The Badass Opera Sword-S(w)inger… มาดมัวแซลล์เดอโมแป็ง ชีวิตจริงแซ่บยิ่งกว่านิยาย

“ความจริงก็คือ เพศทั้งสองมิได้ต้องตรงกับลักษณะของฉัน ฉันไม่มีความหัวอ่อนผ่อนตามอย่างขลาดเขลา ไม่มีความเหนียมอาย ไม่มีจิตริษยาของเพศหญิง ฉันไม่มีความร้ายกาจทั้งหลายที่เพศชายมี ไม่มีความน่ารังเกียจ ไม่ได้เลวทรามตามวิสัย และไม่มีความโน้มเอียงไปในทางโหดร้ายอย่างพวกเขา ฉันเป็นเพศที่สามที่แยกต่างหากออกมาและยังไม่อาจหาคำเฉพาะไว้เรียกขานได้ อาจสูงส่งหรือต่ำต้อย หรืออาจอ่อนด้อยหรือดีเลิศยิ่งกว่าก็ล้วนเป็นได้ ฉันมีร่างกายและวิญญาณของผู้หญิง มีจิตใจและกำลังของผู้ชาย และฉันมีบางสิ่งบางอย่างที่มากกว่าหรืออาจไม่เสมอกับพวกเขาจนไม่อาจเปรียบเทียบกันได้”

นี่เป็นคำพูดที่แสดงตัวตนของมาดเดแลน เดอโมแป็ง ตัวเอกจากนิยาย “มาดมัวแซลล์เดอโมแป็ง” (Mademoiselle de Maupin) ของเธโอฟีย์ โกติเยร์ (Théophile Gautier) ได้ชัดเจนที่สุด คำกล่าวนี้อาจดูไม่แปลกนักถ้าปรากฏอยู่ในนิยายยุคนี้ แต่นี่คือนิยายที่เขียนขึ้นเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้วเมื่อ ค.ศ. 1835 ตั้งแต่โลกยังไม่รู้จักความหลากหลายทางเพศหรือ LGBT movement และได้แรงบันดาลใจมาจากบุคคลที่มีตัวตนจริง ๆ คือ ฌูลี โดบินญี (Julie D’Aubigny) นักร้องอุปรากรและนักดาบที่ชีวิตจริงของเธอมีสีสันยิ่งกว่าตัวละครที่โลดแล่นในนิยายด้วยซ้ำไป

เชื่อกันว่าฌูลี โดบินญีเกิดในช่วง ค.ศ.1670-1673 ที่กรุงปารีส เป็นลูกของเลขานุการของเคานต์ดามาญัค (Comte D’Armagac) ขุนนางในราชสำนักพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส เธอจึงได้เรียนรู้ศาสตร์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านเขียน วาดภาพ เต้นรำ และศิลปะป้องกันตัว รวมถึงฟันดาบ และแต่งกายเช่นเดียวกับลูกชายของขุนนางที่ฝึกหัดเป็นมหาดเล็กด้วย อย่างไรก็ตาม การได้อยู่ใกล้ชิดกับขุนนางใหญ่ก็ไม่ใช่เรื่องพิเศษเสมอไป เพราะเคานต์ดาร์มาญัคให้เธอแต่งงานกับชายหนุ่มที่ทราบแต่เพียงมีนามสกุลว่า เดอโมแป็งตั้งแต่อายุยังน้อย และส่งสามีในนามของเธอลงไปรับราชการทางใต้ของฝรั่งเศส แต่กลับเก็บเธอเอาไว้เป็นภรรยาลับเสียเอง อย่างไรก็ตาม ฌูลีแข็งแกร่งและรักอิสระเกินกว่าจะใช้ชีวิตเป็นนกน้อยในกรงทองของใคร

เมื่อเบื่อชีวิตในปารีสแล้ว ฌูลีก็เดินทางไปมาร์แซย์ (Marseille) แต่งตัวเป็นผู้ชาย จับคู่กับนักดาบและแสดงการฟันดาบเพื่อหาเงินเลี้ยงตัวเอง พอมีคนไม่เชื่อว่าเธอเป็นผู้หญิงเพราะเก่งเกินไป เธอก็พิสูจน์ให้ทุกคนดูว่าเธอเป็นผู้หญิงจริง ๆ ด้วยการถอดเสื้อให้ดูเสียเลย ทำเอาชาวบ้านร้านตลาดตกตะลึงไปตามๆ กัน และเป็นที่มาร์แซย์อีกเช่นกันที่ ฌูลีก่อวีรกรรมสุดแสบเอาไว้หลายอย่างหลังจากเธอเริ่มต้นใช้ความสามารถด้านการร้องเพลงเป็นนักแสดงละครอุปรากรหรือโอเปร่า และระหว่างที่แสดง เธอก็ไปตกหลุมรักหญิงสาวเข้าอีก เมื่อพ่อแม่ของสาวคนนั้นรู้เข้าก็ส่งตัวลูกสาวเข้าคอนแวนต์หรือสำนักนางชี แต่มีหรือที่ฌูลีจะยอมแพ้ ว่ากันว่า เธอกับเพื่อนถึงขั้นบุกอาราม ชิงตัวสาวที่หมายปองออกมา และเหตุดังกล่าวทำให้ฌูลีกลายเป็นนักโทษหนีคดี

