นาย ณภัทร กับเรื่องของ Friend Zone
ความสัมพันธ์แบบเดินกลับไม่ได้ไปต่อก็ไม่ถึง เขตแดนที่ถูกจำกัดด้วยคำว่า ‘เพื่อน’ ที่เรียกว่า Friend Zone ที่มีหลายคนติดอยู่ในโซนนี้ วันนี้เราจะมาชวน ปาล์ม ที่ไม่สามารถออกจากความสัมพันธ์นี้ได้มาพูดคุยกัน แต่ว่ามาในนามของ นาย-ณภัทร เสียงสมบุญ พระเอกของเรื่องนี้กันนะ ตามไปคุยกับนายกันน~
มีโอกาสได้ร่วมแสดงภาพยนตร์กับ GDH เป็นเรื่องที่ 2 แล้ว เป็นอย่างไรบ้างกับการทำงานครั้งนี้?
ดีใจมาก ครั้งที่แล้วผมเห็นวิธีการทำงานของเขา คือ ทุกคนตั้งใจทำงานมาก งานของแอคชัน บท จะเตรียมพร้อมกันเป็นอย่างดีเลย แล้วเรื่องนี้เป็นพี่หมู (ชยนพ บุญประกอบ – ผู้กำกับ) ด้วย เคยร่วมงานกับพี่หมูมา 2 รอบแล้ว เป็นภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง แล้วก็เป็นโฆษณาหนังสั้นอีกตัวหนึ่งของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พี่หมูเป็นคนที่น่ารักมาก เขาเป็นผู้กำกับที่มีเสน่ห์ในการใช้ชีวิตประจำวันมาก วิธีการพูด วิธีการยิ้ม วิธีการเลือกสิ่งของ วิธีการอธิบาย มันเป็นอะไรที่มีเสน่ห์ แล้วน่ารักแบบบอกไม่ถูก เป็นคาแรคเตอร์ของพี่หมู แล้วหนังของพี่หมูทุกเรื่องจะรู้สึกได้ว่ามันมีความขี้แพ้อยู่ในตัว ซึ่งเรื่องนี้ตัวละครทุกตัวก็จะมีความ loser ในตัวที่มันไม่เพอร์เฟคซึ่งผมรู้สึกว่ามันสนุก แล้วมันทำให้ตัวละครมีชีวิตชีวาจริงๆ ตอนแรกที่ได้มาแคส อ่านบทสามตอนแรก พออ่านแล้วรู้สึกเลยว่าบทมันน่ารักมาก แล้วบทนี้ต้องเป็นของกู คือพูดกับตัวเองอย่างนี้เลย พอแคสเสร็จแล้วรู้ว่ามีโอกาสมาเล่น ก็ดีใจมาก คือเราประทับใจการทำงานของที่นี่ ทุกคนทำงานกันสนุก มีความสุข แล้วไปออกกองก็มีแต่ความสุข ทุกคนน่ารักในกอง เหมือนไปเข้าค่าย บินไปต่างประเทศแล้วก็บินกลับมา พอถ่ายทำทุกอย่างเสร็จแล้วรู้สึกเหมือนอกหักที่ไม่ได้ไปกองแล้ว ไม่ได้ไปเจอพี่ตากล้อง ไม่ได้ไปเจอใบเฟิร์น (พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์) ไม่ได้เจอคุณบิว (อรพรรณ อาจสมรรถ – Acting Coach) ไม่ได้เจอทีมทุกคน กองนี้น่ารักเลยทำให้มีความผูกพัน
ก่อนถ่ายทำมีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
พอได้บทมา ก็ถามพี่หมูให้ได้มากที่สุดก่อนเพื่อที่จะได้เห็นภาพตรงกันในหัว มีอะไรก็ถามหมดเลย เสร็จแล้วก็อ่านบท 2-3 รอบ แล้วก็มาเขียนวิเคราะห์ พอเรามาเล่นตรงนี้เราต้องเป็นตัวละครตั้งแต่เขาเกิดมา 1 ขวบ 2 ขวบ 3 ขวบ ไปจนถึง 27 ปี เพราะฉะนั้นเราต้องวิเคราะห์ให้ได้เยอะที่สุด เขียนปูมหลังว่าตอน 1 ขวบเขาทำอะไร 2 ขวบไปโดนอะไรมา โดนรถชนรึเปล่า