‘รอยสัก’ เรื่องต้องห้ามของวงการไอดอลเกาหลี
จะเห็นได้ว่าในปัจจุบัน การสักถือเป็นแฟชั่นที่สามารถแสดงเอกลักษณ์หรือลักษณะของตัวบุคคลได้ เนื่องจากการออกแบบสไตล์หรือลวดลายการสักไม่ได้ถูกจำกัดรูปแบบ อีกทั้งยังมีเหล่าคนดังอีกมากมายทั้งฝั่ง K-POP หรือ Western POP ที่เลือกการสักเป็นแฟชั่นหรือศิลปะประดับอยู่บนร่างกายเพื่อสร้างความมั่นใจหรือจะบันทึกความเป็นตัวเองผ่านการสัก
ถึงแม้จะมีไอดอลหลายคนสัก และในประเทศเกาหลีถือได้ว่ามีไอดอลสักเป็นจำนวนมาก ร้านสักเรียกได้ว่าผุดเป็นดอกเห็ด แต่แล้วทำไมสิ่งนี้ถึงกลายเป็นสิ่งต้องห้ามในประเทศเกาหลีกันล่ะ?
วันนี้เรามาหาคำตอบกัน ว่าจริงๆแล้ว การยอมรับในการสักหรือการเปิดเผยการสักในประเทศเกาหลีมีได้มาก น้อยแค่ไหนNYLON จะพาไปย้อนและเจาะถึงเรื่องราวการสัก ที่ประเทศเกาหลีถือเป็นสิ่งต้องห้ามในสังคมและวงการไอดอล ซึ่งจุดเปลี่ยนของการยอมรับที่ดีขึ้นคืออะไรกันแน่
- What is a Tattoo ?
แรกเริ่มในสมัยประวัติศาสตร์ของชาวกรีก การสักถือว่าเป็นการลงสี หรือทำสัญลักษณ์เพื่อบ่งบอกการเป็นชนชั้นทาสและอาชญากร ในเวลาต่อมาได้แพร่หลายไปสู่ฝั่งยุโรปแต่มักจะได้ข้อติจากสังคมว่าการสักคือการหมิ่นต่อพระเจ้า และในประเทศไทยเมื่อได้รับวัฒนธรรมมาจากชนชาติอื่นยังคงความแบ่งชนชั้น เพราะการสักในประเทศไทยนั้นเป็นการสักที่ข้อมือเรียกว่าการ ‘สักเลข’ เพื่อระบุตนว่าเป็นไพร่หลวง และถ้าหากมีการสักลงบนท้องแขนหรือหน้าผากจะเป็นการระบุว่าผู้นั้นเป็นนักโทษ ซึ่งในสังคมไทยไม่ได้มีการยอมรับเท่าที่ควร อีกทั้งการสักยังถูกแตกแขนงไปยัง ‘การสักเพื่อความเชื่อ’ อีกด้วย
- Turning Point
ในส่วนของการยอมรับในประเทศเกาหลีที่เราจะมาเจาะลึกกันนั้น การสักในประเทศเกาหลีถูกระบุลงในวรรณกรรมประวัติศาสตร์สมัยโครยอ โดยระบุคำว่า 문신 (มูชิน) ที่แปลว่ารอยสัก เป็นสิ่งที่ถูกรับวัฒนธรรมมาจากประเทศจีนและเกาหลีนำมาใช้ในการลงโทษ ในช่วงที่มีสงครามคยองกุก โดยผู้ที่ได้รับโทษจะถูกสักลงบนหน้า
และจากสิ่งที่ถูกตราขึ้นว่าการสักคือการลงโทษหรือถูกมองว่า การสักก็เหมือนเครื่องยืนยันว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่แล้วจุดเปลี่ยนที่ทำให้คนเกาหลียอมรับมากขึ้น เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2546 มีนักฟุตบอลชื่อ ‘อัน จองฮวาน’ ซึ่งเรื่องราวเกิดขึ้นในแมตที่ต้องแข่งกับทีมฟุตบอลจากญี่ปุ่น เขาเผลอถลกเสื้อขึ้นทำให้เห็นรอยสัก โดยขอความนั้น เป็นข้อความที่บอกรักภรรยาของเขา และหลังจากนั้นไม่นาน เหล่าบรรดานักกีฬา ศิลปินหรือคนดังในเกาหลีต่างก็ไปสักและมองว่าสิ่งนี้เป็นแฟชั่น แต่กฎหมายในเกาหลีก็ยังคงถูกกำหนดว่าการสักเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย เพียงแต่จุดผันเปลี่ยนในครั้งนี้ ทำให้เกิดการยอมรับทางสังคม ที่เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นจากเดิม
