ค้นหาตัวตนผ่านภาพยนตร์ Coming of Age

ในช่วงการเติบโตของชีวิตวัยรุ่นอย่างเราๆ ก็ต้องเจอเหตุการณ์อะไรหลายอย่างที่ทำให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงทั้งตัวเองและคนรอบตัว หลายคนยังคงหลงทางและใช้ในการค้นหาตัวเองอีกด้วย

ช่วงสุดสัปดาห์แบบนี้ถ้าไม่อยากจะออกไปเผชิญอากาศร้อนข้างนอกที่ไหน แต่ก็ไม่รู้จะทำอะไร งั้น NYLON ก็ชวนให้อยู่บ้านเปิดแอร์เย็นๆ แล้วห่มผ้านอนดูหนัง Coming of Age ให้แฮปปี้กันดีกว่า เผื่อว่าจะค้นพบแรงบันดาลใจให้ค้นพบตัวเองก็เป็นได้

 

The Breakfast Club (1985)

(via IMDb)

แทบจะเรียกได้ว่าเป็นต้นตำรับแห่งภาพยนตร์ไฮสคูลเลยก็ว่าได้ เรื่องราวของเด็กวัยรุ่น 5 คนที่ถูกกักบริเวณในโรงเรียนทุกเสาร์เป็นเวลา 8 ชั่วโมง การได้อยู่ด้วยกันเป็นระยะเวลานานติดต่อกัน ทำให้ทั้ง 5 คนพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นต่างๆ ระหว่างกัน การได้นั่งดูตัวละครเล่าเรื่องไปเรื่อยๆ พร้อมกับฟังความคิดเห็นต่างๆ ที่แทรกเข้ามาระหว่างทาง ทำให้เราได้คิดตามตัวละครไปด้วย

(via IMDb)

(via IMDb)

 

Clueless (1995)

(via IMDb)

บางครั้งหลายคนอาจมีโมเมนต์ที่อยากจะเฉิดฉายอยู่ท่ามกลางแสงไฟสักครั้งในชีวิต เหมือนกับ Cher สาวไฮสคูลสุดป๊อป คุณหนูผู้เป็นสาวมั่นแห่ง Beverly Hills เธอและเพื่อนสนิท Dionne ทั้งคู่มีงานอดิเรกคือการปิ๊งไอเดียแปลกใหม่อยู่เสมอ อย่างเช่น ลองจับคู่ให้คนในโรงเรียน หรือจับเพื่อนใหม่ Tai สาวสุดเฉิ่มมาแปลงโฉมให้กลายเป็นสาวชิค จนกระทั่งวันหนึ่ง Cher ก็ค้นพบว่า นอกจากการจับคนอื่นมาเปลี่ยนนู่นนี่แล้ว ตัวเธอเองก็ต้องเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน

หากพูดถึง Clueless แฟชั่นก็คือสิ่งที่ตีคู่กันมา เพราะหนึ่งในภาพจำของหนังเรื่องนี้คือ แฟชั่นยุค‘90 โดยเฉพาะคอสตูมของตัวละครหลักอย่าง Cher หากพูดถึง Cher จากหนังเรื่อง Clueless จะเห็นภาพชุดลายสก็อตต์สีเหลืองขึ้นมาทันที

(via IMDb)

(via IMDb)

 

10 Things I Hate About You (1999)

(via IMDb)

บางครั้งความรักในช่วงวัยรุ่นอาจไม่เป็นไปตามที่คาดหวังเอาไว้แต่แรกก็ได้ เหมือนกับที่ Patrick ถูก Cameron จ้างให้ไปจีบ Kat เพื่อสร้างโอกาสให้ตัวเองได้เป็นแฟนกับ Bianca น้องสาวของ Kat เพราะพ่อของสองสาวสร้างกฎเอาไว้ว่า Bianca จะมีแฟนได้ก็ต่อเมื่อ Kat มีแฟนแล้ว และจากที่ตอนแรกยอมทำไปเพราะเงิน ก็กลายเป็นว่า Patrick ดันตกหลุมรัก Kat เข้าจริงๆ เนื้อเรื่องก็หยิบเอาประเด็นของการเป็นหนุ่มสาวไฮสคูลมาใส่ให้ครบรส ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ที่ค่อยๆ เติบโตจนกลายเป็นความรัก ความรักภายในครอบครัว ความรักระหว่างพี่น้อง การตัดสินใจต่อสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต หรือแม้กระทั่งการไม่แคร์ที่จะถูกตัดสินเพราะรูปลักษณ์ภายนอกเพียงอย่างเดียว

(via IMDb)

(via IMDb)

 

Juno (2007)

(via IMDb)

ในชีวิตคนเราอาจมีความผิดพลาดเกิดขึ้นบ้าง และสุดท้ายเราก็คือคนที่ต้องรับผิดชอบสิ่งเหล่านั้นเอง เหมือนกับ Juno เด็กสาวมัธยมที่มีเซ็กส์กับเพื่อนชายและเกิดตั้งท้องขึ้นมา ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้หากเกิดขึ้นในชีวิตเรา เราก็อาจสติแตกหรือทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน ตัวเรื่องเล่นประเด็นของการพลาดตั้งท้องในวัยเรียน ซึ่งก็ไม่ได้เล่าออกมาตรงๆ ว่าถูกหรือผิด หรือควรตัดสินใจใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร แต่ให้ใช้การพิจารณาจากการตัดสินใจของตัวละครในเรื่อง เพื่อให้เราเอามาคิดต่อว่า หากเราเป็นแบบ Juno เราจะเลือกทางเดียวกับเธอหรือไม่