หรือปั่นจักรยานแล้วล้ม หรือว่าตื่นเช้ามากินอะไร กินไข่ต้มกี่ฟอง ชอบฟังเพลงเพลย์ลิสต์อะไร เวลาว่างทำอะไร คือเรารวบรวมทุกอย่างแล้วมาเขียนให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะเป็นตัวละคร ‘ปาล์ม’ เสร็จแล้วก็มาแชร์กับพี่หมู แชร์กับคุณบิว แชร์กับใบเฟิร์น กับใบเฟิร์นเรื่องนี้ต้องสนิทกันมาก เราจะมีการทำเวิร์กชอปกันเยอะ สนุกมาก ในชีวิตจริงของผมก็จะมีเพื่อนคนหนึ่งที่เป็นเหมือน reference ตัว ‘กิ๊ง’ แต่ว่าเป็นเพื่อนแบบเพื่อนเลยนะ ไม่ได้คิดเกินเลยหรือคิดข้ามเส้นอะไร เหมือนมีอะไรก็จะมาเล่าแชร์ประสบการณ์ แล้วก็มีเวิร์กชอป ซึ่งมีพี่หมูกับคุณบิวอยู่ด้วยตลอด แล้วก็จะให้เล่นกับใบเฟิร์น สมมติสถานการณ์ต่างๆ คือเหมือนทำให้มีประสบการณ์ร่วมกันเลย
มีความกดดันไหมในการถ่าย
ตอนแรกที่รู้ว่าได้บทปาล์มก็ไม่กดดันนะ แต่ว่าน่าจะกดดันตอนที่รู้ว่าเล่นกับใบเฟิร์น คือเราติดตามผลงานเขา เขาก็มีประสบการณ์เยอะและเก่งมากในเรื่องของการแสดง แต่ผมเพิ่งอยู่วงการได้ 3 ปีเอง ทีนี้ก็เครียดเลยโทรไปหาวี (วิโอเลต วอเทียร์) ว่า เฮ้ย วีช่วยด้วย ทำยังไงดี รู้สึกว่าเขาเก่งมากแน่เลย วีก็บอกกลับมาว่า ยูต้องพยายามให้หนักกว่าเขาสองเท่าดิ ก็เออจริง หลังจากนั้นก็คือทำแต่งาน แล้วก็พอได้เวิร์กชอปกับใบเฟิร์น เขาเป็นคนน่ารักมาก คือสบายใจทุกครั้งที่ได้เข้าซีนด้วยกัน แล้วก็เป็นนักแสดงที่วินัยสูงมาก แล้วก็ช่วยเหลือผู้อื่น ใส่ใจคนรอบข้าง หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรกดดันอีกเลย สบายหมดเลย อาจจะมีกดดันตอนก่อนถ่าย แต่พออยู่หน้าซีนเสร็จ เราอยู่กับสิ่งที่ทำก็ไม่มีเครียด
ประทับใจอะไรที่สุดในการถ่ายทำเรื่องนี้
หลายอย่างครับ บรรยากาศ สถานที่ ผู้คน แล้วเรื่องนี้รู้สึกว่ามี magic moment เกิดขึ้นเยอะมาก และพี่หมูจะมีเสน่ห์ในการกำกับอย่างหนึ่งคือ แอบบอกคู่ตรงข้าม แล้วไม่บอกเราว่าเขาจะเล่นอะไร ให้เป็นรีแอคชันสด และจะให้เล่นแบบ free style บ่อยมาก คือจะทำอะไรก็ได้ ไม่มีผิด ไม่มีถูก ผมกับใบเฟิร์นก็จะนัดกันขายของให้กับพี่หมู ซึ่งเขาก็เป็นคนรับฟังตลอดเวลา แล้วถ้าชอบก็จะแบบ เอ๊ยชอบ ผ่าน เช่นซีนลิงที่ในทีเซอร์ ผมไปบังเอิญจ้องตามันไง มันก็เลยจะกัดผม แต่ในหนังเต็มมันจะมีเวอร์ชันที่แบบไม่ได้เห็นแค่นั้น ก็ถือว่าเป็น magic moment หนึ่งอันนะ
ความเหมือนหรือแตกต่างระหว่างนายกับปาล์ม
