Valentina Ploy กลับมาเพื่อขอให้เรารักเธออย่างที่เธอเป็น
ช่วงเวลาเกือบ 1 ปีที่ห่างหายไปจากวงการเพลง Valentina Ploy กลับมาอีกครั้งพร้อมกับซิงเกิลใหม่ “Drunk Sleeping In Taxis” ที่มีกลิ่นของความเป็นเพลงอินเตอร์ชัดขึ้นกว่าเดิม ทำให้ได้รับการตอบรับจากแฟนเพลงต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นจนส่งเพลงของเธอนั้นได้เข้าไปอยู่บนเพลย์ลิสต์ระดับ Global ร่วมกับศิลปินดังหลายคนในหลายเพลย์ลิสต์เลยทีเดียว
จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้พลอยก็ไม่ได้หายไปไหน หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าพลอยเป็นผู้ร่วมเขียนเนื้อเพลง “XL” เพลงเปิดตัวสุดปังในเวทีอินเตอร์ของเพื่อนสนิทอย่าง SILVY “พลอยรู้สึกว่าตัวเองก็เหมือนเป็นนักแต่งเพลงมาก่อนนักร้องอีก การเล่าเรื่องเหมือนเป็นทุกสิ่งของพลอย เลยรู้สึกตื่นเต้นมากกับสิ่งนี้เพราะได้ใช้สิ่งนี้กับเพื่อนสนิท .. ดีใจมากที่ได้ทำสิ่งนี้ครั้งแรกพร้อมเพื่อนตัวเอง” พลอยเปิดใจถึงการเขียนเพลงให้คนอื่นเป็นครั้งแรก
ส่วนในซิงเกิลใหม่ Drunk Sleeping In Taxis พลอยเลือกหยิบเอาความรู้สึกกลัวและไม่มั่นคง แบบที่หลายคนอาจจะเคยเป็น ถ่ายทอดออกมาเป็นบทเพลง
“เพลงนี้เป็นเพลงที่เกิดมาจากความรู้สึกตัวเอง ว่าวันหนึ่งเราเกิดความรู้สึกกลัวขึ้นมาว่าคนที่เรารักมาเห็นเราในเวอร์ชั่นที่ไม่เหมือนจากเดิม เป็นเวอร์ชั่นที่แย่ที่แม้แต่เรายังไม่ชอบตัวเองเลย แล้วเขาจะยังรักเราเหมือนเดิมไหม หรือเขาจะติดภาพเราที่แฮปปี้ที่มีพลังบวกตลอดเวลา — เวลาที่เราเมาหลับบนแท็กซี่ หรือเวลาที่เราร้องไห้ออกมาอย่างไม่มีเหตุผล เขายังจะเห็นเราเป็นเหมือนเดิมไหม”
“When the night is falling, will you be there to hold me? When I’m drunk sleeping in taxis, will you feel the same about me? When I cry for nothing, or I get jealous ‘bout your exes; when the worst of me comes knockin, will you feel the same about me?” Valentina Ploy – Drunk Sleeping In Taxis
ตาม NYLON ไปคุยกับ Valentina Ploy ว่า 1 ปีที่ผ่านมาสาวคนนี้โตขึ้นและเปลี่ยนไปอย่างไร และฟังเธอเล่าว่าเธอถอดประสบการณ์ส่วนตัวที่ออกมาเป็นเพลงใหม่ที่เตรียมพร้อมสำหรับการก้าวเข้าไปสู่คำว่าศิลปินอินเตอร์กัน
Q : ช่วงที่หายไปเกือบหนึ่งปี ทำอะไรมาบ้าง ?
A : แต่งเพลงค่ะ แต่งเพลงมาเยอะมากเลย เพราะรู้สึกว่าทั้งเครียดไม่ได้มีงานปกติแบบ Live Show เลยรู้สึกว่าเอาเวลานี้ไปแต่งเพลงได้เยอะมากเลย ส่วนมากแต่งเพลง ทำอาหารอยู่ที่บ้าน และมีโอกาสได้กลับไปอิตาลีด้วยไปเยี่ยมพ่อแม่
Q : เห็นว่าได้ร่วมงานกับ SILVY ในการทำเพลง XL ด้วย เป็นอย่างไรบ้าง ?