- South Korea’s Tattoo Artists Seek Legalisation
ซึ่งในปัจจุบันการสักเริ่มเปิดกว้างในการยอมรับทางสังคมมากขึ้น แต่ก็ยังถือเป็นอาชีพที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากกฎหมายของประเทศเกาหลีระบุว่า การสักถือเป็นการใช้เข็ม ผู้ที่ประกอบอาชีพนี้ต้องได้รับใบประกอบอาชีพท์แพทย์เท่านั้น
ทำให้ผู้ที่ประกอบอาชีพช่างสักที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพเนื่องจากกฎหมายที่ซับซ้อนและครุมเครือ จึงทำให้ร้านสักทั่วทุกมุมในประเทศเกาหลีที่เปิดกันแบบลับๆ ‘Underground’ หรือผิดกฎหมายนั่นเอง แต่ด้วยฝีมือของช่างสักหลายๆคนและการโปรโมทผ่านโซเชียลในทาง บล็อคหรืออินสตราแกรม ทำให้มีลูกค้าทั้งในประเทศและต่างชาติให้ความสนใจ กลับกลายเป็น วงการสักสร้างรายได้ให้กับประเทศและมีช่างสักหลายๆคนเรียกร้องและต้องการให้ ศิลปะการสักถูกกฎหมายและไม่มีความคลุมเครือ ซึ่งในส่วนกฎหมายแพ้ประเทศในแถบตะวันตกหลายๆประเทศทีมีการพัฒนาขึ้น ทำให้การสักถูกยอมรับทางกฎหมายว่าเป็นกิจกรรม หรืองานศิลปะที่คนทั่วไปสามารถทำได้ เมื่อได้สอบหรือได้รับการยืนยันประกอบอาชีพนั่นเอง
- Why Tattoos Are So Popular
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสิ่งที่ทำให้การสักได้รับความนิยมหมู่มาก เกิดจากเซเลบริตี้ คนดัง ทั้งในฝั่งไอดอล K-pop และนักกีฬา ทำให้สิ่งนี้เป็นเทรนด์และถูกกระจายเป็นวงกว้าง ยิ่งทำให้วงการสักของเกาหลีได้รับความนิยมมากขึ้น
- K-Pop Idol with Secret Hidden Tattoo
แต่แล้วยังไงล่ะ ในเมื่อการได้รับความนิยมของการสัก สวนทางกับกฎหมายในประเทศ ทำให้คนดังในแวดวงการเกาหลีต้องปกปิดรอยสักเมื่อเขาต้องออกอากาศในช่องทางสื่อหลักของประเทศ จะเห็นได้ว่าเมื่อไอดอลต้องขึ้นสเตจรายการเพลง รอยสักของพวกเขาจะถูกปิดทับด้วยสก็อตเทป ซึ่งในส่วนนี้มีนักวิชาการได้กล่าวว่าการที่ทางช่องหลักต้องใช้เทปปกปิดรอยสักเพื่อป้องกันการฟ้องร้อง หรือข้อหมิ่นเหม่จากกฎหมายในภายหลัง
- Tattoo Design Styles
หลังจากที่ทำความเข้าใจไปกับเรื่องราวการสักแล้ว เรามาส่องดูสไตล์การสักกันบ้าง ซึ่งจริงๆแล้วการสักไม่ได้มีการจำกัดสไตล์ที่ขัดเจน แต่เปลี่ยนแปลงไปตามเทรนด์ซะมากกว่า