ปาล์มจะเป็นคนที่มีไหวพริบเรื่องการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าเก่งมาก ถ้าเทียบกับตัวผมนะ ผมจะเป็นคนคิดมาก ปาล์มจะเป็นคนไม่ได้คิดมากชิลล์ๆ จะแบบ ทุกอย่างจัดการได้ เป็นเรื่องปกติ แล้วความ alert ความขี้เล่น ความขี้แกล้งของปาล์มเนี่ย มันจะอยู่ประมาณหนึ่ง แล้วในชีวิตจริงของผมมันจะอยู่ต่ำกว่าอีกประมาณหนึ่ง ไม่ว่าผมจะเล่นบทอะไรก็ตาม ผมจะซึมซับตัวละครมันมา เพราะเราทำงานกับตัวละครนี้ ในชีวิตจริงมันก็เลยจะโทนมาอยู่ตรงกลาง เป็นคนขี้เล่นขี้แกล้งมากขึ้น แล้วก็ปาล์มจะเป็นคนที่เหมือนผมอยู่อย่างหนึ่ง คือผมเอานิสัยความเป็นห่วงเพื่อน เป็นคนจริงใจ เป็นคนซื่อสัตย์ เทคแคร์คนรอบข้าง ซึ่งปาล์มจะมีตรงนี้ เขาจะคอยเทคแคร์กิ๊งอยู่ตลอดเวลา เพราะกิ๊งเป็นเพื่อนที่อยู่ด้วยทุกเวลา เพื่อนที่อยู่ในช่วงโมเมนต์ที่แบบเสียใจที่สุด
กิ๊งกับปาล์มจะอยู่ด้วยกันตลอด แล้วกิ๊งเวลาที่มันเป็นไฟ ปาล์มก็จะเป็นน้ำ ซึ่งมันจะมีเหตุการณ์ที่คอยขัดแย้งกัน แล้วมันก็จะปัดกันไปปัดกันมาอยู่ตลอดเวลา มันก็เลยทำให้ตัวละครสองตัวนี้มันสนุก
นายเคยเจอประสบการณ์ Friend Zone หรือไป Friend Zone กับคนอื่นไหม
ของผมไม่มี ยังไม่มี แต่ว่าก็อาศัยฟังประสบการณ์ อย่างที่บอกว่ามีเพื่อนที่เอามาเปรียบเทียบได้ แต่ไม่ได้คิดเกินเลย มันชัดเจนมาก เพราะมันมีแฟน ก็ประมาณนั้น
แล้วถ้าสมมติว่าตัวเองเจอ Friend Zone จะจัดการอย่างไร
ก็แล้วแต่สถานการณ์ ผมเชื่อว่าประสบการณ์นี้มันแชร์กับคนหลายคน มันต้องมีแหละที่เป็นเพื่อนสนิทอะไรแบบนี้ แต่ว่าสถานการณ์ของแต่ละคนมันก็ไม่เหมือนกัน บางคนก็จะเป็นสไตล์แบบชิลล์ๆ ไม่คิดอะไรมาก พูดไปก็ไม่เป็นไร มันรับได้ บางคนก็แบบถ้าพูดไปแล้วมันมีผลมันจะตีห่างอะไรแบบนี้ มันก็แล้วแต่คน ผมก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่าคนที่จะเป็น Friend Zone ของผมมันจะเป็นยังไง
แล้วพอได้ทำงานแสดง เคยคิดมั้ยว่าอยากลองทำหน้าที่อื่นที่ยังอยู่ในวงการ
ก็มีนะ คือผมอยู่ในกองตั้งแต่เด็ก ชอบเล่นนู่นเล่นนี่ เราก็จะอยู่เบื้องหลังตั้งแต่เด็ก แล้วก็เวลาช่วงมหาวิทยาลัยผมก็ทำเบื้องหลังหมด ตอนทำ thesis หรือ exhibition ผมก็คิดคอนเทนต์ถ่าย ทำเองหมดเลย รู้สึกสนุก ชอบมาก ถ้ามีโอกาสได้ทำก็ดี อยากเป็นตากล้อง ชอบถ่ายคนอื่น ไม่ชอบโดนถ่าย
ความรู้สึกครั้งแรกจากหลังกล้องไปอยู่หน้ากล้องเป็นไงบ้าง
รู้สึกแปลกครับ แต่ว่าตอนที่ตัดสินใจเข้ามาลองถ่ายอะไรซักอย่าง เพราะว่ามันคือคำว่าโอกาส เรารู้สึกว่ามีคนให้โอกาสมาเยอะมาก แต่เราปฏิเสธ เพราะเราไม่อยากทำ เราอยากเรียน เราขี้อายหรืออะไรอย่างเนี้ย แต่วันหนึ่งรู้สึกว่าคนเขารอคอยโอกาสแบบนี้มานานแค่ไหน ก็เลยลองไปดู ปรากฎว่าได้แสดง แล้วการแสดงเราก็ไม่เคยเรียน พอต้องไปอยู่หน้ากล้องก็ยากมาก