4 สกินแคร์ที่ไม่ควรใช้ด้วยกัน ถ้าไม่อยากหน้าพังต้องรีบดู!

หากพูดถึงการมีผิวที่สวย เนียน กระชับ ฉ่ำวาว เต่งตึงอย่างไร้ที่ติ เพื่อนๆ หลายคนคงนึกถึงการใช้สกินแคร์บำรุงผิวเป็นประจำเช้า-เย็น หรือการทาครีมกันแดดเป็นประจำสม่ำเสมออย่างแน่นอน โดยเฉพาะช่วงนี้ที่หลายๆคนต้อง Work From Home และไม่ค่อยได้ออกไปไหน หลายๆ คนก็ใช้ช่วงเวลานี้เป็นการพักหน้าจากเมคอัพและหันมาใส่ใจกับไอเท็มสกินแคร์และการดูแลผิวกันอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังได้ลองหาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มาเพิ่มใน Skincare Routine ของตัวเองด้วย แต่บางคนกลับพบว่า ทำไมยิ่งใช้หน้ายิ่งแพ้ ยิ่งอ่อนแอ หรือบางคนจากที่ไม่เคยเป็นสิว กลับเจอสิวขึ้นบนใบหน้าโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งเพื่อนๆ รู้ไหมว่าบางทีอาการเหล่านี้อาจมาจากผลิตภัณฑ์ที่เราใช้อยู่เป็นประจำทุกวันก็เป็นได้ วันนี้ NYLON จะพาทุกคนมาดูส่วนผสมในสกินแคร์ที่ไม่ควรใช้คู่กันมาให้ดูล่ะ ถ้าใครกำลังเจอปัญหาผิวที่หาที่มาที่ไปไม่ได้อยู่ ต้องตามมาดูกันเลยว่าเราใช้ส่วนผสมเหล่านี้คู่กันอยู่หรือเปล่า ก่อนจะหน้าพังไปมากกว่านี้ 

 

  • เครื่องล้างหน้า กับ สครับผิว

มาแรงไม่หยุดกับเทรนด์การใช้เครื่องล้างหน้า อย่างที่หลายคนรู้กันว่าการใช้เครื่องล้างหน้านั้นจะช่วยให้การล้างหน้าของทุกคนสะอาดล้ำลึกกว่าเดิม เหมือนกับผลิตภัณฑ์สครับที่จะช่วยล้างสิ่งสกปรกออกจากใบหน้า ถ้าหากเราใช้สองอย่างนี้พร้อมๆ กันต้องสะอาดคูณสองแน่ๆ! ถ้าใครคิดแบบนี้ขอให้หยุดความคิดเอาไว้ก่อนเลยจ้ะ รู้ไหมว่าการใช้เครื่องล้างหน้าคู่กับสครับนั้น เป็นการทำร้ายผิวหน้าอย่างหนักหน่วงและเป็นการผลัดเซลล์ที่มากเกินไป ซึ่งจะทำให้หน้าของเรานั้นบอบบางและระคายเคืองเป็นอย่างมาก ฟังดูแล้วไม่ค่อยดีเลย ดังนั้น NYLON จึงไม่แนะนำให้ทุกคนใช้เครื่องล้างหน้าคู่กับสครับนะจ๊ะ เลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งดีกว่า ยังไงก็ช่วยทำให้หน้าของเราสพอาดได้เหมือนกัน แอบกระซิบว่าแค่การใช้เครื่องล้างหน้าเพียงอย่างเดียวก็ช่วยให้ผิวหน้าสะอาดกว่าการล้างหน้าแบบปกติแล้ว เหมือนเป็นการสครับอ่อนๆ ไปในตัวเลยแหละ

  • Retinol กับ chemical Exfoliants

หลายๆคนอ่านมาถึงตรงนี้อาจจะงงว่าเจ้า Chemical Exfoliants นี่มันคืออะไร ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย อธิบายกันให้เข้าใจกันง่ายๆ ก็คือส่วนผสมที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวแทนการใช้เม็ดสครับแบบที่เราคุ้นชินกันนั่นแหละ หรือที่เราได้ยินกันบ่อยๆ ในชื่อของ “กรด AHA และ BHA” นั่นเอง ซึ่งเป็นส่วนผสมหลักที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดการอุดตันในรูขุมขน เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาสิวมากๆ เลย

