TYTAN: #ลูกชายคนใหม่ ที่อยากทำเพลงให้เป็นตัวเชื่อมระหว่างแฟนๆ

หลังจากที่ค่าย 411 Music  เปิดตัวลูกสาวทั้ง Ally และสามสาวเกิร์ลกรุ๊ป AR3NA ไปแล้วเมื่อปี 2020 และ 2021 ปี 2022 นี้ก็ถึงเวลาที่ค่าย 411 Music แล้วที่จะเปิดตัวศิลปินชายคนแรกของค่าย ในฐานะของ #ลูกชายคนใหม่ กับ TYTANไทแทน ทีปประสาน” เด็กหนุ่มที่รักเสียงดนตรี และอยากบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความสุข ความรัก หรือแม้แต่ประสบการณ์ชีวิตผ่านเพลงของตัวเอง

เราอาจจะเคยเห็น TYTAN ผ่านผลงานการแสดงอย่าง อัศจรรย์คุณครูเทวดา (2015), Water Boyy: The Series (2017) Please…เสียงเรียกวิญญาณ (2017) หรือ Blacklist: The Series (2019) กันมาบ้าง รวมไปถึงปล่อยเพลง อ้อมกอด ในปี 2020 ก่อนที่จะหายหน้าหายตาไปและกลับมาอีกครั้งพร้อมกับบทบาทใหม่ จากนักแสดงสู่ศิลปินที่ไปหาประสบการณ์และฝึกฝนอย่างจริงจังกันถึงประเทศเกาหลีใต้กว่า 2 ปี จนได้ซิงเกิลแรกอย่าง All Night (feat.Loco) ที่ปล่อยมาให้ได้ฟังกันเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา

NYLON ชวนทุกคนมาคุยกับ #ลูกชายคนใหม่ ของบ้าน 411 Music ถึงเส้นทางการเป็นศิลปินและซิงเกิลแรกของเขากัน

เล่าเรื่องการเทรนที่เกาหลีให้ฟังหน่อยว่าเป็นอย่างไรบ้าง

TYTAN: มีการฝึกร้อง ฝึกเต้น แล้วก็มี Studio Session ครับ คือทำเพลงกับโปรดิวเซอร์ ทีมงานจะค่อนข้างเข้มงวด มีตารางซ้อมให้เกือบทุกวัน เราก็ทำตามตาราง แต่ว่าสนุกครับ เพราะเป็นงานที่รัก อยากทำมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ

ต้องเรียนรู้อะไรบ้าง

TYTAN: แน่นอนว่าต้องเรียนก็มีทักษะร้อง เต้น ทำเพลง แต่รู้สึกว่าสิ่งที่เราเรียนรู้ มันไม่ได้มีแค่สิ่งที่เขาสอนครับ พอเราได้ไปอยู่ประเทศใหม่ๆ เจอวัฒนธรรมใหม่ๆ เราก็จะได้ซึมซับทัศนคติจากทีมที่เชี่ยวชาญจากเกาหลีด้วย ก็พยายามจะเก็บเกี่ยวทุกอย่างที่เอามาทำให้เราพัฒนาตัวเองได้ครับ

ผ่านงานบันเทิงมาหลายอย่างแล้ว ทำไมสุดท้ายถึงปักหลักที่การเป็นศิลปิน

TYTAN: จริงๆ แล้วผมไม่เคยหยุดทำเพลงตั้งแต่เด็กเลยครับ เริ่มเขียนเพลงครั้งแรกตอนอายุ 11 ปี แล้วก็ทำเพลงมาเรื่อยๆ บอกตัวเองมาตลอดว่า เรายังไม่เก่งพอนะ เราอยากเก่งขึ้นอีกเรื่อยๆ จนได้รับโอกาสไปเทรนที่เกาหลีครับ กว่าจะปล่อยซิงเกิ้ลเปิดตัว “All Night” มาได้กับทาง 411Music ก็ฝึกเขียนเพลงมา 10 กว่าปีได้เลย เพราะไม่เคยหยุดทำ

จริงๆ แล้วผมเป็นคนที่ติดตามศิลปินเยอะมากๆ แทบทุกแนวเพลง หลากหลายชาติมากๆ เพราะผมรู้สึกว่าการเป็นตัวเอง มันมีแค่เราคนเดียวที่เป็นได้ครับ เพราะฉะนั้นแต่ละคนก็จะมีข้อดีหรือจุดแตกต่างเป็นของตัวเอง ผมก็พยายามดูว่า ผมชอบอะไรของศิลปินคนนั้น ชอบอะไรของของคนนี้ แล้วผมก็พยายามจะรวมเอาสิ่งที่ชอบมาทำให้ตัวเราเป็นศิลปินในแบบที่เราอยากเป็นครับ