- Tribal
https://www.instagram.com/p/CLrqKtzjCAW/
https://www.instagram.com/p/CL3iXnllZE-/
- Thin Frame
https://www.instagram.com/p/CKMJjAUlytV/
https://www.instagram.com/p/CLt14d5gjyD/
- Blacklight
https://www.instagram.com/p/B2Y5dTzBBLi/?igshid=1v60d5ygzhgfl
- Minimal
https://www.instagram.com/p/CLmbivQB59U/?utm_source=ig_web_copy_link
https://www.instagram.com/p/CLt4HKKlmHZ/?igshid=1exhjfqlxl133
- Single line
https://www.instagram.com/p/CIp_HyHFQmM/?utm_source=ig_embed
https://www.instagram.com/p/CHfGC4lDh0b/?utm_source=ig_embed
- Watercolor , Paint swatches
https://www.instagram.com/p/CGR-9ACFAeU/?utm_source=ig_embed
https://www.instagram.com/p/CLu8L5uB6Rs/
- Fine art motifs
https://www.instagram.com/p/CFb2_wHph37/?utm_source=ig_embed
- Meaningful Tattoos
นอกจากรอยสักจะบ่งบอกเอกลักษณ์ความปัจเจกในการออกแบบของบุคคลแล้ว ความหมายและสัญญะของการสักในแต่ละบุคคลก็ยังต่างกันด้วยนะ ลองมาดูกันดีกว่าว่ามีไอดอลคนไหนบันทึกความหมายของรอยสักตัวเองว่าอะไรบ้าง
มาที่คนแรก Johnny NCT รอยสักของเขามีหลายตำแหน่งแต่ที่ถูกเปิดเผยความหมายคือรอยสัก ‘Sunflower’ ที่เป็นรูปดอกทานตะวันที่จะช่วยเป็นเครื่องย้ำเตือนให้เขาคิดในแง่บวกอยู่เสมอ
รอยสักของ Soojin G-idle มีตั้งแต่ช่วงที่เธอเดบิวต์ โดยข้อความที่เธอสักคือ “self love is the best love.” นั่นก็คือการรักตัวเองและไม่สนใจข้อความแง่ลบจากชาวเน็ต
ศิลปินสาวสุดแซ่บอย่าง HyunA สักข้อความที่บอกรักคุณแม่ โดยมีข้อความว่า “แม่ของเธอคือหัวใจสำคัญที่ทำให้เธอมีชีวิต”
หนุ่ม Chanyeol Exo มีรอยสักที่แสดงถึงความรักที่มีต่อแฟนคลับด้วยข้อความ ‘L-1485’ ที่หมายถึงวันที่กำหนดชื่อแฟนคลับของเขา เป็นการแสดงความรักถึงแฟนคลับด้วยใจจริง
Taeyeon มีรอยสักเล็กๆหลายตำแหน่งแต่ในส่วนที่แสดงความเป็นเธอมากที่สุดคือข้อความ ‘serenity’ ที่แสดงถึงความสงบ โดยเน้นที่อักษร TY ซึ่งเป็นชื่อของเธอนั่นเอง
G-dragon หรือควอนจียงเป็นศิลปินสายอาร์ตที่บันทึกความรู้สึกของเขาผ่านรอยสัก ซึ่งรอยสักที่เป็นการแสดงออกและมีแรงบันดาลใจมาจาก Keith Haring ศิลปินกราฟฟิตีชาวอเมริกันรอยสักมีความเกี่ยวข้องกับสาเหตุของการเคลื่อนไหวทางสังคมรวมถึงการสนับสนุนชุมชน LGBTQ + การต่อต้านสงครามนิวเคลียร์และการยุติการเหยียดเชื้อชาติ
Written by Vichanat Phairoj