Motley Flower ดอกไม้ที่มีความหลากหลายทั้งในหน้าที่และผลงานเพลง

หลายคนอาจจะรู้จักกับ BLAQ LYTE ค่ายเพลงที่มีศิลปินอย่าง temp., SIXSUMMER AUDIO, Pattiii, mojosung และอีกหลายๆ คนที่เราอาจจะเคยฟังเพลงผ่านหู หรือได้ดู MV ผ่านตากันมาบ้าง 

แต่อาจจะไม่รู้ว่า นอกจากเป็นค่ายเพลงแล้วนั้นยังทำปาร์ตี้ เทศกาลดนตรี อีเวนต์ และคอนเสิร์ต อีกด้วย ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้การดูแลของ ‘นิค-สุปรีดา โสตะวงศ์’ หรือที่คนในวงการอาจจะคุ้นกันในชื่อ ‘Motley Flower’

นอกจากดูแลศิลปินในค่าย นิคเองรับบทเป็นหนึ่งศิลปินด้วยเหมือนกัน ที่ก่อนหน้ามีผลงานปล่อยออกมา เช่น FUNKY DOG ft.YOUNGGU, Tennis Shoe Sister ft.Kirin, Real Eyes ft.Pae Arak & Numcha, Mount High และล่าสุดก็เพิ่งมีผลงานเพลงใหม่อย่าง ‘Leave Me Dry’ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเพลงเดี่ยวเพลงที่ 2 ของเขาที่ปล่อยออกมาให้พวกเราได้ฟังกัน ซึ่งวันนี้เราจะมาชวนทุกคนมารู้จักกับ Motley Flower และคุยกันถึงเพลงใหม่นี้กัน

ก้าวมาสู่การเป็นศิลปินได้อย่างไร

ก่อนหน้านี้หลักๆ ก็ทำคอนเสิร์ต ทำ Festival มาก่อน แต่ว่าตอนนี้ไม่สามารถทำได้เพราะว่าเกิดโควิด และผมได้มาเจอกับโปรดิวเซอร์ Bossa On The Beat แล้วเกิดการพูดคุยกันว่าเรามาทำเพลงด้วยกันดีกว่า จากนั้นก็ได้มาเจอกันที่ออฟฟิศ ระหว่างที่คุยกันตอนนั้นผมก็เริ่มทำสตูดิโอ ทำเพลง รวมถึงเซ็นต์สัญญากับศิลปินอื่นให้มาร่วมงานกับค่ายของเรา เป็นการเริ่มทำโดยไม่ได้วางแผนอะไรล่วงหน้า แต่ทำด้วย Passion ด้วยความชอบครับ

ทำไมถึงเป็น Motley Flower

ผมใช้ชื่อในโซเชียลมีเดียว่า ‘Motley Nick’ เพราะชอบวงฮาร์ดร็อกอเมริกัน ‘Motley Crue’ แต่รู้สึกว่า ‘Motley Nick’ มันตรงกับตัวผมเกินไป เลยพลิกแพลงเล็กน้อย เลยเริ่มมองหาสิ่งที่ชอบนั่นก็คือ ดอกไม้ จนกลายมาเป็น Motley Flower’‘ ที่แปลว่า เรานั้นเป็นทั้งดอกไม้ที่มีความหลากหลาย ไม่ว่ามันจะสวยหรือไม่สวย หรือจะมีสีสันอะไรก็ตาม เหมือนกับเพลงที่ผมทำ ไม่ได้ทำมาแค่แบบเดียว แต่มีหลายอย่างรวมอยู่เหมือนกัน

พูดถึงเพลงล่าสุด Leave Me Dry แรงบันดาลใจในการแต่งเพลงนี้คืออะไร

ได้แรงบันดาลใจมาจากชื่อของตัวเอง ‘Motley Flower’ ส่วนเพลงชื่อ ‘Leave Me Dry’ เหมือนกับดอกไม้ มีทั้งตอนที่สวยและสดที่สุด แต่สุดท้ายดอกไม้ก็ต้องตาย มันก็จะ Dry ครับ รวมถึงเพลงนี้กึ่งๆ เป็นเพลงอกหักด้วยครับ คนที่เคยรับปากสัญญากับเราไว้มันตายไปแล้ว

ซึ่งเพลงนี้แต่งขึ้นเองและใช้เวลาแต่งไม่นานครับ ผมมักเข้าสตูดิโอดึก ๆ และใช้เวลาทั้งคืนแต่งให้จบ ผมจะไม่แต่งล่วงหน้าและไม่แต่งย้อนหลัง ผมพยายามจบความรู้สึก ณ คืนนั้น ภายในคืนนั้นให้ได้ครับ

ความหมายของเพลงนี้

ตอนที่เราคบกับคนๆ นึง ทุกอย่างมันก็ดีไปหมด สดใส มองไปทางไหนก็มีความสุข แต่เมื่อถึงจุดจบ ก็เหมือนดอกไม้ที่เหี่ยวโรยและตายไป ซึ่งเราก็ได้ปล่อย Music Video ออกไปแล้ว โดยได้ทีมงานจากฝรั่งเศสเป็นคนกำกับให้ พอดีเขามาสัมภาษณ์ผมช่วงโควิด และได้มาเป็นเพื่อนกัน พอพูดคุยกันเรื่องเพลง เขาสนใจก็เลยบินมาจากฝรั่งเศส มากำกับ มาเขียนสตอรี่บอร์ดให้กับผมครับ

เห็นว่าสิ้นเดือนนี้จะมีขึ้นโชว์ในงาน Summer Camp Festival ด้วยตื่นเต้นไหม

ตื่นเต้นและพยายามทำใจอยู่ครับ (หัวเราะ) กลัวร้องถูกร้องผิด

ในอนาคตมีแพลนอยากทำ EP Album เป็นของตัวเองไหม

มีครับ จริงๆ ผมทำ EP Album เสร็จแล้ว มีแพลนว่าจะปล่อยหลัง Summer นี้ หรืออาจจะหลังเพลงนี้ครับ

เล่าคอนเซ็ปต์คร่าวๆ  ให้ฟังหน่อยได้ไหมว่าเป็นแบบไหน

ก็มีความสดชื่นครับ มีความแฮปปี้ขึ้น ให้ทุกคนฟังได้ครับ

นอกจาก EP ที่จะปล่อยหลังจากนี้ จะมีผลงานอื่นๆ ให้ติดตามเพิ่มไหม

ก็จะมี EP ที่ผมได้ทำเพลงร่วมกับศิลปินท่านอื่น (Jordan aka GORDY สมาชิกของดูโอ้ Cherub วง Electro/Indie จาก Nashville) แล้วก็มี EP โซโล่ของผมนี่แหละครับ ที่ตั้งใจจะทยอยปล่อยเรื่อยๆ

ในอนาคต ถ้ามีโอกาสได้พาเพลงของเราไปในระดับนานาชาติ อยากจะร่วมงานกับใครเป็นพิเศษไหม

ยังอยากทำเพลงกับวง Cherub ครับ พอดีผมมีโอกาสได้ไปดูเข้าสตูดิโอ ได้เห็นเขาขึ้นคอนเสิร์ต รวมถึงเคยพามาเล่นดนตรีที่ประเทศไทยด้วย เลยรู้สึกชื่นชมในความสามารถของเขาครับ และถ้าได้ไปถึงระดับ Global ก็ดีใจครับ (หัวเราะ) อยากให้คนไทยช่วยดันครับ