Natherine และการพัฒนาพร้อมกับบทบาทใหม่ที่น่าสนใจกว่าเดิม

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายๆ คนก็คงมีเพลงที่วนอยู่ในหัวเอาออกไปไม่ได้อย่างเพลง จีบก่อนผิดไหม ซิงเกิ้ลแรกในบทบาทใหม่กับการเป็นนักร้องเดี่ยวของนักร้องสาวที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดี แนทเธอรีน-ดุสิตา กิติสาระกุลชัย ที่หลายๆ คนได้เห็นถึงพัฒนาการที่มากขึ้นของเธอในเพลงนี้อีกด้วย NYLON ก็เลยขอชวนน้องแนทเธอรีนมาคุยกันให้แฟนๆ ได้หายคิดถึง ทั้งในเรื่องของเพลง ความชอบอย่างเกมและฟุตบอล รวมไปถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจในการพัฒนาตัวเองของสาวคนแก่งคนนี้!

  • ชีวิตหลังเลิกเป็นไอดอลของแนทเธอรีนเป็นอย่างไรบ้าง

ตั้งแต่วันที่เลิกเป็นไอดอลไม่เคยที่จะหยุดพัฒนาตัวเองเลย มีการไปซ้อมเต้น ซ้อมร้องเพลงเพิ่มขึ้น แล้วก็คิดว่าตัวเองอยากจะไปให้ได้ไกลในเส้นทางสายนี้ค่ะ ก็เลยมีการไปฝึกสกิลต่างๆ เพิ่มขึ้นมา และชีวิตหลังจากที่ไม่ได้เป็นไอดอลแล้วก็รับงานอยู่เรื่อยๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นงานถ่ายแบบ งานถ่านโฆษณา งานรีวิวสินค้า หรือจะสตรีมเกม แล้วก็ทำเพลงด้วยค่ะ เหมือนเป็นอินฟลูเอนเซอร์แล้วก็เป็นศิลปินไปด้วย

  • การเติบโตของแนทเธอรีนจากไอดอลสู่นักร้องเดี่ยว

หนูได้บทเรียนเยอะมากเลยนะคะ ว่าเวลาทำงานเขาทำกันยังไง เมื่อก่อนก็เป็นแค่เด็กธรรมดาคนหนึ่ง พอมาเป็นไอดอลเราก้ได้รู้เรื่องการทำงานจนมาถึงทุกวันนี้ที่ไม่ได้เป็นไอดอลแล้ว เราก็ได้เรียนรู้เรื่องการทำงานมากขึ้น มีอะไรหลายอย่างที่เราไม่เคยรู้เกี่ยวกับการทำงาน เบื้องลึกเบื้องหลังของมัน รวมถึงเราได้รู้เรื่องของการแบ่งเวลาด้วยค่ะ แบ่งเวลาเรื่องเรียนกับทำงาน จริงๆ เป็นสิ่งที่ยากมากนะคะ มันยากมากที่จะทำได้เมื่อสังคมปัจจุบันมีสิ่งที่น่าสนุกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพวกเกม หนัง Netflix หรืออะไรก็แล้วแต่ ทุกอย่างมันดึงดูดเราให้ไขว้เขวออกไป มันก็ค่อนข้างเป็นเรื่องยากที่เราจะทำสองอย่างไปในเวลาเดียวกัน แล้ว balance ในมันดีได้ มันยากค่ะ 

สำหรับตัวหนูเอง หนูรู้สึกว่า หลังจากที่ได้มาทำงาน หนูได้เรียนรู้เรื่องนี้มากๆ แล้วทำให้เราสามารถแบ่งเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากค่ะ

  • ช่วยเล่าเรื่องแนทเธอรีนและความอินกับฟุตบอลหน่อย

ก็อินค่ะ ตั้งแต่เด็กๆ ดูกับพ่อ เมื่อก่อนตอนประถมก็ยังไม่อิน ได้ยินพ่อพูดว่าพ่อเชียร์ลิเวอร์พูล เราแค่รู้สึกว่าฟุตบอลก็เป็นกีฬาที่เตะลูกกลมๆ ยังไม่ได้รู้เรื่องกติกา ไม่รู้อะไรเลยค่ะ จนมาวันหนึ่งตอนช่วงมัธยมปลาย อยู่ดีๆ ก็อินขึ้นมาไม่รู้ตัว แล้วก็กลายเป็นแฟนหงส์ (ลิเวอร์พูล) เต็มตัวเลยค่ะ ชอบลิเวอร์พูลมากๆ หลังจากนั้นเราก็เชียร์ฟุตบอลกับคุณพ่อมาตลอด จริงๆ ก็เชียร์มาตั้งแต่เด็กๆ แต่พอเราดูรู้เรื่อง เข้าใจกติกา เข้าใจว่าฟุตบอลคืออะไร ดูแล้วมันก็สนุกมากขึ้นค่ะ จากที่เมื่อก่อนนั่งดูเฉยๆ ไม่รู้เรื่อง 