A : สนุกมากเลยนะคะ จริงๆ ไม่ได้เริ่มแบบว่าทำงานด้วยกันจริงจัง แต่พลอยรู้จักกับทีม Karma Sound Studios (ผู้จัดการของ SILVY) เลยได้แนะนำให้เขารู้จักกัน แล้วก็ชวน SILVY มาคุยกันว่าอะไรมันเหมาะกับตัวเขา คอนเซ็ปต์แบบไหนที่เหมาะ เลยได้แต่งเพลงขึ้นมาตั้งแต่วันแรกที่คุยกันเลย รู้สึกดีและดีใจที่คนชอบเพลงด้วย เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้เป็น songwriter ให้คนอื่นและได้ปล่อยกับค่าย Warner Music Asia ด้วยค่ะ
Q : ได้ทำหน้าที่เป็นคนเขียนเนื้อเพลง ให้กับ SILVY เป็นคนแรกรู้สึกอย่างไรบ้าง
A : เราเป็นคนชอบแต่งเพลงมากอยู่แล้ว นึกมาตลอดถ้ามีโอกาสแต่งให้คนอื่นด้วยก็จะดีใจ เพราะพลอยรู้สึกว่าตัวเองก็เหมือนเป็นนักแต่งเพลงมาก่อนนักร้องอีก การเล่าเรื่องเหมือนเป็นทุกสิ่งของพลอย เลยรู้สึกตื่นเต้นมากกับสิ่งนี้เพราะได้ใช้สิ่งนี้กับเพื่อนสนิทด้วย แบบ SILVY เป็นเพื่อนสนิทที่ไทยก็เลยดีใจมากที่ได้ทำสิ่งนี้ครั้งแรกพร้อมเพื่อนตัวเองด้วย
Q : แล้วเพลงของตัวเองล่ะ เล่าให้ฟังหน่อยเบื้องหลังหรือเรื่องราวของเพลง Drunk Sleeping In Taxis เป็นมาอย่างไร
A : เพลงนี้เป็นเพลงที่เกิดมาจากความรู้สึกตัวเอง ว่าวันหนึ่งเราเกิดความรู้สึกกลัวขึ้นมา กลัวว่าคนที่เรารักมาเห็นเราในเวอร์ชั่นที่ไม่เหมือนจากเดิม เป็นเวอร์ชั่นที่แย่ที่แม้แต่เรายังไม่ชอบตัวเองเลย แล้วเขาจะยังรักเราเหมือนเดิมไหม หรือเขาจะติดภาพเราที่แฮปปี้ที่มีพลังบวกตลอดเวลา เวลาที่เราเมาหลับบนแท็กซี่ หรือเวลาที่เราร้องไห้ออกมาอย่างไม่มีเหตุผล เขายังจะเห็นเราเป็นเหมือนเดิมไหม เลยกลายเป็นคอนเซ็ปต์ของเพลงนี้ที่แต่งขึ้นมาประมาณปีที่แล้วตอนประมาณตีสอง (หัวเราะ) เขียนท่อนฮุคขึ้นมาในห้องค่ะ
Q : เป็นคนที่แสดงออกมาทุกด้านให้คนอื่นเห็นบ้างไหม
A : พยายามค่ะ แต่ในความเป็นจริงแล้วคนน่าจะติดภาพจากที่เคยเห็นอยู่แล้วมากกว่าในตัวตนจริงๆ ที่เขาเป็น มันเลยเป็นความคิดที่เกิดขึ้นว่าถ้าคนคนหนึ่งคิดว่าเราแฮปปี้และเข็มแข็งตลอดเวลาแล้วถ้าเขาเห็นเราไม่แข็มแข็งแล้ว เขาจะยังรักเราเหมือนเดิมไหม
เพลงนี้เป็นเพลงที่เกิดมาจากความรู้สึกตัวเอง ว่าวันหนึ่งเราเกิดความรู้สึกกลัวขึ้นมา กลัวว่าคนที่เรารักมาเห็นเราในเวอร์ชั่นที่ไม่เหมือนจากเดิม เป็นเวอร์ชั่นที่แย่ที่แม้แต่เรายังไม่ชอบตัวเองเลย แล้วเขาจะยังรักเราเหมือนเดิมไหม
Q : ถ้าเราเผลอแสดงออกด้านนั้นออกมาแล้วคนอื่นไม่ชอบ เราจะทำอย่างไร
A : เราก็จะคิดว่าเป็นตัวเองอยู่นะ แต่ก็จะบอกเขาว่า ‘ก็ฉันเป็นแบบนี้ ฉันจะทำให้ดีขึ้น แต่เธอก็ต้องยอมรับด้วยว่าฉันไม่ใช่คนที่เฟอร์เฟกต์นะ ไม่มีหรอกคนที่เพอร์เฟกต์ในโลกนี้’ จะพยายามคุยจนกว่าเขาจะเข้าใจ
