ไขข้อข้องใจ ชอบย้อนกลับไปฟังเพลงเก่า นี่เรายังยึดติดกับอดีตอยู่ไหมนะ?

เชื่อว่าใครหลายคนยังคงฟังเพลงเก่าๆอย่างยุค 90’s กันอยู่บ้าง ไม่ว่าเพลงไทย เกาหลี และสากล ถึงแม้ว่าในยุคปัจจุบันจะมีเพลงใหม่ๆออกมาให้ได้ฟังกันทุกวันหรือทุกสัปดาห์อยู่มากมาย แต่เราก็ยังคงที่จะโหยหาเพลงเก่าๆที่เราชอบ ทำนองที่เราคุ้นเคย หรือเพลงฮิตติดหูในอดีต บางทีก็เกิดคำถามกับตัวเองขึ้นว่า “เพลงใหม่มันอาจจะสู้เพลงเก่าๆไม่ได้หรือเปล่า?” หรือเป็นที่รสนิยมในการเลือกที่จะฟังเพลงของตัวเองมากกว่า

ถ้าพูดถึงบทเพลงยุค 90’s ในประเทศไทยที่มีเพลงฮิตโด่งดังกันมากมาย อาจจะเพราะว่ายุคนั้นเป็นยุคที่มีค่ายเพลงดังๆ และคุณภาพในการผลิตเพลงออกมากก็เทียบเท่ากันไปหมด ทำให้ผู้ฟังเพลงสามารถเลือกฟังได้ทุกๆ ค่าย รวมถึงการเข้าถึงและรู้จักเพลงที่มีทำนอง เนื้อร้อง ที่ติดหูง่ายกว่าสมัยนี้ และด้วยช่องทางในการฟังเพลงในสมัยก่อนอาจจะมีไม่มากนัก มีเฉพาะ TV  วิทยุ และเทป ที่เป็นตลับเท่านั้นทำให้มีความคลาสิคมากกว่าในยุคปัจจุบันนี้มากๆที่เพียงแค่เปิดอินเตอร์เน็ตก็สามารถเจอเพลงต่างๆ

ซึ่งในปี 2020 ที่ผ่านมาก็มีศิลปินไทยหลายๆคนที่มีการหยิบเพลงในยุค 90’s มาทำการ Remake เป็น เวอร์ชั่นใหม่ของตัวเอง ให้ฟังง่ายเข้ากับยุคในปัจจุบันปัจจุบันแต่ยังคงมีกลิ่นอายความความ 90’s ไว้อยู่ เช่น นักร้องสาว แอลลี่ อชิรญา นิติพน ที่ได้นำเพลงป็อปจากปลายยุค 90 อย่างเพลง “ผ้าเช็ดหน้า” ของ
ดูโอ้สาว Triumphs Kingdom ที่ใครหลายคนก็ต้องร้องและเต้นตามกันได้ หรือจะเป็นเพลงหนุ่ม นนท์ ธนนท์ ที่ได้นำเพลง “หมื่นคำลา” ของ ฝันดี-ฝันเด่น มาร้องในเวอร์ชั่นของตัวเอง เป็นต้น


มาพูดถึงเพลงจากฝั่งเอเชียกันบ้างอย่างประเทศเกาหลีใต้ที่มีเพลงฮิตติดชาร์ตที่ดังมากมายในปี 2009 ซึ่งบางเพลงในยุคนั้นยังคงอยู่ความทรงจำของใครหลายๆคนที่ทำให้คิดถึง ทำนอง ท่าเต้น หรือแม้กระทั่งชุดต่างๆ ที่เราแต่งตัวตามศิลปินไม่ว่าจะเป็นกางเกงแฟชั่นหลากสีสัน หรือ ทรงผมเท่ๆที่เราตัดตามศิลปินที่เราชื่นชอบนั้นเอง ในปัจจุบันเพลง K-Pop ยุคเก่าๆ ก็ยังมีคนฟังอยู่ตลอด เพราะด้วยเมโลดี้ที่ติดหูฟังได้ง่าย ท่าเต้นที่เป็นเอกลักษณ์ของเพลงในแต่ละวงที่สามารถเต้นตามกันได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นเพลง Sorry Sorry – Super Junior, Nobody – Wonder Girls หรือ I DON’T CARE – 2NE1 เป็นต้น พอพูดถึงเพลงเหล่านี้ใครๆ ก็ต้องรู้จักถึงแม้จะไม่ได้เป็นแฟนคลับ K-Pop ก็ตาม