(via IMDb)

(via IMDb)

 

The Perk of Being a Wallflower (2012)

(via IMDb)

มิตรภาพ รักครั้งแรก การค้นพบตัวเอง เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับวัยรุ่นที่กำลังเติบโตเป็นผู้ใหญ่ หลายคนอาจต้องใช้เวลาค้นหาตัวเองอยู่นาน เหมือนกับ Charlie เด็กวัยรุ่นธรรมดาๆ คนหนึ่งที่เปรียบตัวเองเป็นดอกไม้ริมกำแพงที่คอยเฝ้ามองดูคนอื่น แต่กลับไม่มีใครมองเห็น จนกระทั่งได้รู้จักกับ Sam และ Patrick ลูกพี่ลูกน้องผู้ตั้งใจที่จะใช้ชีวิตไฮสคูลปีสุดท้ายให้คุ้มค่า และเมื่อได้มารู้จักกับ Charlie ทั้งคู่จึงเป็นคนเปิดโลกให้เขาได้รู้จักและเห็นอะไรมากมาย ถ้าใครยังค้นหาตัวเองอยู่ การดู The Perk of Being a Wallflower อาจช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้เราอยากลองใช้ชีวิตสนุกขึ้นก็เป็นได้

(via IMDb)

(via IMDb)

 

Boyhood (2014)

(via IMDb)

ถ้าพูดถึง Boyhood ก็จะนึกถึงภาพยนตร์ที่กินเวลาถ่ายทำยาวนานถึง 12 ปี ซึ่งเป็นระยะเวลาที่คนหนึ่งคนจะเติบโตไปอีกวัยหนึ่งได้เลย เช่นเดียวกันกับตัวละครหลักอย่าง Mason ที่ตอนเริ่มถ่ายทำเขาอายุเพียง 7 ขวบและโตจนกลายเป็นวัยรุ่นอายุ 19 การเล่าเรื่องทำให้เราได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายใน เช่น สิ่งต่างๆ รอบตัว และความรู้สึกนึกคิดของตัวละครที่เปลี่ยนไป การที่เด็กผู้ชายคนหนึ่งเติบโตตามกาลเวลา ความสัมพันธ์ระหว่างคนรอบตัว หากพูดถึงภาพยนตร์ coming of age Boyhood ก็นับเป็นอีกเรื่องที่ควรต้องพูดถึง

(via IMDb)

(via IMDb)

 

Call Me By Your Name (2017)

(via IMDb)

เรื่องราวความรักที่เริ่มจากการไม่ชอบกันและเกิดขึ้นจากความใกล้ชิดของ Elio เด็กชายวัย 17 ปี กับแขกของพ่อผู้เข้ามาร่วมพักอาศัยในบ้านช่วงฤดูร้อนอย่าง Oliver ความรักที่เกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ ระหว่างช่วงชีวิตที่กำลังค้นหาตัวเองของ Elio ว่าแท้จริงแล้วความต้องการในชีวิตของเขาคืออะไร แต่สุดท้ายเมื่อ Elio ค้นพบทางของตัวเองแล้ว กลับพบว่าความสุขที่เกิดขึ้นนั้นมันไม่ได้สวยงามเสมอไป สิ่งที่ชอบที่สุดของเรื่องนี้นอกจากภาพที่สวยงาม ก็คือการพูดคุยระหว่าง Elio และพ่อ ถึงเรื่องของการใช้ชีวิตแบบที่รู้จักและยอมรับในตัวเอง อยู่กับความเป็นจริง ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ก็ตาม

(via IMDb)

(via IMDb)

Love, Simon (2018)

(via IMDb)

เรื่องซุบซิบนินทาในโรงเรียนยังคงมีอยู่ทุกยุคทุกสมัย ทำให้หลายคนต้องระวังไม่ให้ความลับบางอย่างหลุดออกไป เพราะคงไม่มีใครอยากตกเป็นเป้าให้คนจับตามอง อย่างเช่นการเปิดเผยตัวว่าเป็นเกย์โดยใช้นามแฝงว่า Blue ลงเว็บกอสสิปของโรงเรียน จนกลายเป็นประเด็นที่ทุกคนในโรงเรียนให้ความสนใจและอยากรู้ว่า Blue คือใคร มีเพียงแค่ Simon ที่กำลังประสบปัญหาเดียวกันคือ อยากเปิดเผยตัวตนให้คนอื่นรับรู้แต่ยังไม่กล้าและไม่รู้จะทำอย่างไร เขาจึงสร้างแอคเคาท์ชื่อ Jacques ขึ้นมาเพื่อพูดคุยกับ Blue และกลายเป็นว่าทั้งคู่ก็ตกหลุมรักซึ่งกันและกัน แม้จะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร

นอกจากเรื่องที่สะท้อนให้เราเห็นว่า ไม่ว่าจะเป็น Straight หรือ LGBT+ ทุกคนต่างก็เป็นคนในสังคมที่ไม่ได้แตกต่างจากคนอื่นแต่อย่างใด นอกจากนี้หนังยังเล่าให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวและเพื่อนที่พร้อมจะอยู่ข้าง Simon ตลอดเวลา ไม่ว่าเขาจะเป็นอย่างไรหรือเลือกอะไรก็ตาม

(via IMDb)

(via IMDb)

 

0 replies

Leave a Reply

Want to join the discussion?
Feel free to contribute!

Leave a Reply