Q : แล้วคิดว่าคนเราควรเก็บด้านนั้นตลอดเลยไหมหรือว่าควรแสดงออกมาให้คนอื่นเห็นบ้าง
A : คิดว่าคนเราไม่ควรเก็บความรู้สึกเอาไว้นะ เพราะว่าถ้ามันไม่ได้มากไปเกินเก็บไว้ก็ได้ แต่ก็ควรมีความพอดีด้วย รู้สึกว่าควรที่จะปล่อยออกมาบ้าง เพราะถ้าไม่ปล่อย ไม่ระบายออกมาเลยก็จะทำให้เกิดความเครียดและมันก็จะที่ไม่ดีกับตัวเองด้วย ต้องอนุญาตให้ตัวเองรู้สึกแย่บ้างก็ได้ หรืออะไรที่ไม่กล้าที่จะรู้สึกก็รู้สึกบ้างก็ดี ถึงแม้ว่ามันจะเจ็บปวดแค่ไหนแต่เราก็ต้องรู้สึก ไม่งั้นเก็บไปจนเครียดตายก็ไม่ได้ค่ะ (หัวเราะ)
Q : ปีที่แล้วที่มาถ่าย Digital Cover กับ NYLON เราเคยได้คุยกันถึงเพลงของพลอยที่ได้เข้าไปอยู่ในเพลยลิสต์ It’s Hit บน Spotify ตอนนั้นพลอยบอกว่าตื่นเต้นและดีใจ มาในปีนี้เพลงของพลอยก็ยังได้เข้าไปอยู่ในเพลย์ลิสต์ร่วมกับศิลปินดังๆ ระดับโลกหลายคนเลย รู้สึกอย่างไรบ้าง
A : ตื่นเต้น กรี๊ด 3 รอบค่ะ (หัวเราะ) บอกตรงๆ เลยว่ากับเพลงนี้เหมือนได้รับการยอมรับมากขึ้น และทีมเราก็เก่งมากเขาทำให้มันเข้าไปอยู่ในเพลย์ลิสต์ที่นอกจากเอเชียได้มากขึ้น อย่างเช่นการที่ได้เข้าไปอยู่ใน Equal Global ที่ไม่ใช่แค่ประเทศไทยหรือในฮ่องกง ได้อยู่ในเพลย์ลิสต์ Hit & Viral รวมถึงเราก็ตื่นเต้นกับการที่เพลงนี้ได้เข้าไปในเพลย์ลิสต์ New Music Friday AU & NZ ซึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิตที่สิ่งนี้เกิดขึ้น เพราะปกติเราจะได้อยู่ในเพลย์ลิสต์นี้ที่เป็นของประเทศฝั่งเอเชีย แต่เป็นครั้งแรกเลยที่ได้ออกไปอยู่ใน New Music Friday ที่ไม่ใช่ประเทศเอเชีย เป็นประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก พลอยไม่รู้ว่าเพลงจะดังหรือไม่ดัง จะเป็นกระแสหรือไม่เป็นกระแส แต่รู้สึกว่าเพลงมันอินเตอร์มากเลย เราเองก็ตั้งใจให้ไปในระดับนั้นด้วย
*Equal เป็น Genre ที่ส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศในดนตรีของสตรีมมิ่ง Spotify โดยจะแยกเป็นเพลย์ลิสต์แนะนำเพลงของศิลปินหญิงของประเทศนั้นๆ เช่น Equal Thailand, Equal US, Equal Korea etc. ส่วน Equal Global ก็จะเป็นการรวมเพลงของศิลปินหญิงจากทั่วทุกมุมโลกมารวมเอาไว้ในเพลย์ลิสต์นี้
Q : การที่เพลงเราได้ไปอยู่ในเพลย์ลิสต์ในระดับ Global ที่ไม่ใช่แค่ในประเทศเอเชีย ทำให้เพลงเราได้ไปไกลให้คนรู้จักมากขึ้นด้วยไหม