ฌูลีกลับไปปารีสอีกครั้ง แต่ก็ยังแต่งตัวเป็นชายออกท่องเที่ยวเป็นครั้งคราว บางครั้งก็ไปดวลดาบกับผู้ชายและบางคนที่เคยต่อสู้ก็ลงเอยด้วยการกลายเป็นเพื่อนกัน ต่อมาเธอได้พบกับกาเบรียล แวงซองต์ เตรเวนาร์ (Gabriel-Vincent Thévenard) นักร้องโอเปร่าและได้กลายเป็นคู่รัก คู่แสดงโอเปร่าด้วยกัน และการแสดงโอเปร่ากับเตรเวนาร์ทำให้ฌูลีเป็นที่รู้จักในนามของ ‘ลาโมแป็ง’ เป็นนางเอกละครที่เป็นที่ชื่นชอบของผู้ชม

เล่าแค่นี้ก็ดูเหมือนจะเป็นตอนจบนิยายแบบมีความสุข แต่ความจริงแล้ว นิยายชีวิตของลาโมแป็งเพิ่งผ่านมาได้แค่ครึ่งเรื่องเท่านั้นเอง เพราะการมีชีวิตที่ราบเรียบเกินไปไม่ใช่แนวทางของเธอ ฌูลีก่อเรื่องอีกจนได้ด้วยการแต่งตัวเป็นชายและจูบหญิงสาวในงานเต้นรำทำให้มีผู้ชายมาท้าดวลเธออีก ซึ่งเธอก็ชนะอีกตามเคย แต่ปัญหาก็คือการดวลดาบเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ทำให้เธอต้องหนีคดีไปถึงเบลเยียม ตามด้วยสเปน เป็นมาแล้วทั้งนักแสดงและคนใช้ในบ้านของเคาน์เตส ก่อนที่จะกลับมาปารีสอีกครั้ง คราวนี้ ไม่เพียงแต่ได้รับการอภัยโทษในความผิดฐานดวลดาบที่เคยก่อไว้ เธอยังกลับมาเป็นนักแสดงโอเปร่ายอดนิยมอีกครั้ง แม้จะเคยก่อเหตุวิวาทถึงขั้นกัดหูนักแสดงชายบนเวทีและมีข่าวคราวว่ามีสัมพันธ์กับชายและหญิงหลายคนก็ตาม

คู่รักคนสุดท้ายของฌูลี โดบินญีหรือลาโมแป็งเป็นหญิงที่ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดคนหนึ่ง คือ มาดาม เดอ ลา มากีส เดอ ฟลอร็องซัค แต่ก็เป็นคนที่ทำให้เธอต้องหลบหนีออกนอกฝรั่งเศสอีกครั้งเช่นกัน เพราะฟลอร็องซัคเป็นที่หมายปองของอุปราชในพระเจ้าหลุยส์ที่สิบสี่ ทว่าเมื่อทุกอย่างคลี่คลาย หญิงสาวทั้งสองก็ได้อยู่ร่วมกันจนกระทั่งฟลอร็องซัคป่วยหนักและเสียชีวิต การจากไปของคนรักทำให้ฌูลีตัดสินใจไปใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในสำนักนางชี และเสียชีวิตลงเมื่อมีอายุเพียง 33 ปี

ถึงจะเสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ ‘ลา โมแป็ง’ หรือ ฌูลี โดบินญีก็ใช้ชีวิตของเธอไปกับการผจญภัยได้เกินคุ้มทีเดียว

References:
1. Mademoiselle de Maupin (Théophile Gautier)

2. Julie D’Aubigny

3. The real life of Julie d’Aubigny

4. This 17th-century sword-swinging opera singer will rule the Internet in 2013

5. Julie D’Aubigny: The 17th Century Bisexual, Cross-Dressing Opera Singer

Written by Piyarak
Illustration by Nipaporn Vattanasiriporn

0 replies

Leave a Reply

Want to join the discussion?
Feel free to contribute!

Leave a Reply