อิ้งค์ วรันธร : นักร้องสาวเสียงดีที่แค่ได้ฟังเพลงหนึ่งครั้งก็ยากจะลืม

ถ้าพูดถึง อิ้งค์-วรันธร เปานิล แล้วก็คงอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเสียงใสๆ และเพลงเพราะๆ ของเธอ ที่ไม่ว่าจะปล่อยเพลงไหนออกมา เราก็มักจะได้ฟังทั้งบนวิทยุ หรือเจอบนชาร์ตเพลงกันจนร้องตามได้แน่นอน โดยเฉพาะซิงเกิ้ลล่าสุดอย่างเพลง ลบไม่ได้ช่วยให้ลืม ที่แฟนๆ ต่างรอคอยมาตั้งแต่รู้ว่าจะมีเพลงใหม่ และเมื่อได้ฟังทั้งเพลงและได้ดูมิวสิควิดีโอก็ทำให้ไม่สามารถลบเพลงนี้ออกไปจากความฮิตได้เลย วันนี้ NYLON ไม่ได้จะมาชวนอิ้งค์คุยในเรื่องการลบหรือการลืม แต่จะมาชวนคุยในเรื่องทั่วๆ ไปในเส้นทางการเป็นศิลปิน ไลฟ์สไตล์ชีวิต รวมไปถึงอัพเดตเรื่องของสุขภาพที่บอกได้เลยว่าแฟนๆ ไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว

  • เส้นทางศิลปินของอิ้งค์ ตั้งแต่อายุ 12 จนถึงตอนนี้ มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือเหมือนเดิมมากน้อยแค่ไหน และเราเติบโตขึ้นมาขนาดไหนบ้าง

ตั้งแต่อายุ 12 เลยใช่ไหมคะ ก็เปลี่ยนไปเยอะมากเลย จริงๆ มันก็เหมือนคนๆ หนึ่งที่เติบโตไปเรื่อยๆ ค่อยๆ ผ่านช่วงเวลามัธยม มหาวิทยาลัย จนกระทั่งเรียนจบ ทุกอย่างมันก็เป็นตัวเรามากขึ้นในทุกๆ ช่วงเวลา พอเป็นช่วงเรียนจบก็จะเป็นตัวเราที่ผ่านการตกตะกอนเรื่องความชอบทางด้านดนตรี และสกิลต่างๆ ที่ศึกษาเล่าเรียนมา มันก็พัฒนา เลเวลอัพขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งที่เราได้มาทำเพลง ก็เหมือนตกตะกอนแล้วว่าเราชอบเพลงแบบไหน เราอย่างเป็นยังไง เราชอบศิลปินแบบไหน แต่งตัวยังไง มันมีความเป็นตัวตนที่ชัดเจนมากขึ้น ทุกอย่างเลย มากกว่าตอนนั้น เพราะตอนนั้นมันแค่ 12 เองเนอะ 12 ก็เป็นเด็กคนหนึ่งที่มีความสุข สนุกกับการไปเจอเพื่อนใหม่ มีความสุขกับการร้องเพลงแค่นั้น ถ้าพูดถึงความเป็นตัวตนในช่วงนั้นที่อาจจะสดใสร่าเริง แต่ว่าไม่ได้มีจุดมุ่งหมายในชีวิตที่จะเป็นเหมือนหนึ่งในอาชีพหลักในชีวิตขนาดนั้น เพราะว่ามันก็ยังเป็นนักเรียนอยู่ แต่พอเราเรียนจบมาแล้วมันก็ โอเค นี่แหละ เป็นเส้นทางที่เราอยากทำแล้วก็คงเป็นอาชีพที่เราอยากอยู่ด้วยไปตลอดชีวิตค่ะ

