ชวนกันตามหาเพื่อนแล้วย้อนวัยกลับสู่ช่วงมัธยมไปกับ Sunny!

ในชีวิตประจำวันของหลายๆคนที่ค่อนข้างวุ่นวาย ไหนจะงานประจำ รถติด ควันพิษ วิกฤตสิ้นเดือนเยอะแยะมากมายไปหมด ในช่วงเวลาเหล่านั้นพอจะมีเวลาให้ย้อนนึกถึงช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตกันบ้างไหมนะ?? ช่วงเวลาที่เราคิดว่ามันมีกฎเกณฑ์มากมายเหลือเกิน ต้องใส่ชุดนักเรียน ต้องทำผมให้ถูกระเบียบ ต้องทำการบ้าน ห้ามไปเรียนสาย ห้ามกลับบ้านดึก และข้อห้ามข้อบังคับอีกมากมายที่เรารู้สึกว่าไม่เป็นอิสระเลยสักนิด แต่ว่าช่วงเวลานั้นกลับมอบความสุขแบบที่ชีวิตอิสระในตอนที่เราโตเป็นผู้ใหญ่และช่วงวัยนี้มันกลับไม่สามารถให้ความสุขแบบนั้นกับเราได้ ใช่แล้วว เรากำลังพูดถึงช่วงมัธยม ช่วงวัยที่เต็มไปด้วยเพื่อนมากมาย ความรักวัยใสหวานชวนเลี่ยน เรื่องราวเหล่านี้เป็นความสุขที่เลือนลางที่เราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปรู้สึกแบบนั้นได้อีก แต่ถ้าหากได้ดูหนังเรื่องนี้ เราคิดว่ามันคงทำให้ความสุขในช่วงวัยนั้นกลับมาชัดเจนยิ่งขึ้นนะ

Sunny หนัง Feel good จากแดนอาทิตย์อุทัยที่ถูกรีเมคมาจากหนังของเกาหลีชื่อเดียวกัน Sunny ในปี 2011 โดยในฉบับรีเมคนี้จะบอกเล่าผ่านชีวิตและมิตรภาพนักเรียนหญิงมัธยมปลายกลุ่มหนึ่งในยุค 90’s ทั้งวัฒนธรรมดนตรี J-Pop แฟชั่นชุดนักเรียนแบบ Kogal เสื้อถัก Ralph Lauren กระโปรงสั้นๆและถุงเท้าย่นๆเล่าผ่านเรื่องราวของ ‘นามิ’ แม่บ้านผู้ยังหาจุดยืนในครอบครัวและชีวิตไม่เจอเนื่องจากครอบครัวที่ต่างคนต่างอยู่สามีทำงานหนักและลูกที่เริ่มโตเป็นสาวก็มีอาการต่อต้านเธอตามสไตล์วัยรุ่นวันหนึ่งเธอได้บังเอิญไปเจอกับ ‘เซริกะ’ เพื่อนรักสมัยมัธยมที่ไม่เจอกันนานกว่า 20 ปีเซริกะป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หายและกำลังจะตายเธอจึงขอร้องนามิว่าเธออยากเจอเพื่อนสมัยมัธยมแก๊งค์ Sunny อีก 4 คนที่เหลืออีกครั้งเรื่องราวที่น่าสะเทือนใจนี้มันเกิดความรู้สึกที่ทำให้เราลุ้นให้นามิตามหาเพื่อนเจอไวๆสักทีนามิจึงต้องทำหน้าที่รวมแก๊งค์ Sunny ให้เพื่อนรัก 6 ชีวิตกลับมาเจอกันอีกโดยตัวหนังมีการย้อนให้ดูเรื่องราวสมัยมัธยมของสาวๆ Sunny ที่ตรงกับยุค 90’s ตรงจุดนี้ทำออกมาได้ดีมากๆทั้งโทนสีของหนังเพลงคอสตูมและอีกหลายๆองค์ประกอบเป็นการเล่าย้อนไป-มาระหว่างความทรงจำในอดีตของแก๊งค์ Sunny ทำให้เห็นภาพความแตกต่างของการมีปฏิสัมพันธ์ของคนทั้งสองยุค ยุคหนึ่งที่โลกยังมีพรมแดนคนใกล้ชิดพูดคุยกันตัดมาอีกยุคที่ถูกเรียกว่าโลกไร้พรมแดนแต่ผู้คนกลับห่างไกลกันเหลือเกินตาไม่ได้มองตาแต่กลับมองจอในมุมนี้ของหนังก็ถือเป็นจุดที่ดีและน่าคิดต่อได้เหมือนกัน

ส่วนพล็อตเรื่องก็ทำได้ดีมากเอามิตรภาพวัยมัธยมมาเล่าได้อย่างใกล้เคียงความเป็นจริงสามารถส่งต่อถึงความรู้สึกผู้ชมได้ง่ายด้วยนักแสดงที่มีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูกและทำหน้าที่ในบทบาทของตัวเองได้เป็นอย่างดีด้วยต่างคาแรคเตอร์ที่มารวมกันเป็นแก๊งค์ Sunny ได้อย่างกลมกล่อมทำให้โดยรวมแล้ว Sunny เป็นหนังที่ดูเพลินดูง่ายได้ความถ้าจะให้จำกัดความของหนังเรื่องนี้ก็คงจะใช้คำว่าง่ายและงามน่าจะชัดเจนที่สุดละล่ะ

Sunny จะเข้าโรงภาพยนตร์ในวันที่ 31 มกราคมนี้ทุกโรงภาพยนตร์มารื้อฟื้นความรู้สึกและความทรงจำช่วงวัยมัธยมไปพร้อมๆกันเถอะ!

ดูตัวอย่างภาพยนตร์ได้ที่นี่

written by  Ittipat Lapawong

Illustration by Sapeenus Chaida

0 replies

Leave a Reply

Want to join the discussion?
Feel free to contribute!

Leave a Reply