  • เรื่องเกมเป็นอย่างไรบ้าง ช่วงนี้ยังสตรีมเกมอยู่ไหม

ก็จะสตรีมเกมที่เขาจ้างค่ะ (หัวเราะ) อันนี้จริงๆ จากใจเลยค่ะ ถ้าใครอยากให้สตรีมเกมอย่าลืมจากหนูนะคะ

  • ชอบเล่นหรือถนัดเกมแบบไหนเป็นพิเศษ 

ชอบเล่นแนว MMORG ค่ะ เป็นเกมแนวแบบ ตีมอนสเตอร์ เก็บเลเวล มันเพลินดีแล้วก็สนุกค่ะ ส่วนแนว MOBA ก็เล่นบ้างค่ะ แต่จะเล่นในมือถือค่ะ 

จริงๆ หนูชอบเล่นเกมมากนะคะ เป็นไปได้ถ้าว่างก็อยากจะสตรีมเกม แต่เนื่องจากว่าเราไม่ได้ทำสตรีมเมอร์เป็นหลัก เราเป็นศิลปิน ดังนั้นเราก็ต้องใช้เวลาว่างที่เหลือของเราในการไปสตรีมเกม ซึ่งพูดตรงๆ ก็คือไม่มี (หัวเราะ) ไม่มีเวลาเพราะว่าแค่เรื่องเพลงเอง แล้วก็เรื่องงานอื่นๆ มันก็เยอะมากๆ แล้ว และพอเรามีเวลาว่างเราก็ต้องรีบอ่านหนังสือ ก็เลยค่อนข้างทำให้ไม่มีเวลาไปสตรีมเกม ก็เลยไม่ได้เป็นสตรีมเมอร์เป็นหลัก เรียกว่าเป็นการทำสิ่งที่เราชอบดีกว่า ดังนั้นถ้าถามว่าทุกวันนี้จะสตรีมเกมอะไร ก็คือเป็นเกมที่เขาจ้างเราค่ะ

  • แล้วคิดอย่างไรเวลามีคำพูดว่า ผู้หญิงไม่ได้ดูบอลหรอก แต่ดูนักบอลมากกว่า หรือผู้หญิงไม่เล่นเกมแบบนี้หรอก เกมแบบนี้มันสำหรับผู้ชาย

หนูว่าของแบบนี้เหมารวมไม่ได้ค่ะ ไม่ใช่แค่ของแบบนี้นะ ของทุกอย่างเลย ทุกสิ่งทุกอย่างเราไม่สามารถที่จะเหมารวมได้ว่าถ้าเราคิดแบบนี้แล้วทุกคนจะต้องเป็นตามที่เราคิด คนเราบนโลกนี้ร้อยพ่อพันแม่ เกิดมาไม่เหมือนกันหรอกค่ะ แล้วสภาพแวดล้อมที่อยู่ก็ไม่เหมือนกัน สิ่งต่างๆ ที่พบเจอในแต่ละวันก็ไม่เหมือนกัน ดังนั้นเราไม่สามารถใช้บรรทัดฐานของตัวเองมาตัดสินใครได้ อันนั้นคือสิ่งที่หนูคิด อย่างเช่นเราชอบสิ่งนี้ คนอื่นไม่จำเป็นต้องมาชอบเหมือนเรา เพราะว่าทุกคนไม่มีทางที่จะมีความชอบเหมือนกันหมดหรอกค่ะ หนูเลยคิดว่าเราไม่ควรจะตัดสินใครเลย แล้วยิ่งความชอบเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ในเมื่อเราไม่ใช่เขา เราไม่ควรจะไปคิดแทนเขาค่ะ 