  • สิ่งที่ชอบที่สุดในการเป็นศิลปินของอิ้งค์คืออะไร

คือการที่อิ้งค์ได้ทำในสิ่งที่ชอบคือการร้องเพลง แล้วการร้องเพลงนั้นมันสามารถทำให้อิ้งค์มีอาชีพได้ และอีกอย่างหนึ่งมันทำให้คนที่มาฟังเพลงเราหรือว่าสิ่งที่เราทำมันทำให้คนหลายๆ คนเขามีความสุข แล้วเหมือนเพลงเราไปอยู่ในช่วงชีวิตของเขาได้ แล้วพอเขาเดินมาบอก หรือร้องเพลงไปกับเราเวลาเราไปร้องเพลง ฟีดแบคต่างๆ มันเลยทำให้เรารู้สึกว่า เออนี่แหละ มันก็แค่นี้แหละที่เราอยากได้รับ ก็แค่อยากให้เขามีความสุขเวลาได้ยินเราเท่านั้นเอง

  • อยากกลับมาเล่นภาพยนตร์อีกไหม ถ้ามีโอกาสได้เล่นอีกครั้งอยากรับบทแบบไหน

จริงๆ ตอนนี้ทุกคนเห็นอิ้งค์ในด้านสดใส มีความสุข ถ้าเห็นเพลงเศร้าก็จะไม่ได้ลงไปเล่นเองอะไรอย่างนี้ บทที่อยากเล่นก็อาจจะเป็นบทที่ค่อนข้างตรงข้ามกับทุกอย่าง กับสิ่งที่ตัวเองเป็น ด้วยความรู้สึกของตัวเองด้วยแหละที่อยากก้าวไปในจุดที่ไม่ใช่ตัวเองบ้าง อยากลองดูว่า ตัวเองจะเป็นยังไง เหมือนได้ explore ความรู้สึกต่างๆ ของตัวเองเพิ่มขึ้น ก็ถ้าหากมีโอกาสก็ยังอยากเล่นหนังอยู่

  • เพลงล่าสุดลบไม่ได้ช่วยให้ลืมโซเชียลพูดถึงกันเยอะมากๆ สำหรับอิ้งค์ มีเรื่องอะไรที่ลบไปแล้วไม่ได้ช่วยให้เราลืมบ้างไหม

ทุกอย่างเลย มีช่วงหนึ่งเรารู้สึกว่าเราสามารถมูฟออนได้ หรือว่าเราสามารถเดินออกมาจากจุดที่เรารู้สึกว่าเราไม่ได้อยากจำได้แล้วได้ แต่ปรากฏว่าสุดท้ายแล้ว พอทุกอย่างเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ไม่ใช่ว่าเราลืมเขาไป แต่ว่าแค่ทุกอย่างมันถูกทำให้เลือนรางหายไป แต่เป็นแค่ความรู้สึก แต่ว่าความทรงจำมันก็ยังอยู่ตรงนั้น แค่เราไม่ได้สะกิดมันขึ้นมาเท่านั้นเอง จริงๆ ทุกอย่างในชีวิตอิ้งค์เลย อิ้งค์รู้สึกว่าเคยพยายามลบรูปที่ไม่อยากเก็บไว้แล้ว กับแฟนเก่ากับอะไรต่างๆ เราก็รู้สึกว่าเราไม่อยากเก็บไว้ในโทรศัพท์ ไม่อยากเก็บไว้ในคอมแล้ว แต่ปรากฏว่าบางทีเราเดินไปตามสถานที่ที่เราเคยไปด้วยกันมันก็คือชัดยิ่งกว่ารูปภาพอีก ก็น่าจะไรประมาณนี้

  • แล้วถ้าลบไม่ช่วยให้ลืม ต้องทำอย่างไรถึงจะลืม

จริงๆ ก็ต้องยอมรับมันอะ อิ้งค์ว่าสุดท้ายแล้วเวลาเราจะเดินออกมาได้จริงๆ แล้วเราอยากลืมจริงๆ เราก็ต้องยอมรับมันว่ามันไม่เวิร์คแล้ว แล้วก็เขาอาจจะไม่ใช่จริงๆ สำหรับเรา ณ ตอนนั้นเราต้องยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้แล้วก็ค่อยๆ ใช้ชีวิตต่อไปค่ะ รักตัวเองเยอะๆ น่าจะช่วยให้ดีขึ้นได้