ทำไมถึงรู้สึกว่าอยากเป็นศิลปิน อะไรที่ทำให้เริ่มเขียนเพลง

TYTAN: ไม่ทราบเลย ทุกอย่างเป็นธรรมชาติมาก … จริงๆ ก็คงเริ่มจากที่เล่นดนตรีเป็นเพราะเรียนเปียโนตั้งแต่ 3 ขวบ แต่ว่าการเขียนเพลงนี่คืออยู่ดีๆ ผมก็คิดคอร์ดขึ้นมาได้ แล้วก็ลงมือเขียนเนื้อเพลงเดี๋ยวนั้นเลย โดยที่ ไม่ได้มีความคิดว่าอยากจะทำเพลง แต่อยู่ดีๆ มันออกมาโดยธรรมชาติเองครับ แล้วก็รู้สึกเป็นสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุข เราคิดอะไร หรือเราเครียด เราเก็บกด แต่รู้สึกว่าพอมาทำสิ่งนี้แล้วเราได้ระบายออกมา มันทำให้เรามีความสุขครับ

เพลงที่แต่งเอาไว้ ได้หยิบมาใช้ด้วยไหม

TYTAN: เดี๋ยวต้องรอในอนาคตครับ เพราะว่าก็ทำเพลงไว้เยอะพอสมควรเลยครับ แล้วก็มีหลายแนวด้วยที่อยากมานำเสนอทุกคน เพราะผมรู้สึกว่าเพลงนึงมันอาจจะไม่พอที่จะบ่งบอกตัวตนของผมได้ทั้งหมดครับ

กว่าจะมาถึงตรงนี้ เคยรู้สึกท้อหรือเหนื่อยบ้างไหม

TYTAN: ไม่เชิงท้อ แต่ว่าเหมือนผมเป็นคนที่กดดันตัวเองครับ รู้สึกว่าจะทำงานได้ดีในแรงกดดันครับ …อาชีพนี้ก็เป็นอาชีพที่มีความกดดันอยู่แล้วครับ แต่ส่วนตัวเรารู้สึกว่าเราสามารถเอาความกดดันมาใช้เป็นประโยชน์ให้กับเราได้ สามารถผลักดันตัวเองเพื่อให้มีผลงานดีๆ ให้ทุกคนได้ติดตามกันครับผม

ถ้าอย่างบางคนกดดันตัวเองมากๆ ก็จะรู้สึกเครียด เป็นบ้างไหม

TYTAN: จริงๆ เครียดก็เครียดบ่อยครับ แต่พอผมทำเพลงแล้วรู้สึกว่าเพลงนี้เราพัฒนาจากเพลงก่อนนะ แค่นั้นก็หายเครียดเลยครับ ความเครียดก็จะหายไป ในเมื่อเรามีผลงานที่เราวัดได้ เรารู้สึกว่าเราเก่งขึ้นจากเราวันก่อน แค่นั้นก็รู้สึกดีขึ้นแล้วครับ

มีใครเป็นแรงบันดาลใจในการเดินเส้นทางนี้ไหม

TYTAN: จริงๆ แล้วผมเป็นคนที่ติดตามศิลปินเยอะมากๆ แทบทุกแนวเพลง หลากหลายชาติมากๆ เพราะผมรู้สึกว่าการเป็นตัวเอง มันมีแค่เราคนเดียวที่เป็นได้ครับ เพราะฉะนั้นแต่ละคนก็จะมีข้อดีหรือจุดแตกต่างเป็นของตัวเอง ผมก็พยายามดูว่า ผมชอบอะไรของศิลปินคนนั้น ชอบอะไรของของคนนี้ แล้วผมก็พยายามจะรวมเอาสิ่งที่ชอบมาทำให้ตัวเราเป็นศิลปินในแบบที่เราอยากเป็นครับ

การทำงานกับทีมเกาหลีและ “Loco” เป็นอย่างไรบ้าง

TYTAN: พูดถึง Loco ก่อนแล้วกันครับ ผมเป็นแฟนเพลงของเขาอยู่แล้ว อย่างที่ผมบอกว่าผมติดตามเพลงหลากหลายชาติมาก แล้วก็หลากหลายแนวครับ นี่ก็เป็นหนึ่งในแนวที่ผมชอบที่สุดก็คือแร็ปเปอร์ครับ ก็ติดตามฮิปฮอปมานานพอสมควร ผมเป็นแฟนเพลงของเขาอยู่แล้ว พอได้ทราบว่ามีโอกาสร่วมงานกัน มันดีใจเหมือนฝันเป็นจริง เพราะว่าพูดตรงๆ ว่าตั้งแต่เขียนเพลงตอนอายุ 11 ปี ก็ไม่คิดว่าจะได้ร่วมงานกับศิลปินระดับนี้ของเกาหลีครับ