  • พูดถึงเพลงหน่อย จีบก่อนผิดไหม เป็นมาอย่างไร ทำไมถึงได้เพลงนี้

จริงๆ ต้องขอบคุณ Hashtag ค่ะ เพราะเป็นคนแนะนำและติดต่อกับทางพี่ๆ ลิปตาให้ คือหนูได้ร่วมงานเรื่องเกมกับทาง Hashtag และทางนั้นก็เห็นว่า เออ เราน่าจะทำเพลงนะ เราอยากทำเพลงใช่ไหม ก็เลยติดต่อพี่ๆ ลิปตาให้ค่ะ ถ้าไม่ได้ Hashtag ก็คงจะไม่ได้รู้จักพี่ๆ ลิปตา คงไม่ได้ทำเพลงเหมือนทุกวันนี้ 

ได้พี่ลิปตามาเป็นโปรดิวเซอร์ให้รู้สึกแฮปปี้มากๆ ค่ะ ก็มีการเรียกเราเข้าไปนั่งคุย ดูว่าคาแรกเตอร์เราเป็นยังไง แล้วเขาก็ทำเพลงนี้ออกมา 

  • การทำงานกับพี่ๆ ลิปตาเป็นอย่างไรบ้าง

สนุกค่ะ บรรยากาศสนุกและพี่ๆ ก็ถามความคิดเห็นหนูทุกอย่างเลยค่ะ ถามว่าต้องการแบบไหน ชอบแบบไหน แม้กระทั่งรูปปก หลายๆ อย่างพี่ๆ ก็ให้สิทธิหนูในการตัดสินใจค่ะ 

  • ผลตอบรับของการออกเพลงในฐานะนักร้องเดี่ยวของเราเป็นอย่างไรบ้าง

ดีนะคะ กระแสตอบรับดีค่ะ ตั้งแต่ปล่อย MV วันแรกก็ 1 ล้านวิวเลยค่ะ ดีใจมากๆ ค่ะ ได้ตามอ่านคอมเม้นด้วยค่ะ ชื่นใจมาก มีแต่คนบอกว่า MV น่ารัก เพลงดี เราพัฒนาขึ้นเยอะ ทั้งเรื่องร้องเรื่องเต้น พอเห็นแบบนี้ก็ดีใจค่ะ กว่าเพลงนี้จะออกมาได้หนูพยายามมาอย่างหนักมากๆ จริงๆ แล้วหนูก็รู้สึกว่ามันคุ้มค่าทุกอยาดเหงื่อของเราเลยค่ะ

  • นอกจากเรื่องเพลง ฟุตบอล และเกมแล้ว อยากให้คนอื่นนึกถึงเราในเรื่องไหนอีกบ้าง

หนูอยากให้คนนึกถึงหนูในเรื่องที่ว่า หนูเป็นคนที่จริงจัง แล้วก็ take serious กับสิ่งที่หนูอยากทำค่ะ คือหนูอยากให้ทุกคนมองว่าหนูเป็นคนที่เต็มที่ หนูเชื่อว่ามันไม่มีอะไรที่มนุษย์เราทำไม่ได้ค่ะ คือเรามีสมอง มีสองมือ มีขาที่เดินเคลื่อนไหวได้อย่างง่ายดาย เรามีร่างกายที่สมบูรณ์พร้อม เรามีความคิดและลักษณะทางกายภาพที่ดี ดังนั้นมันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีสิ่งใดก็ตามที่มนุษย์ทำไม่ได้ค่ะ หนูจึงพยายามทุ่มเททั้งร่างกายแล้วก็จิตวิญญาณของหนู ในการที่จะทำสิ่งต่างๆ ที่หนต้องการ อย่างเพลงนี้ก็เช่นกันค่ะ

และคนที่ติดตามกันก็จะเห็นได้เลยว่าหนูตั้งใจมากๆ จริงๆ จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เรื่องการเต้นและการร้องหนูดีขึ้นเยอะมากๆ นั่นเป็นเพราะว่าเราเอาจริง ถ้าเราจริงจังกับมัน หนุเชื่อว่ายังไงมันประสบความสำเร็จแน่นอน อย่างน้อยถ้าผลลัพธ์ของมันจะไม่ได้ออกมาดังเปรี้ยงปร้างอะไร อย่างน้อยคือพัฒนาการได้เห็นชัดแน่นอน นั่นแหละ คือเป็นความสำเร็จอย่างหนึ่งแล้ว การที่เราได้พัฒนาตัวเองมากขึ้นค่ะ 

Text: Nichkamon Boonprasert
Photography: Sereechai Puttes