โฆษณาชิ้นแรกคือต้องขึ้นรถไฟเหาะ แล้วนั่งเป็นร้อยรอบ ทั้งเหนื่อย ทั้งทรมาน แต่เรารู้สึกว่าเราไม่เป็นไรเลย พอถ่ายเสร็จมันมีความรู้สึกที่แบบ เราทำอะไรลงไปบ้างเนี่ย รอดูผลงานออกมา มันก็ตลกตัวเองมากเลย แต่ก็รู้สึกว่าเราทำได้ดีกว่านี้ มันมีอะไรตรงนี้บอกอยู่ เพราะฉะนั้นมันก็เลยเกิดเป็นชิ้นต่อไปที่เรารู้สึกว่าเราอยากจะแก้ข้อผิดพลาดของเรา แล้วพอแก้ได้มันก็สนุก แต่มันก็ยังเจอข้อผิดพลาดอยู่ แล้วมันก็เป็นอย่างนี้มาเรื่อยๆ แบบหงุดหงิดตัวเอง แต่พอหลังๆทำไปเรื่อยๆ เริ่มสนุก แล้วพอสนุกก็กลายเป็นรักไป
นายเป็นคนชอบถ่ายภาพ แล้วการเป็นคนหน้ากล้องทำให้เราถ่ายภาพได้ดีขึ้นรึเปล่า
ผมว่าช่วยนะ แต่ไม่ได้ช่วยในภาพนะ ช่วยในเรื่องของ การที่เราเคยเป็นแบบ เราก็จะเข้าใจความรู้สึกของคนที่โดนถ่ายอยู่ ว่าเขารู้สึกอย่างไร เขาคิดอะไร หรือว่ามีวิธีการหลอกล่อแบบไหนเพื่อให้สื่ออารมณ์ออกมา มันเหมือนเราโดนช่างภาพเขาสอนมา เราก็จำ วิธีการจัดแสง ดูแสง สามเหลี่ยมใต้ตา ปีกผีเสื้อตรงจมูก อะไรอย่างนี้ พอมาถ่ายก็รู้วิธีแล้วว่าถ้าถ่ายคนก็จะมีวิธีการหลอกล่อ เหมือนเข้าใจตอนเราโดนถ่ายว่ามันรู้สึกยังไง
นายคิดว่า เรื่องอะไรที่คิดคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับนายมากที่สุด
อ๋อ อย่างเรื่องนี้ที่มันมีคำว่า “เพื่อนพ่อมึงดิ” คนแบบตกใจว่าผมพูด ผมก็รู้สึกว่า เฮ้ย มันเรื่องธรรมดาที่ผมพูดคำหยาบกับเพื่อนนะ คืออยู่กับเพื่อนผมก็พูดกันปกติ แต่แค่เวลาไปข้างนอก เราก็ให้เกียรติคนที่เจอ ให้เกียรติสถานที่ เราก็ใช้คำให้เหมาะสม แต่อยู่กับพื่อนผมก็ไม่ได้เป็นคนเรียบร้อย ก็เป็นผู้ชายดื้อๆ ขี้แกล้ง คนหนึ่ง
ถ้าให้เลือกหนึ่งเพลงแทนบทปาล์มและหนึ่งเพลงแทนตัวนาย
เพลงที่ผมใช้บ่อยที่สุดในการเปลี่ยน mood ตัวเองไปเป็นปาล์ม หลายคนน่าจะรู้จัก ชื่อว่า San Francisco Street เพลงนี้ใช้บ่อย แต่เพลงในตัวปาล์มจะมี 4-5 เพลงที่เปลี่ยนใช้ในแต่ละ mood ส่วนเพลงที่แทนตัวผมหรอ โห ยากอ่ะ ถ้าตอนนี้ก็น่าจะเป็น เพลงหนึ่งชอบมาก ชื่อเพลง Milk ของ Simon On The Moon พวกวงดังๆ ก็ Oh Wonder ทั้งอัลบั้มก็น่าจะแทนผมได้ดี John Mayer อัลบั้ม Continuum ปี 2016 ก็น่าจะดี
ได้เห็นความน่ารักผ่านตัวหนังสือกันแล้วและถ้าหากว่าอยากเห็นความน่ารักกว่านี้ก็จองตั๋วเลยจ้ะ พรุ่งนี้วันหยุดไปดู Friend Zone ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน ในโรงภาพยนตร์กันนะ พลาดไม่ได้จริงๆ เรื่องนี้!
ตัวอย่างภาพยนตร์
Leave a Reply
Want to join the discussion?Feel free to contribute!