A : เป็นนะคะ เอาจริงๆ สมมติพอเราเห็นเบื้องหลังนี่ก็คือไปส่องดูของตัวเองตลอดเลย เป็นครั้งแรกกับเพลงนี้ที่รู้สึกว่าในเส้นทางเล็กๆ ของเรา เราได้โปรดิวซ์ที่ใหญ่ขึ้นมากเลย เพราะว่าตอนนี้ถ้าเทียบกับเมื่อก่อน ประเทศหลักๆ ที่จะฟังของเราก็จะมี ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน อินโดนีเซีย ประเทศไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ ประมาณนี้ แต่ตอนนี้ใน TOP 5 ก็จะมีออสเตรเลียด้วย และมีประเทศจากยุโรปรวมถึงอเมริกาก็อยู่ใน TOP 10 แล้ว มันก็ค่อยๆ ไต่ระดับกันไป ในการที่เราจะตั้งใจเจาะออกนอกเอเชียให้ได้
ฉันเป็นแบบนี้ ฉันจะทำให้ดีขึ้น แต่เธอก็ต้องยอมรับด้วยว่าฉันไม่ใช่คนที่เฟอร์เฟกต์นะ ไม่มีหรอกคนที่เพอร์เฟกต์ในโลกนี้
Q : แล้วแฟนคลับต่างประเทศได้ส่งข้อความทักทายมาหาบ้างไหม
A : มีนะคะ มีเยอะเลย ส่วนมากจะเป็นฟิลิปปินส์เยอะมาก ล่าสุดก็มีจากออสเตรเลียที่ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยได้รับมาก่อนเลย แล้วก็อิตาลี เพราะพลอยเป็นลูกครึ่งอิตาเลียน ซึ่งครึ่งหนึ่งของคนติดตามพลอยก็มาจากอิตาลีด้วยเหมือนกัน เมื่อก่อนเพลงอื่นเขาไม่เคยติดต่อมาหาเลยนะคะ อันนี้พูดตรงๆ เลย แต่กับเพลงนี้ที่มันแบบมีความอินเตอร์มากๆ ที่อิตาลีเขาก็เหมือนรับรู้กันแหละมั้ง เขาก็ทักมาหา แชร์กันเต็มไปหมดเลย
Q : พอเขาได้ฟังเพลงนี้ เพลงเก่าๆ ของพลอยที่เคยปล่อยไปก็มีความอินเตอร์อยู่แล้วในทุกๆ เพลง เขากลับมาฟังแล้วเขามีฟีดแบคอะไรบ้างหรือเปล่า
A : มีความอินเตอร์แต่พลอยขอบอกตามตรงแบบไม่เข้าข้างตัวเองเลย ว่ามันยังอินเตอร์ไม่พอ เพราะยิ่งโตขึ้นเราก็ยิ่งได้เรียนรู้นอกจากการเล่าเรื่อง การแต่งเพลง เราได้ฟังเพลง ได้เรียนรู้ในการแต่งเพลงในแง่งานด้วย เราจะรู้เลยว่าภาษาของเราเป็นธรรมชาติมากพอไหม มันไม่ใช่แค่เรื่องของ Sound มันคือการเล่าเรื่องอะไรบางอย่าง ฝรั่งเขาจะรู้ว่ามันไม่ใช่มาจากฝรั่ง แบบตอนแรกพลอยก็เขียนโดยที่ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะว่าอัลบั้มแรกมันก็คือผลงานแรกของชีวิตแล้ว แค่ทำเฉยๆ ก็เป็นสิ่งที่ดีที่เราไม่ได้คิดมาก แต่มันก็ดีที่ทำให้เราได้เห็นว่าก็มีความพัฒนาไปเรื่อยๆ
Q : ตอนนี้เราก้าวขึ้นมาอีกระดับหนึ่งของการเป็นศิลปินจากที่เคยเป็นมาก่อน ปีที่แล้วพลอยเคยบอกกับเราว่าความคาดหวังของพลอยคือการเป็นคนๆนึงคนที่สามารถแชร์เพลงของตัวเองให้คนอื่นได้ฟังมากขึ้น ถ่ายทอดความรู้สึกให้ link กับคนฟัง ความคาดหวังทางด้านดนตรีตอนนี้ของพลอยยังเป็นเหมือนเดิมไหม หรือยังมีอะไรเพิ่มเติมที่มากกว่าเดิมหรือเปล่า