มาพูดถึงเจ้าตัว AHA และ BHA กันบ้างดีกว่า AHA (Alpha Hydroxy Acid) นั้นเป็นกรดมาจากธรรมชาติ เช่น กรดซีตริก (Citric Acid) ที่มาจากผลไม้รสเปรี้ยวเช่น มะนาวหรือส้ม หรือกรดแลคติก (LActic acid) ที่มาจากนมเปรี้ยวนั่นเอง ส่วนตัว BHA (Beta Hydroxy Acid) หรือที่รู้จักอีกชื่อนึงคือกรด Salicylic ซึ่งเป็นกรดจากธรรมชาติอีกเช่นกัน แต่มีความทนทานมากกว่าและสามารถละลายได้ในน้ำมัน ดังนั้น BHA จึงมีประสิทธิภาพในการเข้าไปกำจัดน้ำมันส่วนเกินที่อุดตันอยู่ในรูขุมขนของเราเพื่อไม่ให้เกิดการอุดตันที่จะนำไปสู่การเป็นสิวนั่นเอง

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมของ Chemical Exfoliants

 

ในส่วนของ ‘Retinol’ หรือ ‘เรตินอล’ เป็นส่วนผสมที่เรามักจะพบเจอในสกินแคร์ประเภท ลดเลือนริ้วรอย (Anti-Aging) ซึ่งเรตินอลนั้นมีหน้าที่ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเช่นเดียวกับ AHA และ BHA ถ้าเกิดเราใช้สองชนิดนี้พร้อมกัน จะทำให้ผิวของเรานั้นผลัดเซลล์ตัวเองมากเกินไปจนเกิดการระคายเคือง แสบคัน และทำให้ผิวบางได้

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมของ Retinol

 

อ่านถึงตรงนี้แล้วหลายคนอาจจะคิดว่าคงต้องเลือกใช้สักอย่างสินะ NYLON บอกเลยว่า ไม่จำเป็นต้องเลือก! ถ้าเรามีผลิตภัณฑ์ทั้งสองอย่างนี้ก็ไม่ต้องตัดใจทิ้งอะไรไป แต่เราแค่ใช้ทั้งสองตัวนี้สลับวันกันก็หมดปัญหาแล้วจ้า

 

  • Acne treatment กับ Chemical exfoliants

เวลาพูดถึง acne treatment คงนึกถึงยาทาสิว ครีมแต้มสิว หรือ Spot Treatment ที่ใช้เฉพาะบริเวณสิว แต่จริงๆ แล้ว Acne Treatment ยังหมายถึงสกินแคร์ทั่วไปที่เราใช้กันอีกด้วย โดยสกินแคร์ที่จัดอยู่ในหมวด Acne Treatment นั้นจะมีส่วนผสมหลักๆ คือ Salicylic Acid (BHA) หรือ Benzoyl Peroxide ซึ่งเป็นส่วนผสมหลักที่ช่วยดูแลสิว ลดการอักเสบของสิวได้ดี ถือว่าเป็นฮีโร่ในการกู้ผิวจากสิวเลยก็ว่าได้ พบได้ตั้งแต่โฟมล้างหน้าจนถึง เซรั่ม และ ครีมทั่วไป

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมของ Acne Treatment

 

นอกจากนั้น คนที่มีปัญหาสิวหลายคนก็พยายามไปตามหาสกินแคร์ต่างๆ ที่มีรีวิวว่าช่วยรักษาสิวได้ดีบ้าง ช่วยรักษาอาการแพ้บ้าง มาใช้ควบคู่กับ Acne Treatment ที่ตัวเองมี และหวังผลว่าจะช่วยแก้ปัญหาสิวได้เร็วขึ้น แต่ผลิตภัณฑ์หลายตัวนั้นมีส่วนผสมของ AHA และ BHA อยู่ ซึ่งเป็น Chemical Exfoliants ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว และโดยเฉพาะเจ้าตัว BHA ที่มีคุณสมบัติช่วยลดการอุดตันในรูขุมขนด้วยนั้น หากเราใช้สิ่งเหล่านี้ควบคู่ไปกับ Acne Treatment ที่มีอยู่แล้ว อาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง อักเสบและแสบร้อนอย่างมากจนอาจทำให้สิวที่เป็นอยู่แย่ลงกว่าเดิมได้ 

 

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมของ Chemical Exfoliant

 

พูดง่ายๆ เหมือนเรากำลังใช้ส่วนผสมที่เป็นกรดมากเกินไปกับผิวของเรา โดยเฉพาะบริเวณสิวที่อักเสบอยู่แล้ว ทำให้สิวยิ่งอักเสบมากขึ้นไปอีกนั่นเอง ดังนั้นหากต้องการจะใช้ก็ควรใช้สลับกันวันเว้นวัน อย่าใช้พร้อมกันเช่นเดียวกันกับ Retinol กับ Chemical Exfoliants 

 