  • ในไอจี ช่วงก่อนหน้านี้นอกจากไปทัวร์ไปทำงานแล้วยังได้เห็นรูปไปเที่ยวบ่อยๆ ปกติเป็นคนชอบเที่ยวแบบไหน

จริงๆ ชอบไปทะเล ไปต่างประเทศ ชอบมาก เป็นคนชอบเที่ยวแบบ จะเรียกว่าชิลไหม ก็คือเป็นคนเรื่อยๆ มากกว่า แต่ในความเรื่อยๆ นั้นคือการวางแผนมาแล้วว่าเราจะไปที่ไหนบ้าง แล้วก็เป็นคนไม่ชอบเที่ยวไม่มีแพลน ต้องวางแพลนไว้ก่อนเพราะเป็นคนที่ค่อนข้างเรื่อยๆ มากๆ สมมติว่าไปญี่ปุ่นอย่างนี้ อย่างน้อยก็ต้องมีย่านที่จะไปในแต่ละวัน ไม่ใช่ไปถึงแล้วไม่รู้จะไปไหน ต้องวางแพลนไว้ประมาณหนึ่ง 

  • งานอดิเรกของอิ้งค์ เวลาว่างชอบทำอะไร

ชอบดูหนังฟังเพลง ทั่วไปมาก แล้วพอเรามาเป็นศิลปินเวลาที่จะได้ใช้ชีวิตกับเพื่อนหรือครอบครัวก็จะน้อยลง งานอดิเรกก็เลยกลายเป็นกินข้าวกับครอบครัว กินข้าวกับเพื่อน เหมือนได้นัดเจอพบปะคนที่เราสามารถพูดคุยเรื่องทั่วไปสนุกสนานได้ 

  • แล้วช่วงโควิดที่ผ่านมา ได้ค้นพบสกิลพิเศษของตัวเองบ้างไหม

มีไหมเหรอ? ไม่ค่อยอะ จริงๆ ช่วงโควิดที่ผ่านมาทำอะไรใหม่ๆ น้อยมาก แต่จะทำอะไรที่เคยทำตอนที่ก่อนจะเป็นศิลปิน หรือช่วงที่ได้อยู่บ้านเยอะๆ แบบ ทำอาหาร อบขนม ที่ตัวเองไม่ค่อยได้ทำมันหลังจากที่เป็นศิลปิน เพราะเราก็ต้องไปทัวร์ ไปนู่นไปนี่เยอะใช่ไหมคะ หรือว่าคุยกับอาม่า คุยกับสุนัข อะไรอย่างนี้ เหมือนกับว่าเราได้ใช้ชีวิตแบบไม่ต้องตื่นมาแล้วแต่งหน้าทุกวัน ถ้าเป็นศิลปินชีวิตนี้ก็คงมีเวลาว่างอย่างนั้นน้อยมาก มันเหมือนเป็นการปิดเทอมใหญ่เลย เราเลยใช้ชีวิตในการทำอะไรที่เคยทำแล้วไม่ได้ทำตั้งแต่มาเป็นศิลปินค่ะ

  • มีแพลนอยากเรียนรู้อะไรเพิ่มเติมอีกไหม

จริงๆ ก็มีหลายอย่างที่อยากทำ อยากเรียน อยากศึกษาดนตรีเพิ่มด้วย เรื่องของการแต่งเพลงก็อยากทำแต่ก็ยังฝึกๆ อยู่ คือลองแต่งแล้วแต่ก็ยังไม่ค่อยดี เลยมีเป้าหมายว่าเราอยากทำ แล้วก็อยากไปเรียนดำน้ำ ช่วงโควิดอยากไปเรียนดำน้ำมากแต่ว่ามันไม่เปิด เพราะรู้สึกว่า มีอีกอย่างหนึ่งในชีวิตที่ไม่ค่อยกล้า คือเป็นคนดูหนังเรื่องฉลามเยอะ แล้วพอเราดู เวลาเราไปดำน้ำ ไปมัลดีฟท์ เราก็จะระแวงไปเองว่า เดี๋ยวเลือดไหล เดี๋ยวจะมีอะไรไหม (หัวเราะ) เราก็เลยอยากเอาตัวลงไปอยู่ในที่ที่เราไม่เคยไป ก็คืออาจจะเป็นใต้ทะเล อันนี้คือเป็นแพลนหนึ่งอย่างที่คิดว่าอยากทำให้ได้เลยในชีวิตนี้คือดำน้ำ

