ประมาณนั้นครับ
ช่วยแนะนำไอเท็มที่ต้องมีของคอลเลกชั่นนี้หน่อย
บอส : สำหรับผมถ้าพิเศษจริงๆก็คงจะเป็น Bandanas Tee (Scarf Oversized tee) ครับ เป็นเสื้อยืดที่พิเศษตรงที่เรามีการแทรกผ้าเช็ดหน้าจริงเข้าไปที่บริเวณชายด้วย ก็เลยเป็นเสื้อที่เหมือนมี Layer เวลาสวมใส่ครับครับ ถ้าใส่ทับเสื้อเชิ้ตหรือใส่ทับกับ Sweater หรือ Hoodie ก็จะได้เลเยอร์ในการ Mix & Match ซึ่งจะทำให้คนรู้สึกสนุกในการแต่งกายมากขึ้น แล้วก็เป็นชิ้นที่เห็นแล้วเด่นครับ
ปิ๊น : จริงๆ ผมแนะนำว่าชิ้นที่มีลาย Bandanas ซึ่งมันเป็นลาย Signature ของคอลเลกชั่นนี้ก็เป็นชิ้นที่แนะนำ เพราะมันเป็นลายพิเศษที่เราออกมาเพื่อคอลเลกชั่นนี้โดยเฉพาะ แล้วก็หลายๆไอเท็มผมก็ชอบก็คืออย่าง Bucket Hat ครับ เพราะมันเป็นหมวกแบบใส่ได้สองด้านด้วย คือกลับด้านในออกมาก็เป็นอีกสีหนึ่งอะไรแบบนี้ครับ อันนี้มันก็เป็นอีกไอเท็มพิเศษที่ทำให้สนุกกับการแต่งตัวได้ครับ