อีกอย่างหนึ่งคือผมโชคดีมากคือได้เจอโปรดิวเซอร์ที่เข้ากันมาก ไม่ว่าจะเรื่องแนวเพลง ทัศนคติ หรือแม้กระทั่งนิสัย ชีวิตประจำวัน ทำให้ทำงานกันได้ราบรื่นมากครับ เหมือนทำงานกับพี่ชาย ทำให้งานคลิ๊กมากๆ เลยครับ พอเราเข้าใจอะไรหลายๆ อย่างกันแล้ว มันไม่ต้องอธิบายครับ เขาพูดมาก็เข้าใจเลย ไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติม

ผมอยากทำให้เพลงเป็นตัวเชื่อมระหว่างผมกับแฟนๆ ครับ และอีกหน่อย ถ้ามีเพลงหลายๆ แนว หลายๆ เนื้อหามากขึ้น ผมเชื่อว่าคนก็จะเข้าถึงผม และเห็นผมในมุมอื่นๆ ด้วยครับ

แล้วการถ่ายทำ MV “All Night” เป็นอย่างไรบ้าง

TYTAN: กองถ่าย MV เหรอครับ จริงๆ ตอนนั้นสิ่งแรกที่จำได้คือหนาวครับ (หัวเราะ) เพราะว่าเป็นคนขี้หนาวมาก แล้วก็เป็นช่วงเดือนที่หนาวที่สุดในเกาหลี มีถ่ายนอกสตูดิโอด้วยและชุดก็ไม่ได้หนามาก แต่ผมประทับใจนะ เพราะผมคิดว่าผมหนาวแล้ว พี่ๆ ตากล้องก็คงต้องหนาวเหมือนกัน แล้วเขาก็ตั้งใจทำงานกันมากๆ เพื่อให้งานออกมาดีครับ แล้วก็ประทับใจเพราะเป็นครั้งแรกที่ถ่าย MV ที่เกาหลีครับ อ้อ ได้เจอ Loco เป็นครั้งแรกด้วยครับตอนถ่าย MV เขาน่ารักมากๆ เป็นกันเองมากๆ เลยครับ เราเห็นเขาแต่ในจอมาก่อน แล้วพอมาเจอตัวจริงก็เขินครับ (หัวเราะ) แล้วก็ดีใจด้วย

อยากให้แฟนเพลงได้รู้จักตัวเราในแบบไหน

TYTAN: ถ้าอย่างซิงเกิลเปิดตัว “All Night” ก็จะเป็นเพลงสนุกๆ เต้นตามกันได้ ฟังง่ายครับ เป็นมุมเชิงบวก เป็นมุมเวลาเราตกหลุมรักใครสักคนแล้วเราอยากดูแลเขา เราอยากเต้นกับเขาทั้งคืน เราอยากมีความสุขแต่ว่านี่อาจจะเป็นแค่มุมเล็กๆ มุมหนึ่งของผมนะครับ ก็อยากให้ติดตามผลงานอื่นๆ ด้วย เพราะผมอยากทำให้เพลงเป็นตัวเชื่อมระหว่างผมกับแฟนๆ ครับ และอีกหน่อย ถ้ามีเพลงหลายๆ แนว หลายๆ เนื้อหามากขึ้น ผมเชื่อว่าคนก็จะเข้าถึงผม และเห็นผมในมุมอื่นๆ ด้วยครับ

สุดท้าย การที่ได้ก้าวเข้ามาเป็นศิลปินเต็มตัว สอนอะไรกับเราบ้าง

TYTAN: ผมรู้สึกว่าทุกวันมันมีอะไรที่สอนผมครับ เพราะอย่างการทำเพลงตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่ฝึกใช้โปรแกรม ฝึกเขียนเพลงหลายๆ อย่าง ทำให้เรารู้ว่างานนี้เป็นงานที่ไม่มีที่สิ้นสุดครับ หมายถึงว่าเราสามารถค้นคว้าหาความรู้ให้ตัวเองได้เรื่อยๆ เลยครับ มันไม่มีวันหยุด สามารถพัฒนาตัวเองไปได้เรื่อยๆ สามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปได้เรื่อยๆ เพื่อให้เราได้เป็นศิลปินที่ดีขึ้นได้ทุกวันเลยครับ

 

Model: TYTAN
Clothes: Zegna
Stylist: Pitipong Pongdam
Assistant  stylist: Supitcha Sangkhachinda
Photographer: Sereechai Puttes
Assistant photographer: Ratchaphak Sangmeesinsakul, Kwanchai Julwaraporn
Interviewer: Nichkamon Boonprasert