ย้ายมาฟังเพลงฝั่งยุโรปกันบ้าง หลายคนคงจะโตมากับเพลงอย่างศิลปินชื่อดังอย่าง Britney Spears, Lady Gaga, Rihanna หรือเจ้าพ่อแร็ปเปอร์อย่าง Eminem เช่นเดียวกับอีกหลายๆศิลปินที่มีเพลง เพราะติดหูที่ยังคงอยู่ในความทรงจำของคนส่วนใหญ่ และได้มีการนำเพลงนั้นกลับมาเปิดฟังอยู่สม่ำ
เสมอแม้ว่าหลายคนในตอนนี้จะอยู่ในวัยผู้ใหญ่แล้วก็ตาม แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเพลงเหล่านี้ พอได้ฟังจึงเกิดความรู้สึกคิดถึงวันวาน ไม่ว่าจะเป็นเพลงสุขหรือเศร้า ก็พร้อมที่จะสนุกไปกับบทเพลงนั้น เช่น เพลง Toxic – Britney Spears, TiK ToK – Ke$ha, Poker Face – Lady GaGa หรือ In The End – Linkin Park เป็นต้น พออินโทรของเพลงๆ นั้นขึ้น ทุกคนก็ต้องพร้อมใจกันบอกว่าเคยฟังเพลงนี้ และอาจจะย้อนไปพูดถึงเรื่องราวเก่าๆ สมัยที่เปิดเพลงเหล่านี้ฟังด้วย

ซึ่งบางครั้งเราก็อาจจะเกิดความสงสัยกับตัวเองว่า ทำไมเราถึงชอบกลับไปย้อนฟังเพลงเก่าๆ ที่เคยฟังสมัยเด็ก หรือช่วงเวลาที่ผ่านมานานแล้ว เป็นเพราะว่าเรายังยึดติดกับความรู้สึกเก่าๆ หรือเปล่านะ? ไม่ได้เป็นเพราะไม่ยอมมูฟออนหรอกนะ แต่ Dr.Victoria Williamson ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาดนตรีจากมหาวิทยาลัย Sheffield ได้วิเคราะห์ถึงเรื่องนี้ว่า ดนตรีเป็นสิ่งหนึ่งที่มีผลต่อความทรงจำของมนุษย์ ไม่ว่าพฤติกรรมการฟังเพลงของเราจะเปลี่ยนไปแค่ไหน แต่เพลงที่เคยได้ฟังในช่วงที่เราเริ่มมีประสบการณ์ทางสังคมในช่วงแรกๆ นั้นจะทำให้เรารู้สึกพิเศษกว่าเพลงในช่วงอื่นๆ ของชีวิตและการได้กลับไปฟังเพลงเก่าๆ ที่เคยฟังหรือยังติดอยู่ในความทรงจำเลยเป็นอีกหนึ่งทางที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย (อ้างอิง: เหตุผลที่คนชอบฟังเพลงป๊อปเก่าๆ – ThaiPBS)

และจากการสำรวจของ Deezer ค้นพบว่ามากกว่า 50 % ของผู้คนส่วนใหญ่มีความชอบฟังเพลงเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่ามากกว่าที่จะลองฟังเพลงใหม่ๆนอกเหนือแนวเพลงที่ตัวเองชอบ ซึ่งการวิจัยนี้ยังได้วิเคราะห์เพิ่มเติมอีกว่า “การที่เราได้ฟังเพลงโปรดที่ตัวเราชอบ ยังช่วยกระตุ้นให้สมองหลั่งสารที่ก่อให้เกิดความสุขออกมา” ยิ่งเราชอบเพลงนั้นมากเท่าไหร่ สารเหล่านี้ก็จะเข้าสู่ร่างกายมากขึ้นเท่านั้น นับว่าเป็นผลดีต่อร่างกายอีกด้วย (อ้างอิง: We stop discovering new music at age 30, a new survey suggests — here are the scientific reasons why this could be)


ในยุคเก่าๆ นั้นใครๆ ก็รักและชื่นชอบแนวเพลงนี้กันทั้งนั้นยาวนานจนมาถึงในยุคปัจจุบัน ไม่แปลกใจเลยเพราะว่า เพลงในยุคนั้นมีท่วงทำนองที่ติดหูง่าย เพราะละมุนทำให้ฟังได้ง่ายอีกด้วย  ภายในอนาคตหวังว่าเพลงเก่าในยุค 90-2000’s จะต้องกลับมา เป็นที่นิยมอีกแน่นอน ถ้าหากยังไม่มีแนวเพลงแบบไหนมาทำให้ผู้ฟังเปลี่ยนใจได้จากเพลงยุคนั้น ซึ่งเพลงเหล่านี้จะเป็นเพลงในตำนานที่ใครหลายคนกลับมาฟังก็จะไม่เบื่อและพร้อมที่จะสนุกไปกับเสียงเพลง


Written By : Suchanan Chantanachard