  • Vitamin C กับ chemical exfoliants 

วิตามินซีเป็นกรดชนิดหนึ่งและเป็นหนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยปกป้องผิวไม่ให้หย่อนคล้อย และเป็นตัวช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวที่มีส่วนช่วยให้ผิวเต่งตึง กระชับ เรียบเนียนไร้ริ้วรอย แต่เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด เราก็ควรใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซีควบคู่ไปกับครีมกันแดดด้วยนะ การใช้วิตามินซีคู่กับครีมกันแดดจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดได้ดียิ่งขึ้น หากใช้แต่วิตามินซีอย่างเดียว เจ้าตัววิตามินซีนั้นจะถูกทำลายและสลายหายไปภายใต้แสงแดดทันที 

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของVitamin C

สำหรับใครที่กำลังใช้สกินแคร์อื่นๆ ที่มีส่วนผสมของ AHA และ BHA ร่วมด้วยนั้นควรจะต้อลองเปลี่ยนไปใช้ตัวอื่นแทนก่อนแล้วล่ะ เพราะว่าเรากำลังใช้กรดควบคู่กันอยู่ซึ่งอาจมีผลทำให้ผิวของเราเกิดการระคายเคือง หรือเกิดอาการแพ้ขึ้นได้ นอกจากนั้นประสิทธิภาพความเป็นกรดของ AHA และ BHA นั้นสามารถไปทำลายคุณสมบัติต่างๆ ของวิตามินซีได้ ทำให้วิตามินซีนั้นไม่สามารถเข้าไปบำรุงผิวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกด้วย หรือถ้ายังไม่อยากซื้อสกินแคร์ตัวใหม่ก็ลองเปลี่ยนขั้นตอนการใช้แทน อาจจะใช้วิตามินซีควบคู่กับครีมกันแดดในตอนเช้า และขยับเจ้า AHA และ BHA ไปใช้ในตอนกลางคืนแทน แค่นี้เราก็สามารถใช้ทั้งสองตัวอย่างต่อเนื่องได้แล้ว

 

  • Face oil กับ Hyaluronic Acid

อ่านมาถึงหัวข้อนี้คงกำลังไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงไม่ควรใช้ด้วยกันล่ะ เพราะ Face Oil หลายๆ ยี่ห้อก็มี Hyaluronic Acid ผสมอยู่ ซึ่งเจ้าตัว Hyaluronic Acid ยังมีหน้าที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวอิ่มฟู เหมือนดื่มน้ำวันละ 8 แก้วเลยล่ะ แถมยังเหมาะกับทุกสภาพผิวอีกด้วย อีกทั้ง Hyaluronic Acid เนี่ย ยังเป็นส่วนประกอบในสกินแคร์มากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งใน ‘น้ำตบ’ ‘เซรั่ม’ และ ‘มอยเจอร์ไรเซอร์’ ที่หลายๆ คนใช้กัน 

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Hyaluronic Acid

 

จริงๆ แล้วเกี่ยวกับขั้นตอนการใช้ต่างหากล่ะ ถ้าเราใช้ผิดขั้นตอน หรือสลับขั้นตอนกัน อาจทำให้ผิวเกิดการอุดตัน หรือ เจอกับปัญหาครีมไม่ซึมลงผิวได้ ดังนั้น ถ้าหากเราจะใช้ Hyaluronic Acid กับ Face Oil เราควรใช้ Hyaluronic Acid ก่อน ไม่ว่าจะเป็น น้ำตบ เซรั่ม หรือครีม แล้วค่อยปิดท้ายด้วย Face Oil เพียงเท่านี้ก็หมดกังวลได้เลย

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ Face Oil

รู้อย่างนี้แล้ว อย่าลืมเช็กส่วนผสมให้ดีก่อนใช้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวของเราถูกทำร้าย ซึ่งต้องย้ำเลยว่าเหล่าสกินแคร์ที่ยกตัวอย่างมาข้างต้นไม่ได้แปลว่าไม่ดี หรือไม่ควรใช้นะ แต่เราควรจับคู่และเลือกใช้สกินแคร์ให้ถูกต้อง เหมาะสม เผื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับผิวเราเองต่างหาก ผลิตภัณฑ์หลายตัวข้างบนนั้นเราบอกเลยว่า ถ้าใช้ถูกต้องล่ะก็ ผิวจะดูสวย สุขภาพดี จนใครๆ ต้องอยากใช้ตามแน่นอน!

เขียน: Nirattisai Kasiwat

 

References

https://www.everydayhealth.com/skin-beauty/skin-care-ingredient-combinations-that-dont-mix/ 

https://www.allure.com/story/skin-care-ingredients-should-not-mix

https://youtu.be/fdwsekd6jzQ