A : ยังคงเหมือนเดิมแต่เพิ่มเติมด้วย เพราะว่าตอนนั้นบอกตามตรงเลย การเปลี่ยนแปลงจะทำให้รู้สึกจริงๆ ว่าตัวเองเป็นศิลปิน มันก็แอบเป็นขั้นตอนที่ยาวนิดหนึ่งนะ โอเคในสื่อต่างๆ เราก็จะโดนเรียกว่าเป็น The Artist เป็นศิลปินแหละ แต่ข้างในตอนนั้นพลอยรู้สึกว่าถ้าเทียบกับตอนนี้พลอยยังไม่มีความรู้สึกแบบ 100% ว่าฉันเป็นศิลปินขนาดนั้นนะ ไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นเท่าไร เหมือนเพิ่งเริ่มด้วยแล้วก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าเราจะทำได้อยู่ไหม แต่รู้สึกว่าตั้งแต่ปีที่แล้วการที่เราตั้งใจทำมันก็เหมือนทำให้เรามีความเข้าใจในตัวเองในอีกแง่นึง ซึ่ง ตอนนี้ก็ยังอยากให้คนรู้สึกเชื่อมโยงกับเพลงของเรา ให้รู้สึกว่ามีคนเข้าใจเขาผ่านเพลงของเรา บวกกับการที่เราอยากจะให้เพลงมันจะออกไปนอกประเทศจริงๆ และคนได้ฟังเยอะแยะไปหมดเลย
Q : แล้วจากตอนนี้เราอยากเห็นตัวเองเป็นอย่างไรในอนาคตในเส้นทางศิลปินของเรา
A : อยากเห็นตัวเองเก็บความเป็นตัวเองอยู่ เพราะพลอยรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ทำได้ยากที่สุดเลย แล้วยิ่งทำไปๆ มันจะมีมาตรฐานอะไรบางอย่างที่ทำให้เราแอบเครียด แค่อยากเห็นตัวเองพัฒนาเป็นคนที่เก่งขึ้น จริงๆ นะคะ ตั้งใจมากๆ เลยค่ะ แต่ว่าก็ยังอยากเก็บตัวตนของตัวเองที่ชัดเจนอยู่ด้วย ไม่ได้จะต้องไปยอมว่า ถ้าเราอยากดังเราต้องไปเปลี่ยนลุคเป็นแบบนี้ เราต้องไปทำอย่างนี้ ไม่เอา อยากให้ตัวเองเก็บสิ่งนี้ไว้ค่ะ
Q : ด้วยความที่เราก็คาดหวังจะเพลงให้ออกไปแนวอินเตอร์มากขึ้น ไปไกลมากขึ้น มีศิลปินคนไหนที่เราอยากร่วมงานด้วยไหม เอาแบบไกลๆ ตัวก็ได้ที่เรารู้สึกอยากได้ลองร่วมงานกับเขาสักครั้งหนึ่ง
A : ถ้าอย่างนั้นน่าจะเป็น Ed Sheeran ค่ะ (หัวเราะ) อยากเป็น ed sheeran ผู้หญิงแล้วก็อยากร้องเพลงกับเขาแต่งเพลงกับเขาทั้งวัน เพราะว่าเขาไม่ต้องการพยายามที่จะเป็นอะไรเลยมากไปกว่าคนที่แต่งเพลงเป็น แล้วก็ร้องเพลง แล้วก็เล่นกีต้าร์ ไม่ต้องพยายามที่จะเป็นคนหล่อ เป็นคนน่ารัก เป็นคนหน้าตาดี เป็นคนที่แต่งตัวแฟชั่น หรืออะไรก็ตามแต่ เขาแค่เป็นคนที่เก่ง เราก็อยากพยายามที่จะทำตัวเองแล้วก็ฝึกไปเรื่อยๆ ให้เป็นคนที่แต่งเพลงเก่ง แล้วก็ให้เพลงออกมาดีเหมือนกันกับเขาค่ะ
Q : สุดท้ายแล้วให้ฝากงานตอนนี้ แล้วก็เผื่อว่าจะมีอะไรออกมาใกล้ๆ นี้หรือเปล่า
A : ตอนนี้ก็ไปฟัง Single ล่าสุดของพลอย แล้วก็ Single ที่ผ่านๆ มาได้หมดใน ทุก streaming platform นะคะ เพลงใหม่ชื่อ Drunk Sleeping In Taxis ฟังได้ทุกที่เลย แล้วก็มี MV อยู่ใน youtube what the duck music สามารถติดตามผลงานของพลอยได้ทางโซเชียลมีเดีย valentina ploy และ what the duck music เลยค่ะ แล้วก็ถ้าจะให้สปอยล์อะไรเล็กๆน้อยๆก็อาจจะแอบบอกได้แค่ว่า ปีนี้ก็มีอีกหนึ่งซิงเกิลค่ะ แต่ยังไม่รู้เลยจะปล่อยเมื่อไหร่ เดี๋ยวไปประชุมต่อเลยค่ะ (หัวเราะ)