  • วางแผนอนาคตไว้อย่างไรบ้าง

มองประมาณปลายปีหน้าอยากมีอัลบั้มเต็มค่ะ อันนี้เป็นสิ่งที่คิดไว้นานแล้ว แล้วก็กำลังสะสมเพลงต่างๆ ให้ได้อัลบั้มเต็มอยู่ค่ะ ซึ่งก็เป็นหนึ่งในความฝันตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ว่าการเป็นศิลปินครั้งหนึ่ง เราก็ไม่อยากปล่อยเป็นซิงเกิ้ลไปเรื่อยๆ มี EP ไปแล้วเมื่อ 2 ปีที่แล้วใช่ไหมคะ แต่มันก็ยังไม่ใช่อัลบั้มเต็มอะ ก็เลยคิดว่าถ้ามีโอกาสก็จะทำอัลบั้มเต็ม แพลนไว้แล้วประมาณปลายปีหน้า 

  • อัพเดตเรื่องสุขภาพหน่อยว่าเป็นอย่างไรบ้าง

สิ่งที่เป็น (เนื้องอกในมดลูก) มันเหมือนเป็นเรื่องปกติของผู้หญิงเลยล่ะ ถ้าผู้หญิงคนไหนเคยเช็คเรื่อยๆ ก็จะรู้ว่าตัวเองมีอยู่แล้วนะ แต่ว่าไม่เคยไปเช็คแบบจริงจัง อย่างคนรอบตัวอิ้งค์คือเป็นเยอะมาก แต่ ณ ตอนนั้นที่เราเจอมันก็ค่อนข้างใหญ่กว่าที่คิดเอาไว้ ประมาณ 10 ซม. แต่ก็มีงานต้องทำเยอะมากเลย ยังไม่สามารถหยุดไปผ่าได้เลย เพราะมันต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน ด้วยความที่ขนาดมันใหญ่ มันต้องผ่าตัดใหญ่ ส่องกล้องไม่ได้เพราะไม่งั้นเดี๋ยวมันเสียหาย เพราะเราก็ยังอยากมีมดลูกไว้เผื่อในอนาคตเราอยากมีลูก คือเราก็ยังไม่รู้เพราะเราก็ยังอายุน้อย แต่ตอนนี้หายดีแล้ว ไม่มีอะไรแล้ว ไม่มีอาการอะไรอีกแล้ว ถ้าสุขภาพก็มีแค่กรดไหลย้อนเฉยๆ ซึ่งถ้าปรับเปลี่ยนวิธีกินก็น่าจะดีขึ้น ใครที่เป็นห่วงก็ขอบคุณมากๆ เพราะจริงๆ แล้วอิ้งค์ตัดสินใจบอกว่าอิ้งค์เป็นเนื้องอกตอนอิ้งค์เล่นคอนเสิร์ตเลย เพราะว่าอิ้งค์เชื่อว่าถ้าข่าวออกไปบางคนคงคิดว่าอิ้งค์ไม่ไหวแล้วแน่ๆ เพราะขนาดอิ้งค์เคยบอกไปแล้วก็ยังมีหลายคนที่ไดเรคเมสเสจมาเหมือนอิ้งค์ต้องติดเตียงแล้วอะ อิ้งค์ไม่ได้เป็นมะเร็งใจเย็นๆ นะ (หัวเราะ) หลายๆ คนก็เป็นห่วงเราไปด้วย